งานวิจัยวัฒนธรรมภาคใต้ 31
ศึกษาค้นคว้ามากขึ้น ซึ่งนอกจากความสนใจเฉพาะตัวของแต่ละคนที่สนใจศึ กษา
ด้านนี้แล้ว ระบบการศึกษาปัจจุบันได้เกื้อกูลให้มีการศึ กษาเรื่องดังกล่าวอย่างกว้าง
ขวางอีกด้วย ความสนใจศึกษามีทั้งที่เป็นการมองวัฒนธรรมในลักษณะเคลื่อนไหว
และการมองวัฒนธรรมในลักษณะที่หยุดนิ่ง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการมองวัฒนธรรมใน
แบบใดล้วนเป็นประโยชน์ทั้งสิ้น แต่ย่อมเป็นที่แน่นอนว่าส�ำหรับยุ คปัจจุบันวิถีชีวิต
ของมนุษย์ ในแต่ละสังคมที่ เคลื่อนเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว การถ่ายทอดและปรับเปลี่ยน
ไปตามเหตุปัจจั ยที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และมีพัฒนาการอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าในแนวทาง
ที่เป็นความเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงหรือที่เรียก ทุนสังคมวัฒนธรรมมีพลวัตนั้น น่า
จะเป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าการศึกษาวิจัยทางวัฒนธรรมคงจะต้องเน้นการมองในลักษณะ
เคลื่อนไหวให้มากกว่าการมองในลักษณะที่หยุดนิ่ง เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว การมีพลวัต
ทางวัฒนธรรมของสังคมของเรา ซึ่งเชื่อมโยงสัมพันธ์กับสังคม-วัฒนธรรมอื่นตลอดมา
โดยมีพลวัตของเราเองตามเหตุ ปัจจัยนานาทั้งจากภายนอกและภายในนั้นก็จะ
ส่งผลให้เกิดความจ�ำกัดต่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาในสังคม - วัฒนธรรมของ
เราได้ และเมื่อนั้นย่อมหมายความว่ า อ�ำนาจและอิทธิพลการครอบง�ำจากภายนอก
ย่อมอยู่เหนือสังคม - วัฒนธรรมของเรา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดเพลี่ยงพล�้ำอย่าง
ล�้ำลึกในการเรี ยนรู้ความรู้และปรีชาญาณที่มีอยู่เดิมอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยที่ได้
มีการปรับประสานให้สอดคล้องกับสังคมมาโดยตลอด จากที่กล่าวมานี้ จึงเห็นได้ว่า
ถึงเวลาแล้ว ที่การศึกษาด้านวัฒนธรรม ควรเป็นไปทั้งการรู้จักตนเองและรู้จั กสิ่งที่
เกี่ยวข้องกับตนให้กว้างขวาง โดยเชื่อมโยงด้วยการศึกษาวิจัยที่มองวัฒนธรรมใน
ลักษณะเคลื่อนไหวให้มากยิ่งขึ้นกว่าการมองในลักษณะที่ หยุดนิ่ง
งานเอกสารที่ ครอบคลุมวิทยานิพนธ์ รายงานวิ จัย บทความและหนังสือ
เกี่ยวกับวัฒนธรรมภาคใต้ได้ด�ำเนินการศึ กษาต่อเนื่องมายาวนานหลายทศวรรษ
โดยที่ผู้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มีทั้งครูอาจารย์ในสถาบันการศึกษาต่างๆ และผู้สนใจ
ทั่วไป ซึ่งมีทั้งชาวภาคใต้และผู้สนใจอื่นๆ งานวิจัยในระยะแรกส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับ
ความสนใจเฉพาะตัว เนื้อหาของงานดังกล่าว จึงปรากฏในลักษณะกระจายไม่มี
จุดเน้นและส่วนใหญ่เป็นงานในลักษณะหยุดนิ่ง แต่ระยะหลังจากที่มีส�ำนักงาน