บทที่ 5
สืบโยดพลังวัฒนธรรมในศิลปะภาคใต้
ชวน เพชรแก้ว
5.1 บทน�ำ
วั
ฒนธรรมเป็
นสิ่
งที่
มนุ
ษย์
สร้
างขึ้
น เป็
นผลสื
บเนื่
องจากพฤติ
กรรมหรื
อความ
สัมพันธ์ของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม มนุษย์กับมนุษย์ และมนุษย์กับสังคม ผลแห่ง
ความสั
มพั
นธ์ที่
มี
มานี้
เป็นไปตามกฎของธรรมชาติ
และกฎอนิ
จจั
งของสั
งคม คื
อ มี
การเกิ
ดขึ้
น ตั้
งอยู่ ปรวนแปร ดั
บไป และเกิ
ดใหม่ วงจรนี้
หมุ
นเวี
ยนเป็นพลวั
ตไม่มี
สิ้นสุด ที่เป็นเช่นนี้เพราะมนุษย์มีสติปัญญา มีความคิดในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ
อยู่ตลอดเวลา ซึ่
งแตกต่างจากสั
ตว์ทั่
วไปที่
มี
วิ
วั
ฒนาการมาอย่างไรก็
สื
บทอดกั
นไป
อย่างนั้
น โดยไม่มี
การเปลี่
ยนแปลง (เอกวิ
ทย์
ณ ถลาง, 2533) นอกจากพฤติ
กรรม
ของมนุ
ษย์เป็นพฤติ
กรรมที่
เกิ
ดขึ้
นเอง หรื
อเกิ
ดจากสั
ญชาตญาณซึ่
งเป็นพฤติ
กรรม
ส่
วนน้
อยแล้
ว พฤติ
กรรมส่
วนใหญ่
หรื
อเกื
อบทั้
งหมดของมนุ
ษย์
เป็
นพฤติ
กรรมที่
เกิ
ด
จากการเรี
ยนรู้ มนุ
ษย์เริ่
มเรี
ยนรู้ตั้
งแต่เกิ
ดไปเรื่
อยๆ จนตาย ผู้เกิ
ดมาในวั
ฒนธรรม
ใดก็จะเรี
ยนรู้สิ่
งต่างๆ ในวั
ฒนธรรมนั้
น การที่
ประชากรของสั
งคมในประเทศต่างๆ
มี
พฤติ
กรรมอย่างเดี
ยวกั
น หรื
อแตกต่างกั
นไปนั้
น เพราะมี
การเรี
ยนรู้ต่างกั
นไปตาม
วั
ฒนธรรมของตน การกระท�
ำดั
งกล่าวท�
ำให้วั
ฒนธรรมของสั
งคมแตกต่างกั
น การ
เรี
ยนรู้
ที่
กล่
าวแล้
วรวมถึ
งการเรี
ยนรู้
แบบรู้
ตั
วหรื
อไม่
รู้
ตั
วด้
วย โดยผ่
านสื่
อกลางที่
เป็
น