106
สืบโยดสาวย่าน
ผลงานที่
ศึ
กษาขาดการมองบทบาทการจั
ดการ และกระบวนการการมี
ส่
วนร่
วมของชุ
มชน งานที่
ศึ
กษาเชิ
งประเมิ
นสภาพชุ
มชน งานที่
ยกระดั
บพฤติ
กรรมเชิ
ง
ปัจเจกสู่การมี
ส่วนร่วมของชุ
มชนดั
งกล่าวนี้
ยั
งมี
ค่อนข้างน้อย กรอบของการศึ
กษา
ยั
งคงจ�
ำกั
ดเฉพาะบางปั
จจั
ย โดยขึ้
นอยู่
กั
บเงื่
อนไขที่
เห็
นว่
ามี
ความส�
ำคั
ญ และที่
ผู้
มี
ทุ
นและทางหรื
อพื้
นฐาน ผลงานจึ
งมั
กเริ่
มต้
นจากองค์
ความรู้
ของผู้
เชี่
ยวชาญ ละเลย
องค์
ความรู้
ชุ
มชนที่
ใช้
การได้
จริ
งในชี
วิ
ตประจ�
ำวั
น อย่
างไรก็
ตามมี
งานศึ
กษาแนววิ
จั
ย
ชุ
มชนที่
น�
ำองค์ความรู้ชาวบ้านอั
นเป็นความรู้เชิ
งปฏิ
บั
ติ
เพื่
อการแก้ปัญหาอยู่บ้าง
ผลงานการศึ
กษาที่
น�ำองค์
ความรู้
ของชาวบ้
านมาประยุ
กต์
ใช้
กั
บการพั
ฒนา
มี
อยู่
อย่
างจ�
ำกั
ด โดยใช้
กรอบวิ
เคราะห์
เชิ
งผลกระทบที่
มี
ต่
อชุ
มชนที่
เป็
นลั
กษณะของ
การสรุ
ปบทเรี
ยน
ผลงานศึ
กษาวิ
จั
ยโดยชุ
มชนหรื
อการวิ
จั
ยปฏิ
บั
ติ
การที่
ยกบทบาทให้
แก่
ผู้เกี่
ยวข้องในท้องถิ่
นเป็นผู้ด�
ำเนิ
นการมากกว่าการที่
ผู้เกี่
ยวข้องเป็นเพี
ยงผู้ให้ข้อมูล
อย่
างที่
เป็
นมาแต่
เดิ
มเพี
ยงอย่
างเดี
ยว มี
การวิ
จั
ยเชิ
งปฏิ
บั
ติ
การชุ
มชนที่
ใช้
เครื่
องมื
อใน
การวิ
จั
ยอย่
างหลากหลาย และมี
งานศึ
กษาที่
หยิ
บยกชุ
มชนซึ่
งใช้
วั
ฒนธรรมเดิ
มของ
ตนมาปรั
บใช้ให้เข้ากั
บกระบวนการเปลี่
ยนแปลง แต่งานเหล่านี้
ยั
งมี
ค่อนข้างน้อย
ผลงานศึ
กษาเกี่
ยวกั
บพลั
งความคิ
ดและภูมิ
ปั
ญญามั
กเป็
นเชิ
งอุ
ดมการณ์
มากกว่าความหมายที่
เกี่
ยวข้องกั
บการพั
ฒนา คื
อ มี
กระบวนการที่
ไม่เกี่
ยวข้องกับ
กระบวนการเรียนรู้อย่
างต่
อเนื่อง ยังมองพลังความคิดและภูมิปั
ญญาเป็
นกระแส
รองมิ
ใช่
กระแสหลั
กที่
จะน�
ำมาใช้
ประโยชน์
และงานศึ
กษาส่
วนใหญ่
ถูกกลื
นไปตาม
แบบเก่าๆ มองปัญหาแคบๆ ไม่มี
การต่อยอด
การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ที่เป็นส�ำนึ
กท้องถิ่นมีน้อย ชุมชนจึง
มิ
ได้ก�
ำหนดความหมาย เรื่
องราวอั
นเป็นสิ่
งสะท้อนวั
ฒนธรรมที่
เป็นเอกลั
กษณ์ของ
ตนเองอย่
างแท้
จริ
ง ท�
ำให้
กระบวนการเรี
ยนรู้
ของนั
กวิ
จั
ยและชุ
มชนพร้
อมกั
บการ
สร้างความสั
มพั
นธ์ระหว่างกั
นขาดความกลมกลื
น