งานวิจัยวัฒนธรรมภาคอีสาน
229
จ�
ำเป็
นที่
ผู้
น�
ำทั้
งภาครั
ฐและเอกชนและท้
องถิ่
นจะต้
องทบทวนและสร้
างความเข้
าใจ
ถึ
งการพั
ฒนาที่
ไม่
ตั
ดรากทางวั
ฒนธรรมของตนเอง นี่
คื
อความหมายของวั
ฒนธรรม
กั
บการพั
ฒนา
9. ในการสั
งเคราะห์งานวิ
จั
ยในครั้
งนี้
ท�ำให้มองเห็
นว่า แนวความคิ
ดในการ
วิ
จั
ยวั
ฒนธรรมกั
บการพั
ฒนานั้
นเป็
นแนวความคิ
ดแบบแยกเป็
นส่
วนๆ เช่
นแยกเป็
น
เศรษฐกิ
จ จิ
ตใจ การเมื
อง สั
งคม วั
ฒนธรรมและสิ่
งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่
งแนวคิ
ด
การพั
ฒนาแบบแยกส่วนนั้
นมั
กก่อให้เกิ
ดปัญหาตามมาอีกมากมาย โดยธรรมชาติ
แล้
วสรรพสิ่
งทั้
งหลายไม่
แยกส่
วน แต่
จะเชื่
อมโยงกั
นเป็
นหนึ่
งเดี
ยวกั
น เศรษฐกิ
จ
จิตใจ การเมือง สังคมวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ล้วนเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกัน
ถ้
าองค์
ประกอบเหล่
านี้
เชื่
อมโยงกั
นเป็
นบูรณาการก็
จะก่
อเกิ
ดความสมดุ
ลซึ่
งจะ
ก่อให้เกิ
ดความมั่
นคงที่
ยั่
งยื
น
10. แหล่งข้อมูลงานวิ
จั
ยมี
สภาพอยู่กระจั
ดกระจาย ตามสถาบั
นการศึ
กษา
องค์กรต่างๆ ทั้
งภาครั
ฐ เอกชนและหน่วยงานที่
ให้ทุ
นวิ
จั
ย นอกจากนี้
ยั
งมี
ผลงาน
จ�
ำนวนมากที่
ยั
งไม่ได้ตี
พิ
มพ์เผยแพร่จึ
งท�
ำให้ยากแก่การเข้าถึ
งแหล่งข้อมูล
11. การศึ
กษาวิ
จั
ยส่
วนมากจะมี
หั
วข้
อเรื่
องเหมื
อนกั
นหรื
อคล้
ายคลึ
งกั
น
เป็
นจ�
ำนวนมาก จะแตกต่
างกั
นบ้
างเฉพาะพื้
นที่
ท�ำการวิ
จั
ย ท�
ำให้
งานวิ
จั
ยมี
ลั
กษณะ
ซ�้
ำซ้อนกั
นก่อให้เกิ
ดการสูญเสี
ยทั้
งเวลาและการลงทุ
น
12. การสั
งเคราะห์
ข้
อมูลบรรณานิ
ทั
ศน์
ในครั้
งนี้
มี
ข้
อจ�
ำกั
ดในเรื่
อง
รายละเอี
ยดของข้
อมูล ข้
อมูลขาดความชั
ดเจนเพราะสาระที่
น�ำเสนอสั้
นมาก กล่
าวคื
อ
บรรณานิ
ทั
ศน์แต่ละเรื่
องมี
ความยาวเพี
ยง 4-5 บรรทั
ด จึ
งเป็นการยากที่
จะอธิ
บาย
ให้เห็
นถึ
งแนวคิ
ดทฤษฎี
และกระบวนการในการด�
ำเนิ
นงานของผู้วิ
จั
ยได้
การศึ
กษาสั
งเคราะห์
ความรู้
งานวิ
จั
ยเรื่
องวั
ฒนธรรมกั
บการพั
ฒนานั้
นยั
งมี
ข้อจ�
ำกั
ดหลายประการที่
ใคร่เสนอแนะไว้ดั
งนี้
คื
อ
1. เพื่
อให้
การศึ
กษาสั
งเคราะห์
ความรู้
แนวคิ
ดทฤษฎี
และข้
อค้
นพบใน
ครั้
งต่
อไป ควรท�
ำการสั
งเคราะห์
จากบทคั
ดย่
อของงานวิ
จั
ยเพราะมี
รายละเอี
ยด
มากกว่าจะท�
ำให้สามารถทราบถึ
งแนวคิ
ดทฤษฎี
ที่
ใช้ในการวิ
จั
ย