230
โสวัฒนธรรม
2. หน่
วยงานภาครั
ฐและเอกชน ควรส่
งเสริ
มสนั
บสนุ
นให้
มี
การศึ
กษาวิ
จั
ยให้
เพิ่
มมากขึ้
น ด้
วยการเพิ่
มงบประมาณให้
สถาบั
นต่
างๆ ท�
ำการรวมรวมผลงานวิ
จั
ยใน
ทุ
กแขนงไว้ให้ได้มากที่
สุ
ดเพื่
อให้นั
กศึ
กษาและบุ
คคลทั่
วไปได้ใช้ศึ
กษา
3. การศึ
กษางานวิ
จั
ยด้
านวั
ฒนธรรมของภาคตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อ ยั
งมี
จ�
ำนวนค่
อนข้
างน้
อยและกระจุ
กอยู่
ในกลุ่
มของนั
กวิ
จั
ยในมหาวิ
ทยาลั
ยเป็
นส่
วนใหญ่
นั
กวิจัยท้องถิ่นหรือคนในท้องที่ยังขาดโอกาสที่จะท�ำการศึกษาวิจัยทั้งนี้เพราะไม่มี
ทุ
นสนั
บสนุ
นหรื
อเข้าถึงแหล่งทุ
นได้ยาก
4. ควรมีการสร้
างนั
กวิจัยรุ่นใหม่
รวมทั้งเปิ
ดโอกาสให้
นั
กวิจัยท้องถิ่นได้
มี
ส่วนร่วมในการท�
ำงานวิ
จั
ยให้มากขึ้
น
5. หน่
วยงานภาครั
ฐและเอกชนควรจั
ดสรรงบประมาณสนั
บสนุ
นงานวิ
จั
ย
ให้มี
จ�
ำนวนมากขึ้
น
6. ผลงานวิ
จั
ยส่
วนใหญ่
เป็
นงานวิ
จั
ยที่
เป็
นองค์
ความรู้
เบื้
องต้
นเท่
านั้
น ไม่
สามารถน�
ำไปเป็
นแม่
แบบที่
สามารถน�
ำไปสู่
การปฏิ
บั
ติ
ที่
ได้
ผลจริ
ง ท�
ำให้
ผลประโยชน์
ที่
ได้รั
บไม่คุ้มค่ากั
บเวลาและทุ
นที่
ลงไป
7. ผลงานส่
วนใหญ่
หลั
งการสั
งเคราะห์
ข้
อมูลภาคสนามแล้
วไม่
ได้
ส่
งให้
ชุ
มชน
หรื
อผู้มี
ส่วนได้เสี
ยตรวจสอบความถูกต้อง
8. ในโอกาสต่
อไปควรมี
การศึ
กษาสั
งเคราะห์
งานวิ
จั
ยย้
อนหลั
งให้
ได้
มาก
ที่
สุ
ดเพื่
อที่
จะมองเห็
นภาพพั
ฒนาการของงานวิ
จั
ยในภาคตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อหรื
อ
ประกาศได้ชั
ดเจนยิ่
งขึ้
น