บทที่ 1 บทนำ�
สมศั
กดิ์
ศรี
สั
นติ
สุ
ข
ค�
ำว่
าวั
ฒนธรรม (culture) นี้
มี
คนที่
เข้
าใจสั
บสน ท�
ำให้
มี
ความเข้
าใจที่
แตกต่
าง
กั
นตามความรู้และพื้
นฐานของตน พอจะแยกความหมายของวั
ฒนธรรมได้ ดั
งนี้
วั
ฒนธรรมในทางภาษานั้
น ค�
ำว่าวั
ฒนธรรมเป็นค�
ำที่
มาจากภาษาบาลี
และ
สั
นสกฤต ค�
ำว่
า “วั
ฒน” เป็
นภาษาบาลี
แปลว่
า สิ่
งที่
เจริ
ญงอกงาม ความก้
าวหน้
า
“ธรรม” เป็
นภาษาสั
นสกฤต หมายถึ
ง คุ
ณความดี
เมื่
อมารวมกั
นแล้
วมี
ความหมาย
ถึงคุณธรรมหรือลักษณะที่แสดงถึงความเจริญงอกงาม ความหมายดังกล่าวนี้
คน
ทั่
วไปมั
กจะเข้าใจกั
น
นอกจากนี้วัฒนธรรมในแง่ที่ใช้กันทั่วๆ ไปอีกอย่างหนึ่
ง คือ วัฒนธรรมมัก
จะหมายถึ
งบรรดาขนบธรรมเนี
ยมประเพณีต่
างๆ ที่
ตกทอดมาตั้
งแต่
บรรพบุ
รุ
ษ
เช่
น พิ
ธี
แห่
เที
ยนเข้
าพรรษา พิ
ธี
ท�
ำบุ
ญสงกรานต์
พิ
ธี
ท�
ำบุ
ญเทศน์
มหาชาติ
และ
พิ
ธี
ทอดกฐิ
น เป็
นต้
น บางครั้
งวั
ฒนธรรมมี
ความหมายถึ
งพฤติ
กรรมที่
บุ
คคล
ชั้
นสูงได้
ปฏิ
บั
ติ
กั
น หรื
อบุ
คคลที่
มี
ระดั
บการศึ
กษาสูงปฏิ
บั
ติ
กั
น ท�
ำให้
มี
การ
เปรี
ยบเที
ยบระหว่
างคนชั้
นสูงและคนชั้
นต�่
ำ คื
อ ถ้
าหากว่
าคนชั้
นต�่
ำท�
ำผิ
ดวั
ฒนธรรม
ก็
จะถูกกล่าวว่าเป็นคนที่
ไม่มี
วั
ฒนธรรม