Page 236 - 089 รุกข มรดกของแผ่นดิน
P. 236
232
ต้นเสลา
ชื่อสามัญ -
ชื่อวิทยาศาสตร์ Lagerstroemia villosa Wall. ex Kurz
ชื่อวงศ์ LYTHRACEAE
ชื่อเรียกอื่น เคี้ยเนี้ย มูลเถ้ำ (เลย), แค้วเนื้อ (เพชรบูรณ์), เปื๋อยสำร เสลำด�ำเส้ำหมื่น (ภำคเหนือ),
สมอรัด (พิจิตร, สุรำษฎร์ธำนี), เสลำใบเล็ก (กำญจนบุรี), เสลำเปลือกหนำ (ก�ำแพงเพชร)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
เป็นต้นไม้ขนำดกลำงโตช้ำ สูง ๑๐ - ๓๐ เมตร เปลือกต้นสีน�้ำตำลเทำ ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ำม
รูปไข่หรือรูปรี กว้ำง ๒.๕ เซนติเมตร ยำว ๕ - ๑๓ เซนติเมตร มีขนละเอียดทั้งสองข้ำง ช่อดอกเป็นช่อกระจุกแน่น
ออกตำมปลำยกิ่ง ดอกสีขำว รูประฆัง ดอกตูมรูปกรวย ขนำดเส้นผ่ำนศูนย์กลำงประมำณ ๓ มิลลิเมตร
ออกดอกเดือนกุมภำพันธ์ - มิถุนำยน ขยำยพันธุ์ด้วยเมล็ดต้นเสลำขึ้นตำมป่ำเบญจพรรณ ป่ำดิบ และป่ำชำยหำด
พบทำงภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ภำคตะวันออก และภำคกลำง ลงไปถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประโยชน์
ไม้ท�ำเครื่องแกะสลัก ด้ำมเครื่องมือ ท�ำพื้น รอด ตง คำน ปลูกเป็นไม้ประดับ
Ton Salao
Common name -
Scientific name Lagerstroemia villosa Wall. ex Kurz
Family name LYTHRACEAE
Other names Kia Nia, Mul Tao (Loei), Kwao Nua (Phetchabun), Puai Sao,
Salaodam Saomuean (Northern Thailand), Samor Rad (Phichit, Surat Thani),
Salao Bailek (Kanchanaburi), Salao Pluak Na (Kamphaeng Phet)
Botanical characteristics
It is a medium-sized and slow growing tree with the height of 10 - 30 meters. The bark is brown and gray. The tree has simple leaves
arranged in opposite pattern. The leaf is ovate or oval with 2.5 centimeters wide and 5 - 13 centimeters long. There is fine hair on both sides. The
flowers grow in inflorescences at the ends of the branches. The flower is white and has a bell shape. The bud has a conical shape with the diameter
of three millimeters. The flowering time is in February - June. The tree propagates by seeds. Salao trees grow in mixed forests, evergreen forests,
and beach forests. They are found in Northeast Thailand, Eastern Thailand, and Central Thailand down to Prachuap Khiri Khan Province. The wood
is used for carving machine, tool handles, floors, floor beams, joists, beams. The trees are planted as ornamental plants.
232