

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงสามารถเล่นดนตรี
แจ๊สได้ทั้งชนิดมีโน้ตและไม่มีโน้ต พระอัจฉริยภาพของพระองค์จะปรากฏเด่นชัดใน
ตอนทรงแสดงเดี่ยว (solo) เพราะการแสดงเดี่ยวดนตรีแจ๊ส ที่ศัพท์ดนตรีเรียกว่า
Solo Ad Lib จะต้องใช้การเล่นสดแบบฉับพลัน (Improvisation) หรือที่มีผู้บัญญัติ
ศัพท์ว่า คีตะปฏิภาณ เป็นเรื่องยาก ผู้เล่นต้องใช้ปฏิภาณแต่งเนื้อหาใหม่ขึ้นอย่าง
ฉับพลันแต่ให้อยู่ในกรอบและจังหวะของแนวเพลงนั้น
เมื่อเสด็จนิวัตกลับประเทศไทยเป็นการถาวร ในปี พุทธศักราช ๒๔๙๓
ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาท
ร่วมเล่นดนตรี จึงเกิดวงดนตรีส่วนพระองค์ขึ้น ซึ่งมีด้วยกัน ๓ วง คือ วงลายคราม
วงดนตรี อ.ส. วันศุกร์ และ วงดนตรีสหายพัฒนา
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงใช้ดนตรีเป็น
สื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับประชาชน นอกจากประชาชนทั่วไปแล้ว
ในหมู่นิสิตนักศึกษามีประเพณีที่ส�ำคัญอย่างหนึ่งคือ
“วันทรงดนตรี”
ซึ่งเป็นวันที่
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงร่วมบรรเลงดนตรีกับวงดนตรี
ของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ วันทรงดนตรีมีขึ้นในระหว่าง พุทธศักราช ๒๕๐๐ –
๒๕๑๖ เริ่มจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันแรก ต่อมาทรงพระกรุณาเสด็จ
พระราชด�ำเนินทรงดนตรีที่มหาวิทยาลัยอื่นอีก ได้แก่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
วันทรงดนตรีจึงเป็นวันที่ชาวมหาวิทยาลัยได้ชื่นชมพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีของ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกันนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถทรงบรรเลงเปียโน และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทรงขับร้อง นับเป็น
โอกาสอันดีที่นิสิตนักศึกษาและคณาจารย์ได้ชื่นชมพระบารมี และพระปรีชาสามารถ
ด้านดนตรีของทุกพระองค์ รวมทั้งได้รับฟังพระราชด�ำรัสที่มีคติเตือนใจอีกด้วย จาก
วโรกาสนี้ นักดนตรีวงมหาวิทยาลัยหลายคนมีโอกาสถวายตัวเป็นสมาชิกวงดนตรี
อ.ส. วันศุกร์ในเวลาต่อมา
48