

นอกจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะทรงเป็น
นักดนตรีที่มีฝีมือยอดเยี่ยมแล้ว พระองค์ยังทรงเป็นนักแต่งเพลงที่ทรงพระปรีชา
สามารถยิ่งอีกด้วยโดยทรงพระราชนิพนธ์ทั้งท�ำนองและค�ำร้อง พระองค์ทรงเริ่ม
พระราชนิพนธ์เพลงเมื่อประมาณต้นปี พ.ศ. ๒๔๘๙ เมื่อครั้งตามเสด็จพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลนิวัตพระนคร พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์เพลงแรกคือ
“แสงเทียน” ซึ่งเป็นเพลงบลูส์ และได้พระราชทานท�ำนองเพลงพระราชนิพนธ์นี้
ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์ค�ำร้อง แม้จะทรง
พระราชนิพนธ์เพลง “แสงเทียน” เป็นเพลงแรก แต่ทรงต้องการแก้ไขบางส่วน จึง
ยังไม่โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้น�ำออกบรรเลงจนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๙๐ โดยมี
เนื้อหาพรรณนาความทุกข์ กรรม ความตายและความเป็นอนิจจังตามคติพุทธ
เปรียบชีวิตที่สิ้นสุดกับแสงเทียนที่ดับสิ้น เนื้อเพลงเศร้าสร้อยสอดคล้องกับท�ำนอง
เพลงพระราชนิพนธ์
เพลงพระราชนิพนธ์ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานออกมาเผย
แพร่เป็นเพลงแรก ๆ คือ
“ยามเย็น”
และ
“สายฝน”
เมื่อทรงพระราชนิพนธ์ท�ำนอง
เพลงแล้ว ได้ทรงพระกรุณาพระราชทานให้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์
เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์ค�ำร้อง เพลงพระราชนิพนธ์ สายฝน น�ำออกบรรเลงครั้งแรก
โดยวงดนตรีสุนทราภรณ์ ในงานรื่นเริงของสมาคมปราบวัณโรค ณ เวทีลีลาศ
สวนอัมพร เมื่อวันเสาร์ที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๘๙ เป็นที่ซาบซึ้งประทับใจ
ของพสกนิกรอย่างยิ่ง เพลงพระราชนิพนธ์ยามเย็น ในจังหวะฟ็อกซ์ทร๊อตเหมาะ
ส�ำหรับการเต้นร�ำที่คนไทยสมัยนั้นนิยมกัน ส่วนเพลงพระราชนิพนธ์ สายฝน ซึ่งทรง
พระราชนิพนธ์หลังจากเพลงพระราชนิพนธ์ยามเย็น เพียงเดือนเดียว เป็นเพลง
ในจังหวะวอลซ์ที่มีลีลาสง่างาม อ่อนหวาน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชนิพนธ์
เพลงต่อเนื่องมาอีกหลายสิบปี นับตั้งแต่ต้นปี พุทธศักราช ๒๔๘๙ จนถึงปลายปี
พุทธศักราช ๒๕๓๘ มีเพลงพระราชนิพนธ์รวมทั้งสิ้น ๔๘ เพลง ทั้งในจังหวะวอลซ์ สโลว์
ควิกสเต็ป มาร์ช ไลท์มิวสิค ฯลฯ
52