14
เมื่อทราบความหมายของคำ�ว่า
“สงกรานต์”
และความหมายของวันต่างๆแล้ว
หลายคนอยากทราบความเป็นมาของนางสงกรานต์ ซึ่งนางสงกรานต์ไม่มีตัวตนจริง
แต่เป็นคติความเชื่อที่ปรากฏอยู่ใน
“ตำ�นานสงกรานต์”
ซึ่งรัชกาลที่ ๓ ให้
จารึกลงในแผ่นศิลาติดไว้ในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) เป็นเรื่องเล่า
ถึงความเป็นมาของประเพณีดังกล่าว ซึ่งเป็นอุบายเพื่อให้ คนโบราณ ผู้ไม่รู้หนังสือ
ได้รู้ว่าวันมหาสงกรานต์ คือ วันที่พระอาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีเมษ สมัยนั้นถือเป็น
วันขึ้นปีใหม่ตามสุริยคติตรงกับวันใดโดยสมมุติผ่านนางสงกรานต์ทั้งเจ็ด
เทียบกับแต่ละวันในสัปดาห์โดยมีเรื่องเล่าว่า
มีเศรษฐีคนหนึ่งไม่มีบุตร จึงถูกนักเลงสุราข้างบ้านซึ่งมีบุตรสองคนกล่าว
คำ�หยาบคาย ดูหมิ่นในทำ�นองว่าถึงจะรํ่ารวยเงินทอง แต่ก็ไม่มีบุตรสืบสกุล
ตายไปสมบัติก็สูญเปล่าสู้ตนผู้มีบุตรก็ไม่ได้ เศรษฐีได้ฟังแล้วเกิดความละอาย
จึงไปบวงสรวงพระอาทิตย์และพระจันทร์ เมื่อเวลาผ่านไปสามปีก็ยังไม่มีบุตร
อยู่มาวันหนึ่งเป็นวันนักขัตฤกษ์สงกรานต์ จึงได้ไปอธิษฐานขอบุตรจากพระไทร
พระไทรสงสารจึงไปขอพระอินทร์ ท่านจึงได้ส่งธรรมบาลเทวบุตรจุติมาเกิดเป็น
ลูกเศรษฐีมีชื่อว่า
ธรรมบาลกุมาร
ซึ่งเมื่อเจริญวัยขึ้นก็รู้จักภาษานก และเรียน
ไตรเพทจบเมื่ออายุเพียงเจ็ดปี ต่อมาได้เป็นอาจารย์บอกมงคลการต่าง ๆ
แก่มนุษย์ แต่ขณะนั้น
ท้าวกบิลพรหม
เป็นผู้ทำ�หน้าที่แสดงมงคลทั้งปวงแก่มนุษย์
อยู่ก่อนแล้ว จึงเกิดความไม่พอใจไปท้าธรรมบาลกุมารให้ตอบปริศนาสามข้อ
โดยมีข้อแม้ว่าหากธรรมบาลกุมารตอบไม่ได้ จะต้องตัดศีรษะบูชาตน หากตอบ
ได้ตนก็จะตัดศีรษะบูชาธรรมบาลกุมารแทน ปริศนาดังกล่าวมีอยู่ว่า
างสงกรานต์
น
เกี่ยวกับ
สงกรานต์อย่างไร ?