ทําเนียบคณะนักแสดงพื้นบาน
Directory of folk ensemble
งิ้ว: รากศัพทและความหมาย
‘งิ้ว’ เปนคําที่ใชกันในประเทศไทยและมีความหมายวา ‘ละครจีน’
ในสมัยอยุธยาชาวไทยเรียกการแสดงของจีนนี้วาอยางไรไมมีหลักฐานปรากฏแนชัด ตราบจนถึงสมัยกรุงธนบุรี
รัชสมัยพระเจาตากสินมหาราช พระองคทรงมีเชื้อสายจีน ชาวจีนจึงไดอพยพเขามาอยูเมืองไทยมากขึ้น คําที่ใชเรียก
การแสดงของ จีนวา ‘งิ้ว’ จึงเริ่มปรากฏในสมัยนี้
ขณะที่ในพระราชนิพนธเรื่องอิเหนาของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลานภาลัย ตอนอภิเษกพระราชบุตรและ
พระราชธิดาสี่พระนคร ปรากฏคําวางิ้วขึ้นมาอีกเชนกันวา “ชองระทาหุนจีนงิ้วเจ็ก ละครแขกเล็กเล็กใสหัวสูง” นอกจาก
นี้คําวา ‘งิ้ว’ ยังปรากฏอีกมากมายในวรรณกรรมและจดหมายเหตุตาง ๆ เชน เสภาเรื่องขุนชางขุนแผน หรือจดหมายเหตุ
ความทรงจําของกรมหลวงนรินทรเทวี เปนตน
ทั้งนี้ หากจะสืบความเปนมาของคําวา ‘งิ้ว’ จากคําไทยแลว ไมปรากฏคําไทยคําใดที่มีทั้งเสียงและความหมาย
ใกลเคียงกันพอที่จะสืบคนประวัติของคํานี้ไดเลย แตเมื่อพิจารณาวา ‘งิ้ว’ เปนการแสดงของชาวจีน คําวา ‘งิ้ว’ นาจะได
อิทธิพลมาจากคําจีน ซึ่งการแสดงที่ไทยเรียกวา ‘งิ้ว’ นั้น ชาวจีนเรียกวา (ซี่) (ฮี่) บาง (จวี้) (เกี๊ยะ) บาง และเรียก
ผูแสดงการละเลนชนิดนี้วา (อิว) ตามสําเนียงที่แตกตางกันของคนจีนแตละถิ่น
เสนทางสายงิ้วลูเมืองไทย
ที่ใดมีชาวจีนอาศัยอยูเปนกลุมใหญแลว สี่งที่ขาดไมได คือ ‘ศาลเจา’ ชีวิตความเปนอยูของชาวจีนกับศาลเจามี
ความผูกพันกันอยางลึกซึ้งมาโดยตลอด งานประจําปที่สําคัญยิ่งคืองานวันเกิดเจาและงานตอบแทนบุญคุณเจา ในชวงเวลา
ดังกลาวชาวจีนจะมีการวาจางงิ้วมาแสดงเพื่อเปนการเฉลิมฉลอง ซึ่งความเชื่อนี้เองเปนสาเหตุใหการแสดงงิ้วขยายเขามา
สูเมืองไทย
ยุคที่เฟองฟูที่สุดของการแสดงงิ้วในเมืองไทยเปนชวงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว รัชกาลที่ ๕
ชวงนั้นมีการอพยพแรงงานจีนสูประเทศไทยเปนจํานวนมาก คณะงิ้วจากเมืองจีนก็ไดเดินทางไปแสดงในตางประเทศมากขึ้น
รวมถึงประเทศไทย
งิ้วจากประเทศจีนที่เขามาแสดงในประเทศไทย ชวงแรกจะไมใชงิ้วแตจิ๋วเหมือนในปจจุบัน จะเปนงิ้ว ๔ ประเภท
คือ งิ้วไซฉิ้ง งิ้วงั่วกัง งิ้วเจี่ยอิม งิ้วแปะหยี่ ซึ่งไดรับความนิยมอยางมาก
ตอมางิ้วแตจิ๋วหรือที่ชาวจีนเรียกวา ‘ฉาวโจวซี่’ (เตี่ยจิวฮี่) ซึ่งเปนงิ้วทองถิ่นชนิดหนึ่งทางตอนใตของจีนที่เจริญขึ้นที่
เมืองแตจิ๋ว มณฑลกวางตุง งิ้วแตจิ๋วจึงไดเริ่มเดินทางมาแสดงยังเมืองไทยมากขึ้น และทําใหงิ้วประเภทอื่น ๆ ลดความนิยมลง
เนื่องจากชาวจีนสวนใหญที่อยูในเมืองไทยเปนคนจีนแตจิ๋ว ภาษาแตจิ๋วจึงเกือบเปนภาษากลางของคนจีนในเมืองไทย
ประเภทของงิ้ว
ปจจุบันถาจะจําแนกประเภทของงิ้วที่ใชคนแสดงคงจะแยกไดเพียง ๒ ประเภทเทานั้น คือ งิ้วหลวงและงิ้วทองถิ่น
งิ้วหลวง ภาษาจีนกลาง เรียกวา จิงจวี้ กั่วจวี้ หรือผิงจวี่ (เกียเกี๊ยะ กกเกี๊ยะ เผงเกั๊ยะ-แตจิ๋ว) ถือกันวาเปนงิ้ว ประจําชาติจีน
มีมาตรฐานแนนอน ทั้งดานลีลา ทาทางการรายรํา ทวงทํานอง ดนตรีที่ใชประกอบ จังหวะดนตรี เนื้อหา การแตงกาย
การแตงหนา ทุกอยางเปนไปตามแบบแผนที่ครูงิ้วกําหนดมาตั้งแตสมัยโบราณอยางเครงครัด
งิ้วทองถิ่น ภาษาจีนเรียกวา ตี่ฮึงซี่ (ตี้ฟงซี่) เปนงิ้วที่มีวิวัฒนาการมาจากการละเลนพื้นบานของชาวเมืองในทองถิ่น
นั้น ๆ ชาวบานมีการดัดแปลงเอาการแสดงใหม ๆ ที่ไดรับมาเปนแบบอยางของตน หรือบางครั้งอาจจะรวมเขากับ
การละเลนพื้นบานที่มีอยู แตยังคงไวซึ่งลักษณะเฉพาะของทองถิ่นนั้น ๆ
๑๙๑
ทําเนียบค ะนักแสดงื้ นบาน
irectory of folk ense bleิ้
ว:ั
พ แ
‘งิ้ว’ เ นคําี่ ใชกันใ ระเ ศไ ยและมีความ มายวา ‘ละครจีน’
ใ สมัยอยุธยาชาวไ ยเรียกการแสดงของจีนี้ วาอยางไรไมมีหลักฐา ราก แ ชัด ตรา จ ถึงสมัยกรุงธุ รี
รัชสมัย ระเจาตากสินม าราช ระองคทรงมีเชื้อสายจีน ชาวจีนจึงไดอ ย เขามาอยูเมืองไ ยมากขึ้น คําี่ ใชเรียก
การแสดงของ จีนวา ‘งิ้ว’ จึงเริ่ม ราก ใ สมัยี้
ข ะี่ ใ ระราชิ พ ธเรื่องอิเ าของ ระ า สมเด็จ ระุ ทธเลิศ ลา าลัย ตอ อิ เ ก ระราชุ ตรและ
ระราชธิดาสี่พระ คร ราก คําวางิ้วขึ้นมาอีกเชนกันวา “ชองระ าุ นจีนงิ้วเจ็ก ละครแขกเล็กเล็กใสหัวสูง” อกจากี้
คําวา ‘งิ้ว’ ยัง ราก อีกมากมายใ ว ร ก รมและจด มายเหตุตาง ๆ เชน เส าเรื่องขุนชางขุนแผ รือจด มายเหตุ
ความ รงจําของกรม ลวง ริน รเทวี เปนตน
ั้
งี้ ากจะสืบความเ นมาของคําวา ‘งิ้ว’ จากคําไ ยแลว ไมปราก คําไ ยคําใดี่ มีทั้งเสียงและความ มาย
ใกลเคียงกัน อี่ จะสืบคน ระวัติของคําี้ ไดเลย แตเมื่อิ จาร าวา ‘งิ้ว’ เปนการแสดงของชาวจีน คําวา ‘งิ้ว’ าจะได
อิทธิพลมาจากคําจีน ซึ่งการแสดงี่ ไ ยเรียกวา ‘งิ้ว’ ั้น ชาวจีนเรียกวา (ซี่) (ฮี่) าง (จวี้) (เกี๊ยะ) าง และเรียก
ผูแสดงการละเลนชิ ดี้ วา (อิว) ตามสําเนียงี่ แตกตางกันของค จีนแตละถิ่น
เ น ง งิ้วู เื องไ
ี่
ใดมีชาวจีนอาศัยอยูเ นกลุมใ แลว สี่งี่ ขาดไมได คือ ‘ศาลเจา’ ชีวิตความเ นอยูของชาวจีนกับศาลเจามี
ความผูกั นกันอยางลึกซึ้งมาโดยตลอด งา ระจํา ที่สําคัญยิ่งคืองา วันเกิดเจาและงา ตอ แุ ญคุณเจา ใ ชวงเวลา
ดังกลาวชาวจีนจะมีการวาจา งิ้วมาแสดงเื่ อเ นการเฉลิมฉลอง ซึ่งความเชื่อี้ เองเ นสาเ ตุใ การแสด งิ้วขยายเขามา
สูเมืองไ ย
ยุคี่ เ องู ที่สุดของการแสด งิ้วใ เมืองไ ยเ นชวงสมัย ระ า สมเด็จ ระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว รัชกาลี่
ชวงั้ นมีการอ ย แร งา จีนสูประเทศไ ยเปนจํา ว มาก ค ะงิ้วจากเมืองจีนก็ไดเดิน างไ แสดงใ ตาง ระเทศมากขึ้น
รวมถึง ระเทศไ ย
งิ้วจาก ระเทศจีนี่ เขามาแสดงใ ระเทศไ ย ชวงแรกจะไมใชงิ้วแตจิ๋วเหมือ ใ จุบัน จะเปนงิ้ว ระเภ
คือ งิ้วไซฉิ้ง งิ้วงั่วกัง งิ้วเจี่ยอิม งิ้วแ ะ ยี่ ซึ่งไดรับความิ ยมอยางมาก
ตอมางิ้วแตจิ๋ว รือี่ ชาวจีนเรียกวา ‘ฉาวโจวซี่’ (เตี่ยจิวฮี่) ซึ่งเปนงิ้ว องถิ่นชิ ดึ่ ง างตอ ใตของจีนี่ เจริญขึ้นี่
เมืองแตจิ๋ว ม ลกวางตุง งิ้วแตจิ๋วจึงไดเริ่มเดิน างมาแสดงยังเมืองไ ยมากขึ้น และํ าใ งิ้ว ระเภ อื่น ๆ ลดความิ ยมลง
เนื่องจากชาวจีนสว ใ ที่อยูใ เมืองไ ยเปนค จีนแตจิ๋ว า าแตจิ๋วจึงเกือ เปน า ากลางของค จีนใ เมืองไ ย
ร เ
งิ้ว
จุบันถาจะจําแ ก ระเภ ขอ งิ้วี่ ใชค แสดงคงจะแยกไดเพียง ระเภ เทาั้ น คือ งิ้ว ลวงและงิ้ว องถิ่น
งิ้ว ลวง ภา าจีนกลาง เรียกวา จิงจวี้ กั่วจวี้ หรือผิงจวี่ (เกียเกี๊ยะ กกเกี๊ยะ เผงเกั๊ยะ-แตจิ๋ว) ถือกันวาเปนงิ้ว ประจําชาติจีน
มีมาตรฐา แ นอ ั้งดา ลีลา า างกา รายรํา วงํ า อง ด ตรีที่ใชประกอ จัง วะด ตรี เื้ อ า การแตงกาย
การแตง า ุกอยางเปนไ ตามแ แผี่ ครูงิ้วกํา ดมาตั้งแตสมัยโ รา อยางเครงครัด
งิ้ว องถิ่น ภา าจีนเรียกวา ตี่ฮึงซี่ (ตี้ฟงซี่) เปนงิ้วี่ มีวิวัฒ าการมาจา การละเลนื้ น า ของชาวเมืองใ องถิ่น ั้
น ๆ ชาว า มีการดัดแ ลงเอาการแสดงใ ม ๆ ี่ไดรับมาเ นแ อยางของต รือ างครั้งอาจจะรวมเขากับ
การละเลนื้ น าี่ มีอยู แตยังคงไวซึ่งลัก ะเฉ าะของ องถิ่นั้ น ๆ