ทําเนียบคณะนักแสดงพื้นบาน
Directory of folk ensemble
ตนกําเนิดและประวัติศาสตรงิ้ว
ศิลปะการแสดงที่มีชื่อเรียกวา “งิ้ว” เปนมหรสพที่เกิดขึ้นมานานกวา ๕,๐๐๐ ป เริ่มตนจากชวงรัชสมัยจิว (เลียดกก)
มีมหรสพชนิดหนึ่งเกิดขึ้น ซึ่งเปนการแสดงที่ผสมผสานการขับรองและการเจรจาประกอบกับลีลาทาทางของนักแสดง
ใหออกมาเปนเรื่องเปนราวโดยนําเหตุการณตาง ๆในพงศาวดารและประวัติศาสตรมาดัดแปลงแตงเติมใหเปนบทแสดง
ในยุคสมัยนั้นมหรสพประเภทนี้ยังไมมีแบบฉบับโดยเฉพาะ มีผูแสดงเพียงไมกี่คน และมีการแสดงเฉพาะในพระราชวังของ
พระเจาแผนดินเทานั้น เรื่องที่แสดงก็เปนเรื่องสั้น ๆ ไมยาวมากนัก จนกระทั่งถึงรัชสมัยพระเจาถังเสวียนจง (ถังเหียงจง)
แหงราชวงศถัง ที่ทรงพระปรีชาสามารถในศิลปะหลายดานอยางยอดเยี่ยม ไมวาจะเปนนาฏศาสตร คีตศาสตร คนธรรพศาสตร
ตลอดจน วรรณศิลป ซึ่งสามารถกลาวไดวา พระเจาถังเสวียน จงทรงเปนผูริเริ่มหรือเปนปรมาจารยแหง งิ้วจีน เพราะปรากฏ
วาสมัยตอมา การแสดงงิ้วไดดําเนินรอยตามแบบฉบับของพระเจาถังเสวียนจง แมวาลีลาทาทาง จะมีการแกไขดัดแปลงบาง
ก็ไมแตกตางจากตนตํารับเทาใดนัก
ยุคสมัยที่งิ้วเจริญรุงเรืองถึงขีดสูงสุดคือชวงปลายราชวงศชิง สมัยพระเจากวงสูเปนพระเจาแผนดิน ในชวงนี้
งิ้วเปนที่แพรหลายไปทั่วประเทศจีน ไดรับการอุปถัมภจากขาราชการชั้นผูใหญในตระกูลตาง ๆ มากมาย นอกจากนั้น
พระนางซูสีไทเฮาทรงโปรดปรานงิ้วมากเชนกัน เจานายตาง ๆ ในแตละมณฑลจึงถวายงิ้วใหเปนงิ้วประจําราชสํานัก
เมื่อมีผูอุปถัมภและผูนิยมงิ้วมากขึ้น ทําใหนักแสดงงิ้วมีรายไดดีมาก ผูคนที่มีอาชีพอื่นก็หันมาฝกงิ้ว เลนงิ้ว ตั้งคณะงิ้วมากมาย
จึงทําใหงิ้วในสมัยนี้มีความเจริญรุงเรืองถึงขีดสุด
สิ่งที่มีผลกระทบมากที่สุดตอวงการงิ้วจนทําใหเสื่อมลงอยางรวดเร็ว คือ การสวรรคตอยางตอเนื่องของ
พระนางซูสีไทเฮา และพระเจากวงสู ซึ่งทางราชการไดสั่งใหงดการบันเทิงทุกชนิดทั่วทั้งประเทศเปนเวลา ๒๐๐ วัน
เปนผลใหพวกนักแสดงงิ้วที่มีมากกวาสองรอยคณะในชวงนั้นตองงดการแสดงไปตลอด ๙ เดือน นับเปนชวงเวลาที่ยาวนาน
มาก สงผลใหในระยะนั้น คณะงิ้วหลายคณะตองปดตัวลง เหลานักแสดงตางเปลี่ยนไปทําอาชีพอื่นตามที่ตนถนัด
ในชวงแรก ๆ งิ้วเปนเพียงมหรสพการแสดงที่หาชมไดเพียงในพระราชวังหรือตระกูลผูสูงศักดิ์เทานั้น ตอมางิ้ว
ไดเริ่ม แพรกระจายออกมาสูชาวบานพื้นเมืองในทองถิ่นตาง ๆ โดยเฉพาะกลุมสังคมเกษตรกรรม เนื่องจากบทบาท
การอุปถัมภงิ้วในราชวงศลดลง คณะงิ้วจึงตองออกมาแสดงตามสถานที่ตาง ๆ เพื่อหาเลี้ยงชีพตนเอง เมื่อการแสดงงิ้วไดรับ
การถายทอด มาสูสามัญชนธรรมดา จึงทําใหมหรสพประเภทนี้มีการแพรขยายอยางรวดเร็ว จากเมืองหนึ่งไปสูเมืองหนึ่ง
จากทองถิ่นหนึ่ง ไปสูอีกทองถิ่นหนึ่ง จนกระทั่งกระจายไปสูประเทศตาง ๆ ทั่วโลก
๑๙๐