13
หรื
อมี
ดหมอ เก็
บผมที
่
ตั
ดออกแล้
ว ๓ ครั
้
ง เรี
ยกว่
า “สามหยิ
บ” มอบให้
ผู
้
เข้
าพิ
ธี
หรื
อผู
้
ปกครองไปเก็
บรั
กษาไว้
ที
่
บ้
าน
เชื
่
อว่
าหลั
งจากตั
ดผมมี
ช่
อออกแล้
ว ผมที
่
งอกขึ
้
นใหม่
จะไม่
ผู
กกั
นเป็
นกระจุ
กอี
กต่
อไป
รายละเอี
ยดพิ
ธี
กรรมในวั
นที
่
สาม
พิ
ธี
จั
ดในวั
นศุ
กร์
ซึ
่
งเป็
นวั
นสุ
ดท้
ายของพิ
ธี
กรรมโนราโรงครู
ใหญ่
โดยเริ
่
มตั
้
งแต่
ลงโรง กาศครู
เชิ
ญครู
และรำ
�ทั
่
วไปเพื
่
อถวายครู
เช่
นเดี
ยวกั
บวั
นที
่
หนึ
่
งและวั
นที
่
สอง จากนั
้
น คณะโนราใหญ่
รำ
�ถวายครู
ต่
อด้
วย การรำ
�
คล้
องหงส์
การรำ
�แทงเข้
และส่
งครู
ซึ
่
งมี
รายละเอี
ยดดั
งนี
้
การรำ
�คล้
องหงส์
ใช้
รำ
�เฉพาะในพิ
ธี
ครอบเทริ
ดหรื
อผู
กผ้
าใหญ่
และพิ
ธี
เข้
าโรงครู
เท่
านั
้
นเพื
่
อให้
พิ
ธี
สมบู
รณ์
ในการรำ
�
ใช้
ผู
้
รำ
� ๘ คน โดยโนราใหญ่
เป็
น “พญาหงส์
” โนราคนอื
่
นๆ อี
ก ๖ คน เป็
นหงส์
และผู
้
รำ
�เป็
นพราน ๑ คน วิ
ธี
รำ
�
สมมติ
ท้
องเรื
่
องเป็
นสระอโนดาต จากนั
้
นจึ
งร้
องบททำ
�นองกลอนพญาหงส์
ตอนที
่
หงส์
กำ
�ลั
งร้
องกลอนบททำ
�นอง
พญาหงส์
พราน ออกมาด้
อมๆ มองๆ เพื
่
อเลื
อกคล้
องพญาหงส์
จบกลอนพรานเข้
าจู
่
โจมไล่
คล้
องหงส์
ดนตรี
เชิ
ด
หงส์
วิ
่
งหนี
เป็
นรู
ป“ยั
นต์
เต่
าเลื
อน” (เป็
นยั
นต์
ที
่
เขี
ยนหรื
อลงอั
กขระบนรู
ปตั
วเต่
าหรื
อกระดองเต่
า เพื
่
อใช้
ป้
องกั
นตั
ว
ป้
องกั
นเสนี
ยดจั
ญไร และให้
เกิ
ดโชคลาภ เมตตากรุ
ณา)นายพรานไล่
คล้
องได้
พญาหงส์
พญาหงส์
ใช้
สติ
ปั
ญญาจน
สามารถหลุ
ดพ้
นจากบ่
วง เป็
นการจบการรำ
� เชื
่
อกั
นว่
าการรำ
�คล้
องหงส์
ในโรงครู
ทั
้
งตั
วพญาหงส์
คื
อโนราใหญ่
และ
ผู
้
แสดงเป็
นพราน มี
ครู
โนราเข้
าทรงด้
วย
การรำ
�แทงเข้
(จระเข้
)
การรำ
� แทงเข้
(จระเข้
)ใช้
รำ
�ในพิ
ธี
กรรมโรงครู
เท่
านั้
น โดยจะรำ
�หลั
งจากรำ
�คล้
องหงส์
แล้
ว ผู้
รำ
�มี
๗
คน โนราใหญ่
รำ
�เป็
น “นายไกร” ที่
เหลื
ออี
ก ๖ คน เป็
นสหายของนายไกร อุ
ปกรณ์
มี
เข้
๑ ตั
ว ทำ
�จากต้
นกล้
วย พั
ง
ลา(กล้
วยตานี
) ต้
นโตๆ ขุ
ดให้
ติ
ดเหง้
า นำ
�มาแกะสลั
กส่
วนเหง้
าให้
เป็
นหั
วเข้
ขาใช้
หยวกกล้
วยตั
ดเป็
นรู
ปขาแล้
วใช้
ไม้
เสี
ยบไว้
หางทำ
�ด้
วยทางมะพร้
าว เมื่
อเสร็
จแล้
วใช้
ไม้
ขนาด ๔ คื
บ ๔ อั
นปั
กเป็
นขาหยั่
ง เชื่
อกั
นว่
า คนที่
จะทำ
�ตั
ว
จระเข้
นั้
น จะต้
องเป็
นผู้
มี
ความรู้
ทางเวทย์
มนตร์
คาถา เพราะหลั
งจากทำ
�ตั
วจระเข้
เสร็
จแล้
วจะต้
องทำ
�พิ
ธี
บรรจุ
ธาตุ
เรี
ยกวิ
ญญาณไปใส่
เบิ
กหู
เบิ
กตา เรี
ยกเจตภู
ตไป ใส่
หากทำ
�ไม่
ถู
กต้
อง ก็
อาจเป็
นเสนี
ยดจั
ญไรแก่
ตนเอง
ก่
อนนำ
�เข้
าพิ
ธี
คนทำ
�จระเข้
ต้
องทำ
�พิ
ธี
สั
งเวยครู
ด้
วยหมากพลู
ดอกไม้
ธู
ปเที
ยน และเหล้
าขาว แล้
ว
นำ
�ไปวางข้
างโรงโนราด้
านตะวั
นตก ให้
จระเข้
หั
นหั
วไปทางทิ
ศหรดี
(ทิ
ศตะวั
นตกเฉี
ยงใต้
) หากหั
นหั
วไปทางทิ
ศอี
สาน
โนราจะไม่
แทง บนตั
ว หั
ว และหางจระเข้
ติ
ดเที
ยนไว้
ตลอด ด้
านหน้
าโรงที
่
จะไปแทงเข้
จะต้
องเอาหยวก กล้
วยพั
งลา
๓ ท่
อน มาทำ
�เป็
นแพเพื่
อให้
โนราเหยี
ยบก่
อนออกไปแทงเข้
นอกจากนี้
มี
หอก ๗ เล่
ม เรี
ยกชื่
อต่
างกั
น เช่
น หอกพิ
ชั
ย
กอกระบวย ในตะกง ปานฉนะ เป็
นต้
น
การรำ
�แทงเข้
จะเริ่
มด้
วยโนราใหญ่
จุ
ดเที
ยนตรงบายศรี
และที่
ครู
แล้
วขึ้
นบทเพลงโทน (จั
บบทไกรทอง)
เนื
้
อความเป็
นการทำ
�ขวั
ญนายไกร และการละเล่
นในพิ
ธี
ทำ
�ขวั
ญ จากนั
้
นโนราจะเปลี
่
ยนเรื
่
องมาจั
บเรื
่
องราวฝ่
ายชาละวั
นว่
า
เกิ
ดนิ
มิ
ตฝั
นประหลาดจึ
งต้
องไปหาพระอั
ยกา ซึ
่
งทำ
�นายฝั
นให้
ว่
าเป็
นลางร้
าย จะต้
องถึ
งแก่
ชี
วิ
ต จากนั
้
นดนตรี
ทำ
�
เพลงเชิ
ด โนราว่
าบทสั
ดดี
ใหญ่
ร่
ายรำ
�ด้
วยท่
ารำ
�ที่
แสดงอำ
�นาจจองอาจสง่
างาม แล้
วออกจากโรงไปแทงเข้
ก่
อนออก
จากโรงบริ
กรรมคาถาแทงเข้
โดยเอาหั
วแม่
เท้
ากดแล้
วกล่
าวบริ
กรรมคาถา โนราออกจากโรง ใช้
เท้
าเหยี
ยบแพหยวก
แล้
วต่
อด้
วยกล่
าวบริ
กรรมคาถา จากนั
้
นโนราใหญ่
ผู
้
รำ
�เป็
นสหายนายไกร ครู
หมอโนราก็
ร่
ายรำ
�ไปยั
งตั
วจระเข้