47
เปี๊
ยะ
เปี๊
ยะเป็
นเครื่
องดนตรี
ประเภทเครื่
องสายที
่
เล่
นด้
วยการเกี
่
ยวสายด้
วยปลายนิ้
วหรื
อ
เล็
บ พบในล้
านนา เข้
าใจว่
ามี
มาตั้
งแต่
สมั
ยราชวงศ์
พญามั
งรายครองเมื
องเชี
ยงใหม่
แล้
ว โดยได้
ต้
นแบบมาจากพิ
ณนํ้
าเต้
า ซึ่
งเป็
นพิ
ณสายเดี
ยว ที่
มี
รู
ปร่
างลั
กษณะตรงกั
บ ขแสเดี
ยว ของชาวเขมร
พิ
ณสายเดี
ยวเป็
นพิ
ณโบราณที่
มากั
บอารยธรรมอิ
นเดี
ย ดั
งมี
หลั
กฐานทั้
งในอิ
นเดี
ยและ
ในเอเชี
ยอาคเนย์
หลายแห่
ง เช่
น ที่
ปราสาทนครวั
ด ประเทศกั
มพู
ชา เจดี
ย์
บุ
โรบุ
ดู
ร์
ประเทศ
อิ
นโดนี
เซี
ย และลายปู
นปั้
นที่
ได้
จากจั
งหวั
ดราชบุ
รี
เป็
นต้
น
พั
ฒนาการที่
สำ
�คั
ญของเปี๊
ยะในล้
านนาคื
อ มี
สายเพิ
่
มขึ้
น และมี
การหล่
อหั
วเปี๊
ยะด้
วย
สำ
�ริ
ดอย่
างสวยงามเพื
่
อใช้
เป็
นที
่
ผู
กและพาดสายจากปลายด้
ามด้
านหนึ
่
งไปยั
งลู
กบิ
ดที
่
อี
กปลายหนึ
่
ง
เสี
ยงของเปี๊
ยะดั
งด้
วยวิ
ธี
ทำ
�เสี
ยงซ้
อน ซึ่
งยากกว่
าการดี
ดตามปกติ
แต่
ผลที่
ได้
คุ้
ม
กั
บการฝึ
ก เพราะเสี
ยงซ้
อนมี
กั
งวานและมี
การกระเพื่
อม คล้
ายเสี
ยงระฆั
งดั
งแว่
วมาแต่
ไกล
ฟั
งแล้
วหลงใหลในทั
นที
จนเปี๊
ยะมี
ฉายาว่
า
เด็
งพลั
นเมา
อย่
างไรก็
ตาม เปี๊
ยะเกื
อบจะสู
ญหายไปจากแผ่
นดิ
นล้
านนามาแล้
ว การค้
นพบนั
กเล่
นเปี๊
ยะในอดี
ตช่
วงปี
พ.ศ.
๒๕๑๐-๒๕๑๔ ของเจอรั
ลด์
พี
ไดค์
ผู้
เข้
าใจว่
า หลั
งจากนั้
นจะไม่
มี
อี
กแล้
ว ทำ
�ให้
มี
บทความเชิ
งทำ
�นายว่
าเปี๊
ยะกำ
�ลั
ง
จะสาบสู
ญจากล้
านนา กระทั่
งการค้
นพบนั
กเล่
นเปี๊
ยะรุ่
นเก่
าอี
กสี่
ท่
าน ในเวลาไล่
เรี่
ยกั
นระหว่
าง พ.ศ. ๒๕๒๒-๒๕๓๐
เปี๊
ยะจึ
งกลั
บมาเป็
นที่
รู้
จั
ก และมี
การถ่
ายทอดความรู้
และทั
กษะในการเล่
นสู่
นั
กดนตรี
รุ่
นหลั
ง
ปั
จจุ
บั
นนี้
นั
กเล่
นเปี๊
ยะส่
วนมากเป็
นผู้
มี
การศึ
กษา หลายคน
มี
ความรู้
ด้
านดนตรี
เป็
นอย่
างดี
ทำ
�ให้
ของเก่
าจากสมั
ยโบราณ
ที่
แทบไม่
เปลี่
ยนแปลงจากอดี
ตเลยนี้
เป็
นที่
เกิ
ดของเรื่
องและความ
รู้
ใหม่
ๆ อี
กมาก ความรู้
เหล่
านี้
ทำ
�ให้
เปี๊
ยะไม่
ใช่
เครื่
องเล่
นอย่
างเดี
ยว
แต่
เป็
นที่
รวมองค์
ความรู้
ไว้
หลายด้
าน ดั
งนั้
นมี
การทดลองบทบาท
ใหม่
ๆ ให้
แก่
เปี๊
ยะ แทนที่
จะใช้
บรรเลงเดี่
ยวเป็
นหลั
กอย่
างในอดี
ต แต่
ปรากฏการณ์
เช่
นนี้
ดำ
�เนิ
นไปอย่
างเงี
ยบๆ ค่
อนข้
างจะเป็
นเรื่
องของ
ความสนใจส่
วนตั
วมากกว่
าการสนั
บสนุ
นส่
งเสริ
มอย่
างเป็
นทางการ
ที่
กว้
างขวางขึ้
น อนาคตของเปี๊
ยะขึ้
นกั
บปั
จจั
ยหลายอย่
างและโอกาส
สำ
�หรั
บการพั
ฒนาที่
ยั่
งยื
นต่
อไป
เปี๊
ยะ ได้
รั
บการขึ้
นทะเบี
ยนเป็
นมรดกภู
มิ
ปั
ญญาทางวั
ฒนธรรม
ของชาติ
ประจำ
�ปี
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๕๔
เรี
ยบเรี
ยงโดย ผู้
ช่
วยศาสตราจารย์
ประสิ
ทธิ์
เลี
ยวสิ
ริ
พงศ์
ผู้
บรรเลงเปี๊
ยะ : นายประสิ
ทธิ์
เลี
ยวสิ
ริ
พงศ์
ที่
มา : กรมส่
งเสริ
มวั
ฒนธรรม ในงานสยามไทยมุ
ง
ปี
๒๕๕๕