Page 59 - dcp7

Basic HTML Version

48
เพลงอี
แซว
เรี
ยบเรี
ยงโดย รองศาสตราจารย์
กาญจนา อิ
นทรสุ
นานนท์
เพลงอี
แซวเป็
นเพลงร้
องพื้
นบ้
านภาคกลาง นิ
ยมร้
องเล่
นกั
นมากในจั
งหวั
ดสุ
พรรณบุ
รี
และจั
งหวั
ดอื่
นๆ ในภาคกลาง
เช่
น อ่
างทอง สิ
งห์
บุ
รี
แต่
ในสุ
พรรณบุ
รี
มี
คณะเพลงอี
แซวเล่
นกั
นหลายคณะจนเป็
นที
รู้
จั
กกั
นดี
ว่
าเพลงอี
แซวต้
อง
จั
งหวั
ดสุ
พรรณบุ
รี
ต้
นกำ
�เนิ
ดของเพลงอี
แซวนั้
นพั
ฒนามาจาก “เพลงยั่
ว” ซึ่
งเป็
นการร้
องเล่
นกั
นสนุ
กๆ ยั่
วกั
นไป
ยั่
วกั
นมา มี
บทร้
องสั้
นๆ คล้
องจองกั
น เนื้
อความแทรกตลกเน้
นความสนุ
กสนานรื่
นเริ
ง ในการร้
องเพลงยั่
วนี้
ใช้
การตบมื
ประกอบ ตี
กลองยาวในการแห่
มี
การร้
องรำ
�นำ
�ขบวนและร้
องเพลงยั่
วให้
เกิ
ดความครื้
นเครง
การพั
ฒนาเพลงอี
แซวมาจากเพลงยั่
วโดยเนื้
อความของคำ
�ว่
า “แซว” มี
ผู้
ให้
ความหมายว่
า “นาน ทำ
�อะไร
อยู่
นานๆ และการว่
ากั
นไปว่
ากั
นมา” เรี
ยกว่
า “แซวกั
น” เพลงอี
แซวจึ
งมี
การร้
องเป็
นกลอนยาวเป็
นเรื่
องเป็
นราวบ้
าง
เป็
นการว่
ากั
นบ้
างแล้
วแต่
เวลาในการเล่
น โดยมี
ชื่
อเรี
ยกการร้
องเล่
นกลอนเพลงแต่
ละตอนว่
า “ตั
บ” ซึ่
งหมายถึ
งเรื่
อง
ต่
อกั
นยาว มี
ชื่
อเรี
ยกต่
างๆ เช่
น ตั
บสู่
ขอ ตั
บซื้
อนา ตั
บชิ
งนาง ตั
บซื้
อควาย ฯลฯ
ลั
กษณะกลอนเพลงอี
แซวนั้
นมี
ลั
กษณะเป็
นกลอนแปดหั
วเดี
ยว แต่
มี
คำ
�มากเป็
นพิ
เศษ ไม่
ได้
มี
เพี
ยง ๘ คำ
อาจมี
ถึ
ง ๑๐ - ๑๒ คำ
�ในแต่
ละวรรค ซึ่
งกลอนเพลงอี
แซวนี้
นิ
ยมเล่
นคำ
�ให้
มี
สั
มผั
สอั
กษรมาก ถื
อว่
าเป็
นความงดงามของ
ภาษาในภู
มิ
ปั
ญญาชาวบ้
าน ในการร้
องเพลงอี
แซว มี
เครื่
องดนตรี
ที่
ใช้
ประกอบ คื
อ ฉิ่
งและกรั
บ ซึ่
งภายหลั
งมี
กลอง
สองหน้
าหรื
อตะโพนมาเพิ่
มให้
จั
งหวะกระชั
บขึ้
น ส่
วนการแต่
งกายฝ่
ายชายนุ่
งโจงกระเบนใส่
เสื้
อคอกลม สี
ฉู
ดฉาดหรื
ลายดอก มี
ผ้
าขาวม้
าหรื
อผ้
าสี
ฉู
ดฉาดคาดเอว ฝ่
ายหญิ
งนุ่
งโจงกระเบนใส่
เสื้
อแขนสั้
นหรื
อแขนพองสี
ฉู
ดฉาด บางครั้
ประดั
บด้
วยลู
กไม้
มี
ผ้
าคาดเอวหรื
อคาดเข็
มขั
ดทองทั
บนอกเสื้
อใส่
เครื่
องประดั
บสวยงาม
การร้
องเพลงอี
แซวเริ่
มจากการร้
องบทไหว้
ครู
ก่
อน โดยพ่
อเพลงจะออกมานั่
งยองๆ ถื
อ “พานกำ
�นล” (ในพานมี
ดอกไม้
ธู
ปเที
ยนและเงิ
นกำ
�นล) ระลึ
กถึ
งพ่
อแม่
ครู
บาอาจารย์
และสิ่
งศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
เพื่
อให้
ร้
องเพลงได้
คล่
อง ให้
เกิ
ดสิ
ริ
มงคล
ฯลฯ เมื่
อฝ่
ายชายไหว้
ครู
จบฝ่
ายหญิ
งนำ
�โดยแม่
เพลงออกมาไหว้
ครู
เช่
นเดี
ยวกั
น พ่
อเพลงและแม่
เพลงนั้
นเรี
ยงตาม
ลำ
�ดั
บความเก่
ง เรี
ยกลำ
�ดั
บการร้
องของแต่
ละฝ่
ายว่
า คอหนึ่
งจะเป็
นคนที่
ร้
องเก่
งที่
สุ
ด คอสองเก่
งรองลงมา
โดยทั้
งสองฝ่
ายมี
คอหนึ่
งทั้
งฝ่
ายชายและฝ่
ายหญิ
ง นอกจากนั้
นก็
มี
ลู
กคู่
คอยช่
วยร้
องรั
บและตบมื
อ ซึ่
งในการรั
บลู
กคู่
นั้
แต่
เดิ
มจะรั
บคำ
�สุ
ดท้
ายของการลงบท มี
คำ
�ว่
า ชะแล้
ว” เช่
น ชะแล้
วจนใจ ชะแล้
วทำ
�ไม ชะแล้
วจริ
งใจ ชะแล้
วเดื
อน
หงาย ปั
จจุ
บั
นคำ
�ว่
า “ชะ” กร่
อนหายไปเหลื
อแค่
“แล้
วจนใจ แล้
วทำ
�ไม แล้
วเดื
อนหงาย” เมื่
อไหว้
ครู
เสร็
จแล้
วจึ
งเริ่
ร้
องบทต่
างๆ ตามที่
เตรี
ยมมาว่
าจะเล่
นตอนไหนหรื
อแล้
วแต่
เจ้
าภาพที่
หามาว่
าจะต้
องการให้
เล่
นตอนไหน ซึ่
งเรี
ยกเป็
“ตั
บ” เช่
น ตั
บสู่
ขอ ตั
บลาบวช ตั
บพาหนี
เป็
นต้
น บางครั้
งมี
การเล่
นตั้
งแต่
หั
วคํ่
าจนสว่
างก็
มี
เมื่
อเล่
นจบตั
บแล้
วหมด
เวลาก็
จะร้
องลาคนดู
ให้
พรตามสมควร
เพลงอี
แซว ได้
รั
บการขึ้
นทะเบี
ยนเป็
นมรดกภู
มิ
ปั
ญญาทางวั
ฒนธรรมของชาติ
ประจำ
�ปี
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๕๖