Page 56 - dcp7

Basic HTML Version

45
เดิ
มที
บานอเป็
นเครื่
องคนตรี
ที่
ตี
เล่
นกั
นในหมู่
บ้
านเพื่
อความสนุ
กสนานบ้
างอวดเสี
ยงตี
ในด้
านความดั
งไกลกั
บ้
างหรื
อไม่
ก็
เพื่
อส่
งข่
าวการมี
งานหรื
อมี
มหรสพในหมู่
บ้
านบ้
างภายหลั
งก็
นำ
�มาเล่
นในงานเทศกาลที่
ประชาชน ชาว
บ้
านจั
ดขึ้
นกั
นเองก่
อนที่
ทางราชการจะได้
สนั
บสนุ
นส่
งเสริ
มจั
ดให้
มี
ขึ้
นโดยเฉพาะและเป็
นประจำ
ลั
กษณะของบานอ
บานอ เป็
นเครื่
องดนตรี
ประเภทเครื่
องตี
รู
ปลั
กษณ์
ทั่
วไปเป็
นกลองหน้
าเดี
ยวขนาดใหญ่
เหมื
อนกั
บรำ
�มะนาแต่
ใหญ่
กว่
ามากตั
วกลองนั้
นยาวค่
อยเรี
ยวไปทางด้
านหลั
งทำ
�ด้
วยไม้
เนื้
อแข็
งอย่
างไม้
หลุ
มพอ เป็
นต้
น ขึ
งหน้
ากลองด้
วย
หนั
งควาย หรื
อ หนั
งวั
ว ที่
ฟอกหรื
อขู
ดขนอย่
างดี
ตรึ
งหนั
งหน้
ากลองด้
วยลิ่
มสลั
ก กวดหนั
งหน้
ากลองให้
ตึ
งด้
วยหวาย
เพื่
อให้
เกิ
ดเสี
ยงดั
งก้
องกั
งวาน กลองบานอต่
างจากรำ
�มะนาตรงที่
กลองบานอมี
ขนาดใหญ่
และมี
ขาทำ
�ด้
วยไม้
ที่
ดู
เหมื
อน
เป็
นรั
ศมี
ออกจากรอบตั
วกลองเพื่
อให้
ตั
วกลองอยู่
ในสภาพตั
งได้
เวลาตี
มั
กเขี
ยนลวดลายโดยเฉพาะดอกไม้
ใบไม้
สี
สด
สวยฉู
ดฉาดทั้
งที่
หน้
ากลอง ตั
วกลอง รวมทั้
งขากลองด้
วย
การเล่
แต่
เดิ
มกลองบานอชุ
ดหนึ่
งนั้
นมี
กลองเพี
ยง ๑ ลู
ก เล่
นโดยผู้
เล่
นคนเดี
ยว ต่
อมามี
การเพิ่
มจำ
�นวนกลองขึ้
นเพื่
เล่
นเป็
นคณะ คณะหนึ่
งมี
กลองจำ
�นวน ๖-๙ ลู
ก ครั้
น พ.ศ. ๒๔๙๐ ได้
เกิ
ดการเล่
นกลองบานอ เพื่
อการแข่
งขั
นขึ้
นโดย
กำ
�หนดให้
มี
กลอง ๖ ลู
ปั
จจุ
บั
นกลองบานอชุ
ดหนึ่
งมี
๗ ลู
ก ประกอบด้
วย กลองตั
วแม่
๑ ลู
ก กั
บกลองตั
วลู
กอี
ก ๖ ลู
ก ผู้
ตี
กลองบานอ
ตั
วแม่
เรี
ยก ตี
เกาะห์
ส่
วนผู้
ตี
กลองบานอตั
วลู
กนั้
นไม่
มี
ชื่
อ ทั้
งนี้
โดยใช้
ผู้
ตี
กลองจำ
�นวน ๑๔ คน ไม้
ตี
กลอง จำ
�นวน ๑๔
อั
นเท่
าจำ
�นวนคน โดยใช้
ผู้
ตี
กลอง ๒ คนต่
อกลอง ๑ ลู
ก ยื
นขนาบซ้
ายขวาตี
สลั
บให้
ดั
งก้
องกั
งวาน สอดรั
บกั
จั
งหวะการตี
กลองบานอแต่
เดิ
มมี
๒ จั
งหวะหรื
อ ๒ ทำ
�นอง คื
อ จั
งหวะหรื
อทำ
�นอง ฉาบโฉง ใช้
ตี
ในงานพิ
ธี
เข้
สุ
นั
ต กั
บอี
กจั
งหวะหนึ่
ง ยั
งไม่
มี
ชื่
อ ใช้
ตี
ในขบวนแห่
พิ
ธี
แต่
งงาน ปั
จจุ
บั
นมี
การประยุ
กต์
จั
งหวะการตี
กลองบานอให้
เข้
กั
บการเต้
นรองเง็
งด้
วย
คุ
ณค่
าและบทบาทที่
มี
ต่
อวิ
ถี
ชุ
มชน
ดั
งกล่
าวแล้
วว่
าบานอเป็
นการละเล่
นของคนเชื้
อสายมลายู
ในจั
งหวั
ดชายแดนภาคใต้
จึ
งมี
บทบาท สอดคล้
อง
กั
บวิ
ถี
ชี
วิ
ตของคนในพื้
นที่
ดั
งกล่
าว กล่
าวคื
ประการที่
หนึ่
บานอเป็
นเครื่
องดนตรี
ที่
สามารถใช้
เป็
นเครื่
องมื
อส่
งสั
ญญาณสื่
อสารถึ
งกั
นได้
ภายในหมู่
บ้
าน ดั
เช่
นแต่
ก่
อนที่
เคยมี
มา แม้
ปั
จจุ
บั
นก็
ยั
งคงมี
อยู่
ประการที่
สอง
การสื
บทอดการเล่
นบานอเป็
นการสื
บทอดมรดกทางชาติ
พั
นธุ์
ให้
คงอยู่
เพื่
อดำ
�รง ความเป็
เอกลั
กษณ์
และศั
กดิ์
ศรี
ของความเป็
นชาติ
พั
นธุ์
มนุ
ษย์
ผู้
มี
อารยธรรม ทั้
งยั
งก่
อให้
เกิ
ดศิ
ลปธรรมและสามั
คคี
ธรรมของ
คนในชาติ
พั
นธุ์
นั้
นด้
วย
ประการที่
สาม
การเล่
นบานอเป็
นการเล่
นที่
สามารถใช้
เป็
นตั
วถ่
วงดุ
ลความนิ
ยมทางวั
ตถุ
ได้
ดั
งจะเห็
นได้
จาก
การเล่
นบานอสามารถเบี่
ยงเบนความสนใจทางวั
ตถุ
นิ
ยมลงได้
อย่
างน้
อยก็
ระดั
บหนึ่
ง แทนที่
จะไปหลงใหลวั
ตถุ
นิ
ยม
อื่
นที่
ทำ
�ให้
วิ
ถี
ชี
วิ
ตแบบชาวบ้
านเปลี่
ยนไป