Page 32 - dcp7

Basic HTML Version

21
เนื้
อหาสาระของคำ
�ขั
บครอบคลุ
มแทบทุ
กเรื่
องในวิ
ถี
ชี
วิ
ตของชาวไทยลื้
อ ช่
างขั
บลื้
อจึ
งต้
องเป็
นผู้
มี
ความรู้
มาก
มี
ความจำ
�ดี
มี
ปฏิ
ภาณไหวพริ
บ ตลอดจนเสี
ยงที่
ชวนฟั
ง คุ
ณสมบั
ติ
เช่
นนี้
เที
ยบได้
กั
บคุ
ณสมบั
ติ
ของพระภิ
กษุ
ที่
เป็
นนั
กเทศน์
ดั
งนั้
น ช่
างขั
บในสั
งคมไทยลื้
อในอดี
ตจึ
งเป็
นเสมื
อนครู
ของสั
งคม สาระและบทบาทของการขั
บลื้
อ จึ
งเป็
นส่
วนหนึ่
งของ
กระบวนการขั
ดเกลาทางสั
งคมอย่
างแท้
จริ
ด้
วยบทบาทหน้
าที่
และสถานะ ช่
างขั
บซึ่
งมั
กเป็
นผู้
แสวงหาความรู้
ด้
านต่
างๆ จึ
งเป็
นช่
างขั
บที่
มี
ครู
และมี
พิ
ธี
กรรมที
กระทำ
�เพื
อบู
ชาครู
(เรี
ยกว่
า ฟายครู
) โดยมี
๒ โอกาสคื
อ การฟายครู
ก่
อนการแสดง กั
บ การเลี
ยงครู
ประจำ
�ปี
พิ
ธี
ฟายครู
ก่
อนการแสดงเป็
นพิ
ธี
สั้
นๆ ค่
อนข้
างเป็
นส่
วนตั
ว หรื
อกระทำ
�ในกลุ่
มเล็
กๆ เฉพาะผู้
แสดงโดยมี
ช่
างขั
บอาวุ
โส
เป็
นผู้
ดำ
�เนิ
นพิ
ธี
ส่
วนการเลี้
ยงครู
นั้
นพิ
ธี
ฟายครู
และเชิ
ญครู
มารั
บเครื่
องบู
ชาและเครื่
องสั
งเวยจะกระทำ
�ก่
อนงานเลี้
ยง
ซึ่
งเป็
นงานสั
งคมเพราะเชิ
ญแขกมาร่
วมงานมาก แขกมี
ทั้
งช่
างขั
บ และช่
างปี่
ซึ่
งเป็
นเพื่
อนร่
วมวิ
ชาชี
พ กั
บญาติ
และมิ
ตร
อี
กจำ
�นวนหนึ่
คุ
ณค่
าทางวั
ฒนธรรม
ขั
บลื้
อประกอบด้
วยค่
าวซึ่
งเป็
นบทร้
อยกรองประเภทหนึ่
ง จึ
งเป็
นวรรณกรรม ส่
วนทำ
�นองและการบรรเลงปี่
นั้
เป็
นดนตรี
เป็
นศิ
ลปะอี
กประเภทหนึ่
ง ทั้
งวรรณกรรมและดนตรี
เป็
นผลผลิ
ตของสั
งคมไทยลื้
อเช่
นเดี
ยวกั
บ การร่
ายรำ
และทั
ศนศิ
ลป์
ทุ
กแบบ ศิ
ลปะทุ
กสาขาจึ
งมี
สถานะเป็
นสถาบั
นสำ
�แดงตนของสั
งคม การเสพหรื
อศึ
กษาศิ
ลปะเหล่
านี้
ทำ
�ให้
เราเข้
าใจสั
งคมที่
เป็
นเจ้
าของ และเข้
าใจผู้
คนที่
เป็
นสมาชิ
กของสั
งคมนั้
นๆ ดี
ขึ้
ค่
าวขั
บทำ
�ให้
ผู
ฟั
งรู
จั
กรู
ปแบบคำ
�ร้
อยกรอง สำ
�นวน และสำ
�เนี
ยงภาษาของชาวไทยลื
อ และรู
จั
กชาวไทยลื
อ ว่
เป็
นผู้
มี
ศรั
ทธาในพุ
ทธศาสนา ดำ
�เนิ
นชี
วิ
ตอย่
างสั
นติ
ชนตามวิ
ถี
พุ
ทธ ค่
าวขั
บทำ
�ให้
ทราบว่
า ช่
างขั
บคื
อผู้
รู้
ระดั
บ พหู
สู
ของสั
งคม โมดของดนตรี
ท่
วงทำ
�นองและลี
ลาที่
กำ
�หนดโดยปี่
ลื้
อทำ
�ให้
ทราบว่
า การขั
บลื้
อเป็
นดนตรี
เพื่
อการตอบ
สนองทางจิ
ตวิ
ญญาณ ไม่
ใช่
ดนตรี
สำ
�หรั
บการเคลื่
อนไหวที่
โลดโผนหรื
ออึ
กทึ
ก บทบาทของปี่
จึ
งมี
หน้
าที่
สนั
บสนุ
และขั
บเน้
นให้
เนื้
อหาสาระในค่
าวขั
บมี
ความสำ
�คั
ญยิ่
งขึ้
น ดั
งนั้
นการขั
บลื้
อจึ
งเป็
นหนึ่
งในกระบวนการขั
ดเกลาทาง
สั
งคม มิ
ใช่
เป็
นเพี
ยงมหรสพอย่
างเดี
ยว
การสื
บทอด
ทั้
งช่
างขั
บและช่
างปี่
เรี
ยนรู้
วิ
ชาของตนด้
วยการฝึ
กปฏิ
บั
ติ
จริ
ง และด้
วยความจำ
�เป็
นหลั
ก การขั
บลื้
อทุ
กครั้
งของช่
าง
ขั
บเป็
นการขั
บจากความจำ
�เกื
อบทั้
งสิ้
น นอกนั้
นเป็
นการด้
นสดไปให้
สอดคล้
องกั
บบริ
บท ในอดี
ต ศิ
ษย์
ต้
องไปเรี
ยนและ
อาศั
ยอยู่
กั
บครู
แต่
ในบริ
บทใหม่
ของชาวไทยลื้
อในประเทศไทย เมื่
อการศึ
กษาในระบบโรงเรี
ยนมี
ความสำ
�คั
ญต่
อการเต
รี
ยมตั
วเข้
าสู่
อาชี
พของเยาวชนมากขึ้
นเป็
นลำ
�ดั
บ การสื
บทอดวิ
ชาและ ทั
กษะในการขั
บลื้
อและเป่
าปี่
ก็
ลดน้
อยลงเป็
ลำ
�ดั
บเช่
นกั
น ต่
อเมื
อการศึ
กษาค้
นคว้
าทางวั
ฒนธรรม และการสนั
บสนุ
นส่
งเสริ
มจากองค์
กรของรั
ฐ (เช่
น สำ
�นั
กงานคณะ
กรรมการวั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
และสำ
�นั
กงานเอกลั
กษณ์
แห่
งชาติ
เป็
นต้
น) และสถาบั
นการศึ
กษา หลายแห่
ง ตลอดจน
การส่
งเสริ
มการท่
องเที่
ยว ชุ
มชนชาวไทยลื้
อ (เช่
นเดี
ยวกั
บกลุ่
มชาติ
พั
นธุ์
อื่
นๆ) จึ
งสำ
�แดงตนต่
อสั
งคมอย่
างกล้
าหาญ