141
เหราเล่
นนํ้
า บั
วชู
ฝั
ก นาคาม้
วนหาง กวางเดิ
นดง พระนารายณ์
-ขว้
างจั
กร ช้
างหว่
านหญ้
า หนุ
มานผลาญยั
กษ์
พระลั
กษมณ์
แผลงอิ
ทธิ์
ฤทธี
กิ
นนรฟ้
อนฝู
ง ยู
งฟ้
อนหาง ขั
ดจางนาง ท่
านายสารถี
ตระเวนเวหา ขี่
ม้
าตี
คลี
ตี
โทนโยนทั
พ
งู
ขว้
างค้
อน รำ
�กระบี่
สี่
ท่
า จี
นสาวไส้
ท่
าชะนี
ร่
ายไม้
ทิ้
งขอน เมขลาล่
อแก้
ว กลางอั
มพร กิ
นนรเลี
ยบถํ้
า หนั
งหน้
าไฟ
ท่
าเสื
อทำ
�ลายห้
าง ช้
างทำ
�ลายโรง โจงกระเบนตี
เหล็
ก แทงวิ
ไสย กรดสุ
เมรุ
เครื
อวั
ลย์
พั
นไม้
ประลั
ยวาตยั้
งคิ
ด ประดิ
ษฐ์
ทำ
� กระหวั
ดเกล้
า ขี่
ม้
าเลี
ยบค่
าย กระต่
ายต้
องแร้
ว ชั
กซอสามสาย
รำ
�แม่
บทใหญ่
นี
้
เชื
่
อว่
าได้
รั
บอิ
ทธิ
พลจากตำ
�รานาฏยศาสตร์
ของอิ
นเดี
ย ซึ่
งพวกพราหมณ์
นำ
�เข้
ามาเผยแพร่
พร้
อม
กั
บศาสนาพราหมณ์
ตั้
งแต่
สมั
ยสุ
โขทั
ย และได้
พั
ฒนาการเป็
นนาฏศิ
ลป์
ไทยที่
สมบู
รณ์
ประณี
ตงดงามในสมั
ยอยุ
ธยา
และรั
ตนโกสิ
นทร์
เมื่
อกรมศิ
ลปากรก่
อตั้
งโรงเรี
ยนศิ
ลปากร จึ
งได้
นำ
�มาบรรจุ
ไว้
ในหลั
กสู
ตรวิ
ชานาฏศิ
ลป์
ละคร โดย
คุ
ณครู
มั
ลลี
คงประภั
ศร์
ครู
สอนนาฏศิ
ลป์
ไทยได้
คิ
ดประดิ
ษฐ์
ลี
ลาเชื่
อมท่
ารำ
� โดยยึ
ดคำ
�กลอนตำ
�รารำ
� จากหนั
งสื
อ
ตำ
�ราฟ้
อนรำ
�ในรั
ชกาลที่
๖ ทั้
งนี้
ท่
านเจ้
าคุ
ณครู
(พระยานั
ฏกานุ
รั
กษ์
) ได้
ดู
และเห็
นชอบแล้
ว จึ
งได้
นำ
�ไปฝึ
กหั
ดนั
กเรี
ยน
โรงเรี
ยนศิ
ลปากรให้
รำ
�ประกอบการแสดงละครเรื่
องสุ
ริ
ยาคุ
ปต์
ของหลวงวิ
จิ
ตรวาทการ และใช้
แสดงเป็
นชุ
ดเอกเทศ
เครื่
องแต่
งกายของฝ่
ายพระ และฝ่
ายนางจะนิ
ยมแต่
งเช่
นเดี
ยวกั
บแม่
บทเล็
ก ใช้
ผู้
แสดงตั้
งแต่
๒ คนขึ้
นไป
นอกจากนี้
รำ
�แม่
บทใหญ่
ยั
งปรากฏอยู
่
ในการแสดงเบิ
กโรงเรื่
องนาฏราช ผู้
รำ
�คื
อผู้
แสดงบทบาทพระอิ
ศวร
โดยเนื
้
อหากล่
าวถึ
งพระอิ
ศวรและพระนารายณ์
เทพเจ้
าทรงอวตารเป็
นดาบสและดาบสิ
นี
เพื
่
อปราบพวกนั
กบวชชายหญิ
ง
ที่
ประพฤติ
ผิ
ดพรหมจรรย์
อยู่
ณ ป่
าตาระกะ แต่
มี
ยั
กษ์
ตนหนึ่
งชื่
อมู
ลคะนี
ผู้
มี
หน้
าที่
เฝ้
าป่
าได้
เข้
ามาช่
วยปกป้
องนั
กบวช
ไว้
พระอิ
ศวรจึ
งสำ
�แดงอิ
ทธิ
ฤทธิ์
เอาพระบาทเหยี
ยบยั
กษ์
นั้
น พร้
อมกั
บวาดกรเป็
นท่
าทางสวยงาม ซึ่
งตำ
�นานท่
ารำ
�ถื
อว่
า
เป็
นท่
ารำ
�แรกที่
เกิ
ดขึ้
นในโลก โดยให้
ชื่
อว่
า ท่
านาฏราช เมื่
อพญาอนั
นตนาคราชซึ่
งตามเสด็
จพระนารายณ์
ได้
เห็
นก็
เกิ
ด
ความประทั
บใจ จึ
งทู
ลขอให้
พระอิ
ศวรทรงรำ
�อี
กครั้
งบนสรวงสวรรค์
พระอิ
ศวรก็
ทรงประทานโดยให้
บรรดาเทพยดา
ทั้
งหลายได้
ดู
การรำ
�ไปพร้
อมๆ กั
น ซึ่
งการรำ
�ครั้
งนี้
เป็
นรำ
�แม่
บทที่
มี
เนื้
อร้
องยาวเรี
ยกว่
า รำ
�แม่
บทใหญ่
ปั
จจุ
บั
นไม่
นิ
ยม
นำ
�มาแสดงเป็
นชุ
ดเอกเทศ เนื่
องจากมี
บทยาวมาก ดั
งจะเห็
นได้
จากเนื้
อร้
องต่
อไปนี้
เทพนมปฐมพรหมสี่
หน้
า
สอดสร้
อยมาลาช้
านางนอน
ผาลาเพี
ยงไหล่
พิ
ศมั
ยเรี
ยงหมอน
กั
งหั
นร่
อนแขกเต้
าเข้
ารั
ง
กระต่
ายชมจั
นทร์
จั
นทร์
ทรงกลด
พระรถโยนสารมารกลั
บหลั
ง
เยื้
องกรายฉุ
ยฉายเข้
าวั
ง
มั
งกรเลี
ยบถํ้
ามุ
จลิ
นท์
กิ
นนรรำ
�ซํ้
าช้
างประสานงา
ท่
าพระรามาโก่
งศิ
ลป์
ภมรเคล้
ามั
จฉาชมวาริ
น
หลงใหลได้
สิ้
นหงส์
ลิ
นลา
ท่
าสิ
งโตเล่
นหางนางกล่
อมตั
ว
รำ
�ยั่
วชั
กแป้
งผั
ดหน้
า
ลมพั
ดยอดตองบั
งสุ
ริ
ยา
เหราเล่
นนํ้
าบั
วชู
ฝั
ก
นาคาม้
วนหางกวางเดิ
นดง
พระนารายณ์
ฤทธิ
รงค์
ขว้
างจั
กร
ช้
างหว่
านหญ้
าหนุ
มานผลาญยั
กษ์
พระลั
กษมณ์
แผลงอิ
ทธิ
ฤทธี
กิ
นนรฟ้
อนฝู
งยู
งฟ้
อนหาง
ขั
ดจางนางท่
านายสารถี