139
รำ
�แม่
บท
เรี
ยบเรี
ยงโดย นางสาววั
นทนี
ย์
ม่
วงบุ
ญ
ตามพจนานุ
กรมฉบั
บเฉลิ
มพระเกี
ยรติ
พ.ศ. ๒๕๓๐ คำ
�ว่
า “รำ
�” หมายถึ
ง แสดงท่
าเคลื่
อนไหวโดยมี
ลี
ลาและ
แบบท่
า เข้
ากั
บเสี
ยงจั
งหวะเพลงร้
องหรื
อเพลงดนตรี
คำ
�ว่
า “แม่
บท” หรื
อ “แม่
ท่
า”หมายถึ
ง ท่
าที่
เป็
นหลั
กของการรำ
�
เมื่
อรวมแล้
วจึ
งหมายถึ
ง การเคลื่
อนไหวท่
าที่
เป็
นหลั
กของการรำ
�ให้
มี
ลี
ลาไปตามเสี
ยงท่
วงทำ
�นองจั
งหวะเพลง
ซึ่
งรำ
�แม่
บทนี้
มี
ทั้
งแม่
บทเล็
ก และแม่
บทใหญ่
แม่
บทเล็
ก จะมี
ท่
าที่
เป็
นแม่
ท่
าเพี
ยง ๑๘ ท่
า น้
อยกว่
าแม่
บทใหญ่
ได้
แก่
ท่
าเทพนม ปฐม พรหมสี่
หน้
า
สอดสร้
อยมาลา กวางเดิ
นดง หงส์
บิ
น กิ
นริ
นเลี
ยบถํ้
า อี
กช้
านางนอน ภมรเคล้
า แขกเต้
า ผาลาเพี
ยงไหล่
เมขลาโยนแก้
ว
มยุ
เรศฟ้
อน ยอดตองต้
องลม พรหมนิ
มิ
ต พิ
สมั
ยเรี
ยงหมอน มั
จฉาชมสาคร และพระสี่
กรขว้
างจั
กร แต่
ละท่
ามี
ความหมาย
เช่
น ท่
าเทพนม ปฐม พรหมสี
่
หน้
า หมายถึ
ง เทวดาน้
อมไหว้
เป็
นเบื้
องต้
นแด่
พระพรหม เป็
นต้
น อี
กทั้
งเป็
นท่
าแม่
แบบใน
การแสดงนาฏศิ
ลป์
โขนละครต่
อมา ซึ่
งท่
านผู้
หญิ
งแผ้
ว สนิ
ทวงศ์
เสนี
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
และผู้
เชี่
ยวชาญด้
านนาฏศิ
ลป์
ไทย
เป็
นผู
้
ประดิ
ษฐ์
กระบวนท่
ารำ
� โดยเรี
ยงร้
อยท่
าจากเพลงช้
า เพลงเร็
ว อั
นเป็
นท่
าแม่
แบบการฝึ
กหั
ด นาฏศิ
ลป์
ไทย มี
การ
เชื่
อมท่
าจากท่
าหนึ่
งไปสู่
ท่
าหนึ่
งแล้
วตั้
งชื่
อท่
ารำ
�ผู
กเป็
นบทกลอนให้
สอดคล้
องกั
น นั
บเป็
นการแสดงที่
สวยงามชุ
ดหนึ่
ง
ลั
กษณะการแสดง แสดงได้
ตั้
งแต่
๒ คนขึ้
นไป ผู้
แสดงมี
ทั้
งฝ่
ายตั
วพระ และฝ่
ายตั
วนางใช้
ท่
ารำ
�พื้
นฐานหรื
อ
ท่
าฝึ
กหั
ดเบื้
องต้
น และท่
านาฏยศั
พท์
เป็
นท่
าหลั
ก ผสมผสานกั
บลี
ลาการเคลื่
อนไหวด้
วยการใช้
ท่
าเชื่
อมจากท่
าหนึ่
งไปอี
ก
ท่
าหนึ่
ง ใช้
วงปี่
พาทย์
ประกอบการแสดง โดยออกด้
วยเพลงรั
วหรื
อทำ
�นองเพลงชมตลาด แล้
วผู้
ขั
บร้
องร้
องตามบทร้
อง
ในเพลงชมตลาด จบด้
วยเพลงเร็
ว-ลา หรื
อเพลงรั
ว แต่
งกายด้
วยเครื่
องแต่
งกายที่
เรี
ยกว่
า ยื
นเครื่
อง ดั
งนี้
พระ แต่
งกายยื
นเครื่
องพระ จะเป็
นเสื้
อแขนสั้
น หรื
อแขนยาว ใส่
เครื่
องประดั
บ สวมชฎา
นาง แต่
งกายยื
นเครื่
องนาง ใส่
เครื่
องประดั
บ สวมมงกุ
ฎ หรื
อรั
ดเกล้
า
ใช้
แสดงเป็
นชุ
ดเอกเทศ และใช้
ในการแสดงโขน เรื่
องรามเกี
ยรติ์
ชุ
ดนารายณ์
ปราบนนทุ
กจากอดี
ตถึ
งปั
จจุ
บั
น
ซึ่
งมี
เนื้
อหากล่
าวถึ
งพระนารายณ์
เทพเจ้
า ทรงอวตารเป็
นนางอั
ปสรมาล่
อลวงอสู
รนนทุ
กให้
รำ
�ตามในท่
ารำ
�ต่
างๆ
หากรำ
�ได้
ก็
จะยอมเป็
นคู่
ครองด้
วย อสู
รนนทุ
กผู้
มี
นิ้
วเพชรเรื
องฤทธาอานุ
ภาพที่
พระอิ
ศวรเทพเจ้
าประทานให้
หลงกล
รำ
�ตาม จึ
งเผลอใช้
นิ้
วเพชรนั้
น ชี้
ขาตั
วเองจนหั
กลง ซึ่
งท่
ารำ
�ดั
งกล่
าวข้
างต้
น ใช้
ทำ
�นองเพลงชมตลาดมี
เนื้
อร้
องดั
งนี้
เทพนมปฐมพรหมสี่
หน้
า
สอดสร้
อยมาลาเฉิ
ดฉิ
น
ทั้
งกวางเดิ
นดงหงส์
บิ
น
กิ
นริ
นเลี
ยบถํ้
าอำ
�ไพ
อี
กช้
านางนอนภมรเคล้
า
แขกเต้
าผาลาเพี
ยงไหล่
เมขลาโยนแก้
วแววไว
มยุ
เรศฟ้
อนในนภาพร
ยอดตองต้
องลมพรหมนิ
มิ
ต
อี
กทั้
งพิ
สมั
ยเรี
ยงหมอน
ย้
ายท่
ามั
จฉาชมสาคร
พระสี่
กรขว้
างจั
กรฤทธิ
รงค์