Page 35 - dcp6

Basic HTML Version

24
นอกจากนี้
ยั
งพบที่
จั
งหวั
ดปราจี
นบุ
รี
พบมากในอำ
�เภอศรี
มหาโพธิ
ซึ่
งโดยมากเป็
นที่
อาศั
ยของกลุ่
ม ชาวลาว
(ลาวพวน) ใช้
นิ
ทานพระรถ-เมรี
ในการตั้
งชื่
อสถานที่
ต่
างๆ ในท้
องถิ่
นเช่
นกั
น เรี
ยกโบราณสถานที่
พบในอำ
�เภอ
ศรี
มหาโพธิ
ว่
าเมื
องพระรถ (นครมโหสถ) รวมถึ
งยั
งพบในจั
งหวั
ดฉะเชิ
งทรา คื
ออำ
�เภอราชสาส์
น อั
นเป็
นสถานที่
ที
พระฤๅษี
ช่
วนแปลพระราชสาส์
นของนางสั
นธมารเพื่
อช่
วยชี
วิ
ตพระรถ มี
ลานพระรถชนไก่
ที่
เชื่
อว่
าเป็
นสถานที่
ที่
พระรถเคยท้
พนั
นเจ้
าเมื
องชนไก่
มี
บ่
อหรื
อถํ้
านางสิ
บสองที่
ใช้
กั
กขั
งนางสิ
บสอง ส่
วนในอำ
�เภอพนมสารคาม มี
เมื
องโบราณเรี
ยกเมื
อง
สนาม เชื่
อกั
นว่
าเป็
นเมื
องของนางยั
กษ์
สั
นธมาร
ภาคเหนื
พบในจั
งหวั
ดพิ
ษณุ
โลก อำ
�เภอเนิ
นมะปราง โดยมี
สถานที่
เรี
ยกกั
นว่
า ถํ้
านางสิ
บสอง นอกจากนี้
ยั
งพบ
ว่
าในอำ
�เภอสอง จั
งหวั
ดแพร่
มี
ความเชื่
อว่
า นางสิ
บสองเป็
นหั
วหน้
าผี
ของปู่
เจ้
าสมิ
งพราย ซึ่
งผนวกกั
บนิ
ทาน พระลอ
อนึ่
ง ที่
เมื
องนาย รั
ฐฉาน ประเทศพม่
า ซึ่
งเป็
นที่
อาศั
ยของชาวไทใหญ่
มี
นิ
ทานประจำ
�ถิ่
นเรื่
องนางสิ
บสองเช่
นกั
เนื้
อความพ้
องกั
บนิ
ทานอธิ
บายที่
มาของอำ
�เภอราชสาส์
น ของจั
งหวั
ดฉะเชิ
งเทรา ตำ
�นานเมื
องนายบอกว่
าบริ
เวณนี้
นั้
เรี
ยกว่
า หลอยแต้
ม ซึ่
งแปลว่
า ดอยเขี
ยน นอกจากนี้
ภายหลั
งจากที่
นางเมรี
อกแตกตาย มี
การนำ
�เอาชิ้
นเนื้
อ และกระดู
ใส่
เกวี
ยนไปทิ้
งนอกเมื
อง แต่
กระดู
กตกระหว่
างทางทำ
�ให้
บริ
เวณนั้
นกลายเป็
นชื่
อ หลอยเฮ่
หรื
อ ดอยหก หรื
อ ตก ซึ่
งก็
หมายถึ
งเนื้
อและกระดู
กหกนั่
นเอง ปั
จจุ
บั
น ดอยเฮ่
เรี
ยกเพี้
ยนกลายเป็
น ดอยเหว่
ะ นิ
ทานพระรถนี้
ถื
อเป็
นที่
มาของชื่
เมื
องนาย อั
นเพี้
ยนมาจากคำ
�ว่
าเมื
องพาย ซึ่
งคำ
�ว่
“พาย”
แปลว่
“ยั
กษ์
คื
อเป็
นเมื
องของนางสั
นธมาร นอกจากนี้
เมื
องนายยั
งมี
วั
ดเจดี
ย์
นางสิ
บสอง เป็
นบริ
เวณที่
เชื่
อว่
านางสิ
บสองถู
กนำ
�มาขั
งไว้
ในถํ้
า โดยที่
ด้
านหนึ่
ง ของหน้
าผา
ปรากฏลายนิ้
วมื
อของนางยั
กษ์
ส่
วนใน
ภาคอี
สาน
พบว่
ามี
นิ
ทานพระรถ-เมรี
แพร่
หลายไม่
น้
อย หากแต่
สถานที่
ที่
ใช้
อธิ
บายจะใช้
อธิ
บายภู
เขาที่
อยู่
ในประเทศลาว โดยกล่
าวถึ
งภู
ท้
าวภู
นาง ที่
เมื
องหลวงพระบาง ว่
าเป็
นภู
เขาของพระพุ
ทธเสน กั
บนางกั
งรี
และมี
ถํ้
นางสิ
บสองที่
เมื
องจำ
�ปาศั
กดิ์
ขณะที่
ภาคใต้
พบว่
าที่
จั
งหวั
ดพั
งงา มี
เขาอกเมรี
อยู่
ฝั่
งขวาของเขาพิ
งกั
น นอกจากนี้
ยั
พบว่
าที่
จั
งหวั
ดพั
ทลุ
งมี
เมื
องโบราณที่
เรี
ยกว่
า เมื
องพระรถ ด้
วยเช่
นกั
น มี
วั
ดสุ
นทราหรื
อวั
ดสุ
นทราวาส วั
ดแห่
งนี้
เดิ
ชื่
อวั
ดปลายนาที่
มาของชื่
อนี้
ได้
มาจากชื่
อนางยั
กษ์
สนทรา ในนิ
ทานเรื่
องพระรถเมรี
มี
วั
ดควนสารหรื
อบ้
านควนสารซึ่
เป็
นที่
พระฤาษี
แปลงสาส์
นช่
วยพระรถ วั
ดควนถบ หรื
อบ้
านควนถบ หมายถึ
ง ควรสิ
นธพ เพราะสิ
นธพคื
อม้
าพี่
เลี้
ยงของ
พระรถเสน ทั้
งนี้
นิ
ทานเรื่
องพระรถเมรี
ยั
งแพร่
หลายไปถึ
งแม้
แต่
ที่
ไทรบุ
รี
หรื
อรั
ฐเคดาห์
ของมาเลเซี
ย มี
กระจั
บปิ้
งนางเมรี
เป็
นก้
อนใหญ่
ตั้
งอยู่
ตรงชายทะเลใกล้
หมู่
บ้
านปาดั
กรื
อเบาหรื
อบ้
านทุ่
งควายด้
วย
ปั
จจุ
บั
นสถานที่
ที่
เกี่
ยวข้
องกั
บนิ
ทานพระรถในจั
งหวั
ดดั
งกล่
าวมาข้
างต้
น ต่
าง
นำ
�นิ
ทานพระรถไปเผยแพร่
และต่
อยอดไปสู่
การท่
องเที่
ยวเชิ
งวั
ฒนธรรม
“ตามรอย
นิ
ทานพระรถ-เมรี
โดยเฉพาะอย่
างยิ่
งที่
จั
งหวั
ดชลบุ
รี
นอกจากนี้
ที่
จั
งหวั
ดแพร่
มี
การ
สร้
างศาลนางสิ
บสองขึ้
น และมี
พิ
ธี
บวงสรวงเป็
นงานประจำ
�ปี
โดยเชื่
อว่
านางสิ
บสอง
เป็
นเสื้
อเมื
องของเมื
องสอง โดยจะมี
พิ
ธี
ในทุ
กวั
นที่
๑๒ เมษายน ของทุ
กปี
ขณะที่
ใน
พื้
นที่
อื่
นๆ เช่
นที่
จั
งหวั
ดชลบุ
รี
มี
การตั้
งศาลแต่
เป็
นศาลขนาดเล็
กมี
พิ
ธี
กรรมเฉพาะ ใน
ชุ
มชนเท่
านั้