Page 34 - dcp6

Basic HTML Version

23
สั่
งว่
“ถึ
งกลางวั
นให้
ฆ่
ากลางวั
น ถึ
งกลางคื
นให้
ฆ่
ากลางคื
น”
จากนั
นพระรถเสนควบม้
าไปยั
งเมื
องยั
กษ์
ตามคำ
�สั่
พระบิ
ดา ครั้
นมาถึ
งอาศรมพระฤๅษี
ก็
ขอหยุ
ดพั
กแรม พระฤๅษี
ผู้
มี
ญาณพิ
เศษทราบเหตุ
การณ์
จึ
งแอบแปลงเนื้
อความ
ในสาส์
นนั้
นเสี
ยใหม่
ว่
“ถึ
งกลางวั
นให้
แต่
งกลางวั
น ถึ
งกลางคื
นให้
แต่
งกลางคื
น”
เมื่
อพระรถเสนไปถึ
งเมื
องยั
กษ์
พบนางเมรี
จึ
งนำ
�สาส์
นของนางสมุ
ทรชามอบให้
เพื่
อจะได้
ขอมะงั่
วรู้
หาว มะนาวรู้
โห่
นางเมรี
ทราบเรื่
องราวตามสาส์
นก็
ทำ
�ตามคำ
�สั่
งพระมารดาบุ
ญธรรมทุ
กประการ คื
อ อภิ
เษกสมรสและยกเมื
องให้
พระรถเสนครอง พระรถเสนอยู่
ในเมื
องยั
กษ์
ด้
วยความสุ
ข แต่
ถึ
งกระนั้
นพระองค์
ก็
ยั
งระลึ
กถึ
งมารดาและป้
า ของ
พระองค์
จึ
งคิ
ดหาอุ
บายโดยการจั
ดเลี้
ยงสุ
ราอาหารนางเมรี
จนเมามายและหลอกถามถึ
งห่
อดวงตานางสิ
บสอง อี
กทั้
กล่
องบรรจุ
ดวงใจของนางสั
นทมาร ความมึ
นเมาสุ
รานางเมรี
จึ
งบอกที่
เก็
บสิ่
งของสำ
�คั
ญตลอดจนยาวิ
เศษ ขนานต่
างๆ
แก่
พระรถเสนจนหมดสิ้
น พระรถเสนจึ
งนำ
�กล่
องดวงใจ ห่
อดวงตาและยารั
กษารวมทั้
งยาวิ
เศษที่
โปรย เป็
นภู
เขา เป็
นไฟ
เป็
นมหาสมุ
ทร ติ
ดตั
ว หนี
ออกจากเมื
องไป
ครั้
นเมื่
อนางเมรี
หายจากความมึ
นเมาไม่
เห็
นพระรถเสน นางจึ
งรู้
ว่
าพระรถเสนหนี
ไป นางกั
บเสนายั
กษ์
ได้
ออก
ติ
ดตามพระรถเสน พระรถเสนควบม้
าหนี
มาแต่
นางเมรี
ก็
ตามทั
น พระรถเสนจึ
งโปรยยาให้
เป็
นมหาสมุ
ทร นางเมรี
สิ้
แรงฤทธิ์
ไม่
สามารถจะข้
ามมหาสมุ
ทรได้
นางเฝ้
ารำ
�พั
นอ้
อนวอนให้
พระรถเสนกลั
บเมื
องไปอยู่
กั
บนาง นางเมรี
เศร้
าโศก
ครํ่
าคราญจนดวงใจแตกสิ้
นใจตาย พระรถเสนกล่
าวขอขมาต่
อหน้
าศพนางแล้
วให้
เสนายั
กษ์
นำ
�กลั
บเมื
อง พระรถเสน
ตั
ดใจกลั
บเมื
องไปช่
วยมารดา
เมื่
อกลั
บมาถึ
งเมื
องไพศาลี
พระรถเสนนำ
�ดวงตามารดาและป้
าๆ พร้
อมกั
บยารั
กษาจนสามารถมองเห็
นได้
ทั้
สิ
บสองนาง พระรถเสนเข้
าเฝ้
าพระราชบิ
ดาพร้
อมกั
บทู
ลว่
านางสมุ
ทรชาเป็
นยั
กษิ
ณี
นางสมุ
ทรชารู้
เรื่
องจึ
ง แปลงกาย
เป็
นยั
กษ์
หวั
งจะฆ่
าพระรถเสนเสี
ย แต่
พระรถเสนต่
อสู้
กั
บนางสมุ
ทรชาเป็
นสามารถและทำ
�ลายกล่
องดวงใจของ
นางสมุ
ทรชาจนสิ้
นใจตาย พระรถสิ
ทธิ์
ขอโทษมเหสี
ทั้
งสิ
บสองนางที่
พระองค์
ลงทั
ณฑ์
นางเพราะความมั
วเมาในเสน่
ห์
มารยาของนางยั
กษิ
ณี
ในที่
สุ
ดพระรถสิ
ทธิ์
ก็
ครองเมื
องกั
บมเหสี
ทั้
งสิ
บสองคนอย่
างสั
นติ
สุ
เรื่
องราวของพระรถ-เมรี
ยั
งเป็
นนิ
ทานอธิ
บายที่
มาของภู
มิ
นามในสถานที่
ต่
างๆ ซึ่
งชาวบ้
านเชื่
อกั
นว่
า ครั้
งหนึ่
เรื่
องราวในนิ
ทานพระรถเคยเกิ
ดขึ้
นจริ
งในบริ
เวณนั้
นๆ จนกลายเป็
นนิ
ทานประจำ
�ถิ่
น (legend) มาจนปั
จจุ
บั
น ทั้
งนี้
พบว่
ามี
ความเกี่
ยวข้
องกั
บภู
มิ
นามในภู
มิ
ภาคต่
างๆ ดั
งนี้
ภาคตะวั
นออก
เป็
นพื้
นที่
ที่
พบความแพร่
หลายของนิ
ทานพระรถมากกว่
าภู
มิ
ภาคอื่
นๆ โดยพบที่
จั
งหวั
ดชลบุ
รี
และจั
งหวั
ดปราจี
นบุ
รี
ในจั
งหวั
ดชลบุ
รี
พบในอำ
�เภอ
พนั
สนิ
คม ซึ่
งเป็
นที่
อยู่
ของกลุ่
มชาวลาว (ลาวเวี
ยง) เมื่
อครั้
งรั
ชกาลที่
๓ และได้
ใช้
นิ
ทาน
พระรถในการตั้
งชื่
อสถานที่
ต่
างๆ ในบริ
เวณนี้
โดยเรี
ยกโบราณสถานที
ตำ
�บลหน้
พระธาตุ
ว่
า เมื
องพระรถ เรี
ยกอำ
�เภอบ่
อทองว่
า เมื
องพญาเร่
หรื
อเมื
องคชบุ
รี
ซึ่
งเมื
องของ
นาง สั
นธมาร มี
ถํ้
านางสิ
บสอง มี
หิ
นสิ
บสองก้
อนเรี
ยกหมอนนางสิ
บสอง มี
บ้
านเนิ
นดิ
นแดง
ที่
เป็
นสถานที่
ตายของนางเมรี
ร้
องไห้
จนนํ้
าตาเป็
นสายเลื
อดและอกแตกตาย มี
สระ
พระรถที่
พระรถใช้
ให้
นํ้
าไก่
มี
ลู
กศรพระรถ รางหญ้
าม้
าพระรถ ที่
อำ
�เภอพนั
สนิ
คม เป็
นต้