47
๒. การขึ้
นรู
ปหรื
อการปั้
นโอ่
ง
การขึ้
นรู
ปหรื
อการปั้
น แบ่
งการขึ้
นรู
ปออกเป็
น ๓ ส่
วนคื
อ
๒.๑ ส่
วนขาหรื
อส่
วนก้
น ใช้
ดิ
นที่
ผ่
านการนวดแล้
ว วางบนแผ่
นไม้
ตามขนาดต่
างๆ ที่
ต้
องการ ใช้
ขี้
เถ้
าโรยเพื่
อกั
นไม่
ให้
เนื้
อดิ
นติ
ดกั
บ แผ่
นไม้
ดิ
น
ที่
เป็
นส่
วนฐานนี้
เรี
ยกว่
า “ตั
วกิ๊
ว” จากนั้
นนำ
�ดิ
นที่
คลึ
งเป็
นเส้
นมา “ต่
อเส้
น”
ในขนาดและปริ
มาตรบรรจุ
ต่
างๆ ขนาดมาตรฐานของโอ่
ง เมื่
อปั้
นตั
วโอ่
งและ
ยกลงแล้
วตบแต่
งผิ
วทั
้
งด้
านนอกและด้
านใน โดยการขู
ดดิ
น ที
่
ไม่
เสมอกั
นออก
ให้
เรี
ยบ แล้
วใช้
นํ้
าลู
บเพื่
อให้
ผิ
วเนี
ยนอี
กที
หนึ่
ง
๒.๒ ส่
วนลำ
�ตั
วเรี
ยกว่
า “จ๊
อ” นำ
�ส่
วนขาหรื
อส่
วนก้
นที
่
แห้
งพอหมาด
มาวางบน “แป้
นยิ
” ตบแต่
งด้
วยฮุ
ยหลุ
บและไม้
ตี
นำ
�ดิ
นเส้
นมาต่
อขึ
้
นไปจนได้
ความสู
งและขนาดเส้
นผ่
าศู
นย์
กลางตามต้
องการ ใช้
ไม้
ต๊
าขู
ดดิ
นและตบแต่
ง
ผิ
วให้
เรี
ยบ ทิ้
งไว้
พอหมาด แล้
วจึ
งนำ
�ไปปั้
นขอบปากต่
อ
๒.๓ การขึ้
นรู
ปขอบปาก หรื
อ “ตุ๊
น” ใช้
แป้
นยิ
มี
ขนาดเตี้
ยลงไปอี
ก
โดยต้
องตบแต่
งผิ
วส่
วนจ๊
อและส่
วนขาด้
วยไม้
ต๊
าเสี
ยก่
อน จึ
งใช้
ดิ
นเส้
นบี
บต่
อ
ขึ
้
นไปจนได้
ขนาดความสู
งที
่
ต้
องการ แล้
วฟองนํ
้
าลู
บให้
เรี
ยบ จากนั
้
นใช้
ผ้
าด้
ายดิ
บ
ชุ
บนํ
้
าลู
บส่
วนบน พร้
อมกั
บบี
บหรื
อกดให้
ขึ
้
นรู
ปขอบปากโอ่
ง ใช้
ไม้
ต๊
าตบแต่
ง
ให้
เรี
ยบเสมอกั
นแล้
วใช้
พลาสติ
กคลุ
มไว้
โดยรอบเพื่
อรอการตกแต่
ง
ลวดลาย
๓. การเขี
ยนลาย
ก่
อนเขี
ยนลาย ต้
องทำ
�การแต่
งผิ
วให้
เรี
ยบเสี
ยก่
อนด้
วยฮุ
ยหลุ
บและ
ไม้
ตี
จากนั
้
นจึ
งนำ
�มาเขี
ยนลายทั
นที
ในขณะที่
เนื
้
อดิ
นยั
งหมาดอยู่
แป้
นที่
ช่
าง
ใช้
เขี
ยนลายนั้
นเป็
นแป้
นไม้
หมุ
นใช้
เท้
าถี
บ วั
สดุ
ที่
ใช้
เขี
ยนลายนั้
นคื
อดิ
นเนื้
อ
ละเอี
ยดผสมกั
บดิ
นขาว เรี
ยกดิ
น “ติ
ดดอก” มี
สี
นวล ช่
างเขี
ยนลายใช้
ดิ
นสี
นวลนี
้
ปาดด้
วยมื
อเป็
นเส้
นเล็
กๆ รอบตั
วโอ่
ง แบ่
งเป็
นสามช่
วง คื
อ ช่
วงปากโอ่
ง ลำ
�ตั
ว และส่
วนเชิ
งล่
างของโอ่
ง ในแต่
ละส่
วน
จะมี
ลวดลายไม่
เหมื
อนกั
น ช่
วงปากโอ่
ง นิ
ยมเป็
นลายดอกไม้
หรื
อลายเครื
อเถา ใช้
วิ
ธี
ที่
เรี
ยกว่
าพิ
มพ์
ลาย นำ
�กระดาษ
ฉลุ
ลายวางทาบบนโอ่
งแล้
วปาดด้
วยดิ
นติ
ดดอก โอ่
งใบหนึ่
งๆ มี
ประมาณ ๔ ช่
วงตั
วแบบ ช่
วงลำ
�ตั
ว นิ
ยมเขี
ยนเป็
น
ลายรู
ปมั
งกร มี
ทั้
งมั
งกรดั้
นเมฆ มั
งกรคาบแก้
ว และมั
งกรสองตั
วเกี่
ยวพั
นกั
น เป็
นต้
น ส่
วนเชิ
งล่
างของโอ่
ง ใช้
วิ
ธี
การ
ติ
ดลายคล้
ายกั
บส่
วนปาก จากนั้
นใช้
นํ้
าลู
บที
่
ลายทั้
งหมด เพื่
อให้
ลายมี
ผิ
วที่
เรี
ยบเสมอกั
นและลื่
น เป็
นการเตรี
ยมสู่
ขั้
นตอนการเคลื
อบและเผาต่
อไป
นอกจากลายมั
งกรที่
เป็
นที่
นิ
ยมแล้
ว ยั
งมี
ลายดอกโบตั๋
น ลายเรื
อพระที่
นั่
งสุ
พรรณหงส์
ลายมั่
งมี
ศรี
สุ
ข เป็
นต้
น
แต่
ว่
าลายมั
งกร จะเป็
นที่
คุ้
นตาผู้
บริ
โภคให้
จดจำ
�กั
นได้
มากที่
สุ
ด ทำ
�ให้
คนเรี
ยกโอ่
งราชบุ
รี
จนติ
ดปากว่
าโอ่
งมั
งกร
การปั้
นขึ้
นรู
ป
การปั้
นปากโอ่
ง
การเขี
ยนลาย