Page 48 - dcp3

Basic HTML Version

37
ตะกร้
อหวาย
เรี
ยบเรี
ยงโดย พั
นเอก(พิ
เศษ) อำ
�นาจ พุ
กศรี
สุ
คำ
�ว่
า “ตะกร้
อ” ตามพจนานุ
กรมฉบั
บราชบั
ณฑิ
ตยสถานปี
พ.ศ. ๒๕๒๕ ให้
คำ
�นิ
ยาม “ตะกร้
อ” ไว้
ว่
า “ของ
เล่
นชนิ
ดหนึ่
ง ลู
กกลมสานด้
วยหวายเป็
นตาๆ สำ
�หรั
บเตะ”
ประเทศไทยตั้
งอยู่
ในพื้
นภู
มิ
ที่
อุ
ดมไปด้
วยไม้
ไผ่
และหวายนานาชนิ
ด ซึ่
งคนไทยนิ
ยมใช้
ไม้
ไผ่
และหวายมาเป็
วั
สดุ
หลั
กในการทำ
�สิ่
งของ เครื่
องใช้
ต่
างๆ รวมถึ
งอุ
ปกรณ์
การละเล่
นพื้
นบ้
าน และกี
ฬาพื้
นบ้
าน เช่
น ตะกร้
อ และกระบี่
กระบอง เป็
นต้
ตะกร้
อ เป็
นกี
ฬาพื้
นบ้
านที่
นั
บได้
ว่
าเป็
นเอกลั
กษณ์
ของไทยอย่
างหนึ่
ง ที่
มี
การเล่
นกั
นมาแต่
โบราณควบคู่
มากั
การเล่
นกระบี่
กระบอง จนสามารถประยุ
กต์
เข้
ากั
บประเพณี
ของชนชาติ
ไทยอย่
างกลมกลื
นและสวยงามทั้
งด้
านทั
กษะ
และความคิ
ด แต่
ยั
งหาข้
อยุ
ติ
ไม่
ได้
ว่
า คนไทยเริ่
มสานตะกร้
อและเล่
นตะกร้
อกั
นมาตั้
งแต่
สมั
ยใด แต่
เมื่
อประมวลความ
รู้
ทางประวั
ติ
ศาสตร์
และโบราณคดี
แล้
ว น่
าจะเชื่
อได้
ว่
าคนไทยเริ่
มเล่
นตะกร้
อกั
นจริ
งจั
งในสมั
ยอยุ
ธยา ต่
อมาในสมั
รั
ตนโกสิ
นทร์
ตอนต้
น มี
หลั
กฐานว่
าการเล่
นตะกร้
อเป็
นที่
นิ
ยมกั
นอย่
างกว้
างขวางแล้
ว ดั
งมี
ความกล่
าวถึ
งการเล่
นตะกร้
เป็
นหลั
กฐานปรากฏอยู่
ในวรรณคดี
เรื่
องอิ
เหนาพระราชนิ
พนธ์
ในพระบาทสมเด็
จพระพุ
ทธเลิ
ศหล้
านภาลั
ยรั
ชกาลที่
๒ อี
กทั้
งยั
งมี
ภาพการเล่
นตะกร้
ออยู่
ในภาพจิ
ตรกรรมฝาผนั
งเรื่
อง รามเกี
ยรติ์
ที่
เขี
ยนไว้
รอบระเบี
ยงพระอุ
โบสถวั
ดพระศรี
รั
ตนศาสดารามอี
กด้
วย
“ตะกร้
อ” เป็
นของเล่
นชนิ
ดหนึ่
ง สานด้
วยหวาย โดยใช้
หวายตะค้
า หรื
หวายกาหลง จำ
�นวน ๙-๑๑ เส้
น สานเป็
นตาๆ ด้
วยลายเฉลว ๕ มุ
มให้
เป็
นลู
กลม มี
๑๒ รู
๒๐ จุ
ดตั
ดไขว้
มี
เส้
นรอบวง ๑๖-๑๗ นิ้
ว นํ้
าหนั
กระหว่
าง ๑๗๐-
๑๘๐ กรั
ม ใช้
สำ
�หรั
บเตะ
อุ
ปกรณ์
เครื่
องไม้
เครื่
องมื
อที่
ใช้
ในการสานตะกร้
อนั้
นใช้
เครื่
องมื
อจั
กสาน
แบบพื้
นบ้
านง่
ายๆ ประกอบด้
วย มี
ด มี
ดบาง สิ่
ว คี
ม ดิ
นสอ ไม้
วั
ด และเครื่
องชั
หวาย เป็
นต้
ขั้
นตอนการสานตะกร้
อหวาย ประกอบด้
วย การชั
กหวาย เป็
นขั้
นตอนแรก
ในการสานตะกร้
อ โดยเลื
อกหวายที่
มี
ขนาดเหมาะสมนำ
�มาผ่
าออกเป็
นซี
กตาม
ขนาดที่
ต้
องการ จากนั้
นนำ
�ไปเข้
าเครื่
องชั
กหวายชั
กให้
หวายมี
ลั
กษณะเป็
นเส้
แต่
ไม่
กลม จากนั้
นเลื
อกหวายให้
ได้
ขนาดที่
ต้
องการแล้
วก็
นำ
�ไปกำ
�หนดขนาด ใน
สมั
ยก่
อนจะกำ
�หนดขนาดตะกร้
อโดยใช้
ดิ
นเหนี
ยวปั้
นเป็
นลู
กกลมๆ ให้
ได้
ขนาดที่
ต้
องการนำ
�ไปตากให้
แห้
งแล้
ว นำ
�มาเป็
นแม่
แบบแต่
ในสมั
ยหลั
งเมื่
อชั
กหวายจนได้
หวายขนาดที่
ต้
องการแล้
วก็
นำ
�ไปวั
ดขนาดโครงที่
จะขึ้
นตามขนาดที่
ต้
องการแล้
ทำ
�เครื่
องหมายไว้
ที่
หวาย ก่
อนขึ้
นโครงสาน การขึ้
นโครงสานในสมั
ยก่
อน จะใช้
ดิ
นเหนี
ยวปั้
นเป็
นลู
กกลมๆ ให้
ได้
ขนาดที่
ต้
องการนำ
�ไปตากให้
แห้
งแล้
ว นำ
�มาเป็
แม่
แบบจากนั้
นก็
เอาหวายมาสานครอบ เมื่
อ สานเสร็
จ แล้
วจึ
งเอาไปแช่
นํ้
าแล้