35
เครื่
องจั
กสานไม้
ไผ่
เรี
ยบเรี
ยงโดย ศาสตราจารย์
วิ
บู
ลย์
ลี้
สุ
วรรณ
เครื่
องจั
กสานไม้
ไผ่
เป็
นหั
ตถกรรมเก่
าแก่
ของไทยที่
ทำ
�สื
บต่
อกั
นมานาน
หลายร้
อยปี
เครื่
องจั
กสานไม้
ไผ่
ในอดี
ตอาจมี
รู
ปแบบและลวดลายที
่
ไม่
ซั
บซ้
อน
เพราะวั
ตถุ
ประสงค์
สำ
�คั
ญคื
อ ทำ
�เพื่
อใช้
สอยจึ
งมี
รู
ปแบบและลวดลาย
สอดคล้
องกั
บการใช้
สอย วั
ฒนธรรม และรสนิ
ยมของกลุ่
มชน
เอกลั
กษณ์
ของเครื่
องจั
กสานไม้
ไผ่
ของไทยประการหนึ่
งคื
อ การสร้
าง
ลวดลายที่
หลากหลาย ตั้
งแต่
ลายขั
ด ซึ่
งเป็
นลายพื้
นฐานและพั
ฒนาให้
มี
ความงามควบคู่
ไปกั
บการใช้
สอย เช่
น ลายขั
ดโปร่
งยอนดอก ลายขั
ดกั
นเป็
น
ตาโปร่
งๆ แล้
วใช้
ตอกเล็
กๆ สอดเข้
าไปทำ
�ให้
เกิ
ดดอกเล็
กๆในตาโปร่
งนั้
น ลายสองเวี
ยน คลี่
คลายเป็
น ลายสองเวี
ยน
ลายสองยื
น ลายข้
างกระแต ลายดี
หล่
ม ลายดี
กระจาย ลายสาม ลายขั
ดเช่
นเดี
ยวกั
บลายสอง แต่
เพิ่
มตอกเป็
นสามเส้
น
“ยกสาม ข่
มสาม” จะได้
ลายแนวทแยงสวยงามใช้
สานเสื่
อลำ
�แพน ฝาเรื
อน หรื
อภาชนะขนาดใหญ่
ลายสามยกดอก
ลายสองที่
ใช้
ดี
เป็
นแกน สร้
างดอกลายสี่
เหลี่
ยมเรี
ยงสลั
บกั
นไป เช่
นเดี
ยวกั
บลายสองยกดอก แต่
เพิ่
มตอกเป็
นสามเส้
น
ลายชนิ
ดนี้
ใช้
สานฝาเรื
อน พั
ด หมวก ก่
องข้
าว เป็
นต้
น ลายสามคลี่
คลายเป็
น ลายประสุ
ลายดี
หล่
ม ลายดี
ตะแคง ลาย
ดาวล้
อมเดื
อน ลายยกดอก ลายตาหมากรุ
ก ลายตะแกรง ลาย ลายเสื่
อ
นอกจาก ลายสานที่
แสดงให้
เห็
นภู
มิ
ปั
ญญาของช่
างจั
กสานแล้
ว งานจั
กสานบางชนิ
ด ยั
งแสดงให้
เห็
นภู
มิ
ปั
ญญา
ในการสร้
างรู
ปแบบและลวดลายให้
สอดคล้
องกั
บวั
ฒนธรรมด้
วย เช่
น ก่
องข้
าว และกระติ
บข้
าว ภาชนะสำ
�หรั
บใส่
ข้
าว
เหนี
ยวนึ่
ง ที่
มี
ลั
กษณะพิ
เศษคื
อ การสานซ้
อนกั
น ๒ ชั้
น ช่
วยให้
ไอร้
อนจากข้
าวเหนี
ยวนึ่
ง ระเหยออกไปอย่
างช้
าๆ ทำ
�ให้
ข้
าวเหนี
ยวนึ่
งร้
อนและอยู่
ได้
นาน
ภู
มิ
ปั
ญญาสำ
�คั
ญในการจั
กสานไม้
ไผ่
คื
อ สานเพื่
อสนองความเชื่
อของกลุ่
มชน เช่
น เฉลว (ภาคเหนื
อ-อี
สาน เรี
ยก
ลายตาแหลว ภาคใต้
เรี
ยก ลายตาหลิ่
ว) ตอกไม้
ไผ่
พั
บขั
ดกั
นเป็
นห้
าหรื
อหกมุ
มคล้
ายดาวห้
าแฉกหรื
อหกแฉก ใช้
ปั
กเป็
น
สั
ญลั
กษณ์
เช่
น ปั
กเพื่
อแสดงความเป็
นเจ้
าของหรื
อบอกขายสิ่
งนั้
น หรื
อปกป้
องกั
นสิ่
งชั่
วร้
ายมาให้
เข้
ามาในบริ
เวณที่
ปั
กเฉลวไว้
ปั
กไว้
บนหม้
อยา เพื่
อป้
องกั
นสิ่
งชั่
วร้
ายไม่
ให้
มาทำ
�ให้
ยาเสื่
อม หรื
อใช้
เฉลวปั
กไว้
ตามที่
ต่
างๆ เพื่
อป้
องกั
นผี
และสิ่
งชั่
วร้
ายไม่
ให้
เข้
ามาในบริ
เวณนั้
น เช่
นเดี
ยวกั
บชาวบ้
านในภาคเหนื
อมั
กทำ
�เฉลวแขวนไว้
เหนื
อประตู
บ้
าน หากมี
การนำ
�ศพผ่
านบ้
านเรื
อนของตน เพราะเชื่
อว่
าเฉลวจะช่
วยป้
องกั
นผี
ไม่
ให้
เข้
าไปในบ้
านเรื
อนของตน
เครื่
องจั
กสานไม้
ไผ่
เป็
นงานหั
ตถกรรมที
่
มี
มู
ลค่
าหรื
อราคาไม่
สู
ง เพราะเป็
นงานหั
ตถกรรมที่
ทำ
�จากวั
ตถุ
ดิ
บที่
หา
ได้
ไม่
ยาก ราคาไม่
แพง และมี
กรรมวิ
ธี
การผลิ
ตพื้
นๆ ที่
สานด้
วยมื
อเป็
นหลั
ก ไม่
มี
ขั้
นตอนและกรรมวิ
ธี
ที่
ยุ่
งยากซั
บซ้
อน
เหมื
อนงานหั
ตถกรรมประเภทอื่
น แต่
สิ่
งเหล่
านี้
กลั
บทำ
�ให้
งานจั
กสานเป็
นงานหั
ตถกรรมที่
มี
คุ
ณค่
าทางจิ
ตใจเพราะที่
สร้
างขึ้
นอย่
างตรงไปตรงมา “จากสมองไปสู่
มื
อ” ไม่
ใช่
งานที่
ผลิ
ตด้
วยเครื่
องจั
กเป็
นจำ
�นวนมาก งานจั
กสานสะท้
อนให้
เห็
นความรู้
สึ
กนึ
กคิ
ด ความสามารถ และรสนิ
ยมความงามของช่
างอย่
างซื่
อตรงที่
สุ
ด ดั
งนั้
น คุ
ณค่
าของเครื่
องจั
กสานจึ
ง
ไม่
ได้
อยู่
ที่
มู
ลค่
าของวั
ตถุ
ดิ
บ แต่
มี
คุ
ณค่
าทาง “ปั
ญญา” ของช่
างที่
สร้
างเครื่
องจั
กสานได้
อย่
างเหมาะสมกั
บการใช้
สอย
และวั
ฒนธรรมไทย
เครื
่
องจั
กสานไม้
ไผ่
ได้
รั
บการขึ
้
นทะเบี
ยนเป็
นมรดกภู
มิ
ปั
ญญาทางวั
ฒนธรรมของชาติ
ประจำ
�ปี
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๕๔