Page 36 - dcp3

Basic HTML Version

25
การสื
บทอดภู
มิ
ปั
ญญาผ้
าทอเมื
องอุ
บลฯ ยั
งเป็
นสิ่
งแสดง ทั
กษะความสามารถของการทอผ้
าชั้
นสู
งของช่
างทอ
ผ้
าเมื
องอุ
บลฯที่
ได้
ทำ
�งานกั
บเจ้
านายเมื
องอุ
บลฯในท้
องถิ่
น และลวดลายผ้
าหลายอย่
างเป็
นงานออกแบบความคิ
สร้
างสรรค์
ที่
ประยุ
กต์
มาจากลวดลายผ้
าในราชสำ
�นั
ก เช่
น ผ้
าเยี
ยรบั
บลาว ที่
เจ้
านาย เมื
องอุ
บลฯ ผลิ
ตส่
งให้
ราชสำ
�นั
สยาม และลายตี
นซิ่
นที่
นำ
�ลายกรวยเชิ
งมาประยุ
กต์
เป็
นตี
นซิ่
นแบบเมื
องอุ
บลฯ แสดงถึ
งสั
ญลั
กษณ์
ของความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างศิ
ลปะผ้
าราชสำ
�นั
กไทยและศิ
ลปะผ้
าทอเมื
องอุ
บลฯ ซึ่
งสถานการณ์
ปั
จจุ
บั
นภู
มิ
ปั
ญญาเหล่
านี้
เสี่
ยงต่
อการ
สู
ญหายโดยเฉพาะส่
วน “คุ
ณค่
าความหมายทางประวั
ติ
ศาสตร์
และกระบวนการในการผลิ
ต” ซึ่
งการมี
ส่
วนร่
วมของ
ชุ
มชนเจ้
าของวั
ฒนธรรมในการวิ
จั
ยครั้
งนี้
จะมี
บทบาทสำ
�คั
ญในการสื
บทอดและสงวนรั
กษาองค์
ความรู้
นี้
ให้
เป็
นมรดก
ภู
มิ
ปั
ญญาทางวั
ฒนธรรมในขอบเขตประเทศไทยและของโลก
งานผ้
าทอเมื
องอุ
บลฯ มี
เอกลั
กษณ์
ที่
โดดเด่
นคื
๑. ลวดลายผ้
าหลายอย่
างเป็
นงานออกแบบความคิ
ดสร้
างสรรค์
ที่
ประยุ
กต์
มาจากลวดลายผ้
าสยาม เช่
ผ้
าเยี
ยรบั
บลาว ที่
เจ้
านายเมื
องอุ
บลฯผลิ
ตส่
งให้
ราชสำ
�นั
กสยาม
๒. ลายตี
นซิ่
นที่
นำ
�ลายกรวยเชิ
งของลายผ้
าในราชสำ
�นั
กไทย มาประยุ
กต์
ออกแบบเป็
นตี
นซิ่
นแบบเมื
องอุ
บลฯ
ด้
วยการใช้
เทคนิ
คการทอขิ
ดของอี
สาน จึ
งเป็
นสั
ญลั
กษณ์
ของความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างศิ
ลปะผ้
าราชสำ
�นั
กและศิ
ลปะ
ผ้
าทอเมื
องอุ
บลฯ
๓. ลายหั
วซิ่
นที่
ใช้
การเทคนิ
คการทอจก ลายดาวที่
เป็
นเอกลั
กษณ์
ที่
แตกต่
างจากผ้
าอี
สานทั่
วไป
๔. ลายมั
ดหมี่
ของเมื
องอุ
บล จะนิ
ยมการให้
ลายละเอี
ยดของลายผ้
าแบบ “หมี่
สองสอด” ที่
เสริ
มความประณี
ของลายผ้
๕. มี
การผสมผสานและประยุ
กต์
เทคนิ
คการทอผ้
าจนเกิ
ดเป็
นงานผ้
าทอใหม่
กรณี
“ผ้
าซิ่
นทิ
วมุ
กจกดาว”
ที่
ผสมเทคนิ
คการตั้
งสี
เครื
อเส้
นยื
น การทอเสริ
มเส้
นยื
นพิ
เศษ และการจกเสริ
มเส้
นพุ่
งพิ
เศษ ในผื
นเดี
ยว จนเป็
นงาน
ผ้
าทอที่
เป็
นเอกลั
กษณ์
กลวิ
ธี
การผลิ
ตผ้
าทอเมื
องอุ
บลฯ
๑. การทอผ้
า ได้
แก่
ความรู้
ในการทอผ้
าเยี
ยรบั
บลาว นำ
�ความคิ
ดสร้
างสรรค์
ลวดลายผ้
าจากผ้
าราชสำ
�นั
กสยาม
และการทอด้
วยเทคนิ
คการ “ยก” เทคนิ
คการ “ขิ
ด” และผสมเทคนิ
คการ “จก” และมี
การใช้
อุ
ปกรณ์
การทอผ้
าช่
วยใน
การทอ คื
อ “ตะกอแนวดิ่
ง” ในการยกเส้
นยื
นเพื่
อสร้
างลวดลายผ้
า การจั
ดองค์
ประกอบสี
สั
นที่
ซั
บซ้
อนหลายสี
เป็
นต้
นอกจากนี้
ผ้
าไหมคุ
ณภาพสู
งของเมื
องอุ
บลฯ ยั
งรั
กษา “การตี
เกลี
ยวไหมเส้
นพุ่
ง” หลายครั้
งเพื่
อเพิ่
มความมั
นวาว
และเนื้
อผ้
าที่
สั
มผั
สละมุ
นทั้
งยั
งสวยงามตา รวมทั้
ง “ทั
กษะการมั
ดหมี่
เพื่
อการทอแบบสองสอด” ที่
ช่
วยให้
สามารถ
สร้
างสรรค์
ลวดลายละเอี
ยดของลายผ้
าขนาดเล็
กให้
สวยงาม เช่
น ลายปราสาทผึ้
ง ลายนาคน้
อย เป็
นต้
๒. การย้
อมสี
ของท้
องถิ่
น ได้
แก่
ความรู้
ในการเลื
อกวั
สดุ
ย้
อมสี
ธรรมชาติ
จากครั่
ง เข คราม การย้
อมครามทั
สี
เหลื
องให้
เกิ
ดสี
เขี
ยว การย้
อมครามทั
บสี
แดงให้
เกิ
ดสี
ม่
วง ความรู้
ในการใช้
“สารติ
ดสี
ธรรมชาติ
” ที่
มี
ค่
าเป็
นกรดและ
มี
ค่
าเป็
นด่
าง เป็
นต้