Page 138 - dcp3

Basic HTML Version

127
ต่
อมาจากประเพณี
แห่
ต้
นผึ้
ง ได้
มี
การสร้
างหอปราสาทผึ้
งอย่
างวิ
จิ
ตรงดงามเพื่
อถวายเป็
นพุ
ทธบู
ชา รอยพระบาท
ณ วั
ดพระธาตุ
เชิ
งชุ
ม และจั
ดทำ
�ร่
วมกั
นในวั
นออกพรรษา หรื
อวั
นเทโวโรหนะ ซึ่
งถื
อเป็
นวั
นพระพุ
ทธเจ้
าเปิ
ดโลก ซึ่
งโลก
ทั้
งสามจะมองเห็
นความเป็
นอยู่
ซึ่
งกั
นและกั
น พุ
ทธานุ
ภาพทำ
�ให้
ชาวบ้
านได้
เห็
นหอผึ้
งที่
ตนเองทำ
�ถวายจึ
งจั
ดต่
อเนื่
อง
กั
นมาทุ
กปี
และด้
วยเหตุ
ที่
วั
ดพระธาตุ
เชิ
งชุ
มในปั
จจุ
บั
นเป็
นสถานที่
ศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
ที่
มี
พระพุ
ทธเจ้
ามาประทั
บรอยพระบาท
ถึ
ง ๔ พระองค์
การทำ
�หอผึ้
งมาถวายเป็
นพุ
ทธบู
ชาจึ
งเป็
นสิ
ริ
มงคลอย่
างยิ่
ง ประกอบกั
บตำ
�นานในสมั
ยพุ
ทธกาล
ที่
พระพุ
ทธเจ้
าเสด็
จฯ มาประทั
บรอยพระบาท ณ บริ
เวณแห่
งนี้
พระยาสุ
วรรณภิ
งคาระได้
สร้
างหอปราสาทประดั
ตกแต่
งอย่
างงดงามขึ้
น เพื่
อให้
เป็
นที่
ประทั
บของพระพุ
ทธเจ้
า จึ
งเป็
นเหตุ
ให้
มี
การสื
บทอดธรรมเนี
ยมปฏิ
บั
ติ
โดยการ
สร้
างหอปราสาทผึ้
งเพื่
อถวายเป็
นพุ
ทธบู
ชาสามารถพบได้
โดยทั่
วไปในภาคอี
สาน
ลายเข่
าพรหม ลายโหง่
นหรื
อลายโหง่
ลายเขี้
ยวหมา และลายตี
นเต่
า ลายนาคย้
อย