Page 137 - dcp3

Basic HTML Version

126
ปราสาทผึ้
เรี
ยบเรี
ยงโดย บุ
ญชั
ย ทองเจริ
ญบั
วงาม
ปราสาทผึ้
ง เป็
นผลงานการสร้
างสรรค์
ของช่
างฝี
มื
อพื้
นบ้
านอี
สาน ในการประดิ
ษฐ์
ปราสาทประดั
บด้
วย
ขี้
ผึ้
งอย่
างวิ
จิ
ตรสวยงามเพื่
อถวายเป็
นพุ
ทธบู
ชาซึ่
งจะปรากฏใน ฮี
ตสิ
บสอง คองสิ
บสี่
ในจารี
ตของคนอี
สาน
ประวั
ติ
ความเป็
นมา
การสร้
างปราสาทผึ้
งถวายเป็
นพุ
ทธบู
ชาเกิ
ดจากแนวคิ
ดตามตำ
�นานเรื่
องลิ
งถวายรวงผึ้
งในครั้
งที่
พระพุ
ทธเจ้
เสด็
จจำ
�พรรษาในป่
ารั
กขิ
ตวั
น ซึ่
งเป็
นดงไม้
สาละใหญ่
มี
ช้
างปาลิ
เลยยะ (ปาลิ
ไลยก์
) เป็
นอุ
ปั
ฏฐาก จั
ดที่
ประทั
ทั้
งหานํ้
าและผลไม้
มาถวายตลอดระยะ ๓ เดื
อน ลิ
งตั
วหนึ่
งจึ
งนำ
�รวงผึ้
งมาถวายพระพุ
ทธเจ้
าด้
วย และเมื่
อเห็
นพระองค์
ทรงเสวยนํ้
าผึ้
ง ทำ
�ให้
ลิ
งดี
ใจกระโดดโลดเต้
นจนกิ่
งไม้
หั
ก ผลั
ดตกลงมาถู
กตอไม้
เสี
ยบตาย ด้
วยอานิ
สงส์
ในการถวายรวงผึ้
ลิ
งจึ
งได้
ไปเกิ
ดเป็
นเทพบุ
ตรบนปราสาทวิ
มานสู
ง ๓๐ โยชน์
ครั้
งถึ
งวั
นปวารณาออกพรรษา (ขึ้
น ๑๕ คํ่
า เดื
อน ๑๑)
พระพุ
ทธองค์
เสด็
จออกจากป่
าเข้
าเมื
องโกสั
มพี
ช้
างปาลิ
ไลยก์
รู้
สึ
กเศร้
าโศกจนหั
วใจแตกสลายล้
มลง และด้
วยอานิ
สงส์
ของการอุ
ปั
ฏฐากพุ
ทธองค์
จึ
งได้
ไปเกิ
ดบนปราสาทสู
ง ๓๐ โยชน์
ในสวรรค์
ชั้
นดาวดึ
งส์
เช่
นกั
ตามตำ
�นานว่
า พระพุ
ทธเจ้
าทรงรำ
�ลึ
กถึ
งคุ
ณความดี
ของช้
างปาลิ
เลยยะ จึ
งนำ
�รั
งผึ้
งมาทำ
�เป็
นดอกไม้
เรี
ยกว่
ดอกผึ้
ง นำ
�มาติ
ดประดั
บ ต้
นผึ้
แนวคิ
ดในการทำ
�หอผึ้
งเป็
นพั
ฒนาการจากการทำ
�ต้
นผึ้
ง ซึ่
งพุ
ทธศาสนิ
กชนชาวอี
สานจั
ดทำ
�ขึ้
นในงานถวายทาน
แก่
ผู้
เสี
ยชี
วิ
ต แต่
เดิ
มจั
ดทำ
�เป็
นต้
นผึ้
ง โดยใช้
ต้
นกล้
วยขนาดเล็
กเสี
ยบไม้
ไผ่
๓ ท่
อน เพื่
อให้
ตั
งได้
แล้
วนำ
�ขี้
ผึ้
งหลอมละลาย
ติ
ดพิ
มพ์
ทำ
�เป็
นดอกดวงตามที่
เห็
นงาม หรื
อทำ
�เป็
นช่
อเสี
ยบไม้
ไผ่
มาประดั
บต้
นกล้
วยให้
สวยงาม เรี
ยกว่
า ต้
นผึ้
ง ต่
อมา
จึ
งมี
การประดิ
ษฐ์
โครงไม้
ไผ่
เป็
นรู
ปปราสาท เรี
ยกว่
า หอผึ้
ง เพื่
อถวายพระภิ
กษุ
สงฆ์
ในงานบุ
ญแจกข้
าว ซึ่
งกำ
�หนด
จั
ดขึ้
นในวั
นขึ้
น ๑๕ คํ่
าหรื
อแรม ๑ คํ่
า เดื
อน ๔ เป็
นงานที่
ทำ
�ขึ้
นคนละหอหรื
อทำ
�ร่
วมกั
นในชุ
มชน จั
ดเป็
นขบวน
หอผึ้
งแห่
นำ
�ไปถวายวั
ดในชุ
มชน ต่
อมาได้
นำ
�โครงไม้
ไผ่
มาทำ
�เป็
นโครงปราสาทให้
สู
งใหญ่
เปรี
ยบเหมื
อนวิ
มานเทพบุ
ตร
นางฟ้
าบนสวรรค์
แต่
ปั
จจุ
บั
นลดขนาดลงเหลื
อ ๒-๒.๕๐ เมตร เพื่
อสะดวกในการแห่
เข้
าวั
ดเป็
นพุ
ทธบู
ชา (นายวิ
เชี
ยร
ปลื้
มชนะ, สั
มภาษณ์
) 
ในงานบุ
ญถวายปราสาทผึ้
งนั้
น นายสั
มพั
นธ์
กากแก้
ว (สั
มภาษณ์
) ได้
เล่
าถึ
งตำ
�นานพุ
ทธประวั
ติ
ถึ
งเหตุ
ที่
พระพุ
ทธเจ้
านำ
�รั
งผึ้
งมาประดิ
ษฐ์
ดอกไม้
อุ
ทิ
ศให้
ช้
างและลิ
ง และกล่
าวถึ
งคำ
�พู
ดที่
ติ
ดปากต่
อๆ กั
นมาว่
า “...ตั้
งแต่
เทวดา นางฟ้
า สั
ตว์
เดรั
จฉาน ยั
กษ์
ต่
างก็
ร่
วมอานิ
สงส์
ในครั้
งนั้
น พระพรหมถวายเข่
า และเต่
าถวายตี
น หมาถวายเขี้
ยว
กาลครั้
งนั้
นจึ
งนิ
ยมและยึ
ดถื
อสื
บทอดต่
อมา ในรู
ปแบบลวดลายต่
างๆ บนผาสาทเผิ่
ง ลวดลายดั
งกล่
าวก็
จะมี
ความหมาย
อั
นสอดคล้
องกั
บตำ
�นานพุ
ทธประวั
ติ
…” องค์
ประกอบในการตกแต่
งปราสาทผึ้
งเป็
นหลั
ก ได้
แก่
ดอกผึ้
ง ผ้
าบั
งสุ
กุ
สมุ
ด ดิ
นสอ เที
ยนไข ไม้
ขี
ดไฟ นกปลา (สานจากยอดตาล) และพวงมะโหด (มะโห่
)