Page 111 - dcp3

Basic HTML Version

100
หลายอยู่
ในภู
มิ
ภาคเอเชี
ยตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
นี้
มี
ต้
นเค้
ามาจากการแสดงหนั
งของอิ
นเดี
ย ซึ่
งแพร่
หลายอยู่
ในอิ
นเดี
ยตั้
งแต่
โบราณ เมื่
อชาวอิ
นเดี
ยเริ่
มติ
ดต่
อค้
าขายกั
บประเทศในเอเชี
ยตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
เมื่
อประมาณพุ
ทธศตวรรษที่
๖-๗ จึ
ได้
นำ
�ศาสนาพราหมณ์
พุ
ทธ และศิ
ลปวิ
ทยาการ ตลอดจนการละเล่
นและการดนตรี
ต่
างๆ เข้
ามาเผยแพร่
ด้
วย แต่
ละ
ประเทศต่
างก็
ปรั
บวั
ฒนธรรมเหล่
านี้
ให้
เหมาะสมกั
บวั
ฒนธรรมเดิ
มในท้
องถิ่
นของตน
การแสดงหนั
งในประเทศไทยนั้
นอาจกล่
าวได้
ว่
าสื
บเนื่
องมายาวนานกว่
า ๕๐๐ ปี
ตั้
งแต่
สมั
ยอยุ
ธยาในเอกสาร
โบราณหลายฉบั
บมี
การกล่
าวถึ
งการแสดงประเภทที่
เรี
ยกว่
าหนั
ง เช่
น ในกฎมณเฑี
ยรบาลสมั
ยพระเจ้
าอู่
ทอง (ครองราชย์
ระหว่
าง พ.ศ.๑๘๙๓ – ๑๙๑๒) กล่
าวว่
าหนั
งเป็
นมหรสพที่
นิ
ยมแพร่
หลายในสมั
ยนั้
ในสมั
ยสมเด็
จพระนารายณ์
มหาราช (ครองราชย์
พ.ศ.๒๑๙๙ – ๒๒๓๑) มี
พระบรมราชโองการให้
กวี
และ
นั
กปราชญ์
ราชสำ
�นั
ก แต่
งบทสำ
�หรั
บแสดงหนั
งเพิ่
มขึ้
นจากเรื่
องที่
ใช้
แสดงมาแต่
ก่
อน พระมหาราชครู
จึ
งได้
แต่
งเรื่
อง
สมุ
ทรโฆษคำ
�ฉั
นท์
ซึ่
งนำ
�เนื้
อเรื่
องมาจากสมุ
ทรโฆษชาดก สำ
�หรั
บเป็
นบทพากย์
หนั
ง แต่
ไม่
ปรากฏว่
าได้
มี
การสร้
างตั
หนั
งสำ
�หรั
บแสดงขึ้
นหรื
อไม่
อย่
างไรก็
ตาม เรื่
องสมุ
ทรโฆษก็
ไม่
ค่
อยเป็
นที่
นิ
ยมนำ
�มาแสดง แต่
ยั
งคงใช้
เรื่
องรามเกี
ยรติ์
เป็
นเรื่
องหลั
กเช่
นเดิ
ม ต่
อมาในสมั
ยพระเจ้
าอยู่
หั
วบรมโกศ (ครองราชย์
พ.ศ.๒๒๗๕ – ๒๓๐๑) พระมหานาค
วั
ดท่
าทราย ได้
แต่
งหนั
งสื
อเรื่
องปุ
ณโณวาทคำ
�ฉั
นท์
ขึ้
น ในเรื่
องมี
การกล่
าวถึ
งการแสดงหนั
งเรื่
องรามเกี
ยรติ์
ในงานสมโภช
พระพุ
ทธบาท อั
นเป็
นประเพณี
ที่
พระมหากษั
ตริ
ย์
แต่
โบราณต้
องเสด็
จไปในการสมโภชเป็
นประจำ
�ทุ
กปี
นอกจากนี้
หลั
กฐานอี
กอย่
างหนึ่
งที่
แสดงว่
ามี
การเล่
นหนั
งมาแล้
วตั้
งแต่
สมั
ยกรุ
งศรี
อยุ
ธยา คื
อบทไหว้
ครู
ก่
อน
การเชิ
ดหนั
ง หรื
อที่
เรี
ยกว่
าบทเบิ
กหน้
าพระ ทวยแรก (ผะอบ โปษะกฤษณะ, ๒๕๓๗ : ๔๗) มี
ตอนหนึ่
งว่
าดั
งนี้
อยุ
ธยาถาวรเปรมปรี
ดิ์
ทุ
กข์
ภั
ยไม่
มี
สนุ
กนิ
แม้
นเมื
องสวรรค์
เครื่
องเล่
นโขนละครหุ่
นประชั
เชิ
ดชู
กลางวั
ด้
วยเครื่
องวิ
จิ
ตรแต่
งกาย
ราตรี
รั
ศมี
เพลิ
งพราย
หนั
งงามลวดลาย
กระหนกกระหนาบภาพหาญ
เป็
นที่
ประชาชื่
นบาน
ทอดทั
ศนาการ
สำ
�ราญสำ
�รวลปรี
ดา
ครั้
งได้
ศุ
ภฤกษ์
เวลา
สนธเยศสุ
ริ
ยา
พิ
ชั
ยฤกษ์
เบิ
กบน
เบิ
กโขลนเบิ
กทวารโดยกล
แต่
งตั้
งกำ
�นล
บายศรี
ทั้
งสองซ้
ายขวา
บั
ดพลี
พลี
กรรมเทวดา
ขออั
ญเชิ
ญมา
รั
บเครื่
องสั
งเวยอภิ
วั
นท์
ฯลฯ