86
เพื่
อให้
การจั
ดการบริ
หารแบ่
งนํ้
าอย่
างเป็
นธรรม จึ
งมี
การจั
ดตั้
ง
“องค์
กรเหมื
องฝาย”
ขึ้
นเพื่
อควบคุ
มดู
แลให้
เป็
นไป
ตามข้
อตกลงอย่
างมี
ประสิ
ทธิ
ภาพและทั่
วถึ
ง รู
ปแบบองค์
กรจะมี
ขนาดและความซั
บซ้
อนแตกต่
างกั
น ตามขนาดจำ
�นวน
สมาชิ
กผู้
ใช้
นํ้
า ขนาดพื้
นที่
นา จำ
�นวนสาขาของลำ
�เหมื
องว่
ามี
มากน้
อยเพี
ยงใด ขนาดเล็
กมากก็
จะมี
“แก่
ฝาย”
คนเดี
ยว
แก่
ฝายเป็
นผู้
นำ
� เป็
นประธานในการควบคุ
มการทำ
�งานขององค์
กรเหมื
องฝาย หากใหญ่
ขึ้
นก็
มี
“แก่
ฝายกั
บล่
ามนํ้
า”
ที่
มี
บทบาทการสื่
อสารกั
บสมาชิ
กผู้
ใช้
นํ้
า บางแห่
งก็
มี
“ผู้
ช่
วยแก่
ฝาย” ในระบบที่
ใหญ่
ขึ้
น ก็
จะมี
“แก่
เหมื
อง”
เป็
นผู้
นำ
�ที่
ดู
แล
จั
ดการลำ
�เหมื
องแต่
ละเส้
น
ในการจั
ดการบริ
หารและแบ่
งนํ้
านั้
นต้
องดำ
�เนิ
นตาม
“ข้
อตกลงเหมื
องฝาย”
ที่
สมาชิ
กทุ
กคนได้
ร่
วมกั
นกำ
�หนดขึ
้
น
เป็
นสั
ญญาประชาคม ที่
ทุ
กคนต้
องปฏิ
บั
ติ
ตาม รวมทั้
งมี
บทลงโทษถ้
าไม่
ปฏิ
บั
ติ
ตาม ข้
อตกลง เหมื
องฝาย ยึ
ดหลั
กความเป็
น
ธรรมในการอยู่
ร่
วมกั
น ใครมี
ที่
นามาก ใช้
นํ้
ามากต้
องทำ
�งานมาก จั
ดหาอุ
ปกรณ์
มาก เช่
น หากมี
ที่
นาไม่
เกิ
น ๑๐ ไร่
ส่
งคน
มาตี
ฝาย ขุ
ดลอกลำ
�เหมื
อง ๑ คน หากมี
ที่
นาเกิ
น ๑๐ ไร่
ต้
องส่
งคนมา ๒ คน การเตรี
ยมอุ
ปกรณ์
มาซ่
อมแซมฝายก็
เช่
นกั
น
เช่
น กำ
�หนดไว้
ให้
นำ
�ไม้
หลั
กมา ๑๐๐ อั
น ต่
อการมี
ที่
นา ๑ ไร่
หากมี
ที่
นา ๑๐ ไร่
ก็
ต้
องเตรี
ยมมา ๑,๐๐๐ อั
น เป็
นต้
น
เมื่
อช่
วยกั
นดู
แลระบบเหมื
องฝายแล้
ว ทุ
กคนไม่
ว่
าจะมี
ที่
นา ๑ ไร่
๑๐ ไร่
หรื
อ ๒๐ ไร่
ก็
จะได้
รั
บการแบ่
งนํ้
าให้
เพี
ยงพอ
ตลอดฤดู
กาลผลิ
ต หากไม่
ปฏิ
บั
ติ
ตามข้
อตกลงจะถู
กปรั
บไหมตามที่
ตกลงกั
น หากไม่
มาทำ
�งานเกิ
น ๓ ครั้
งโดยไม่
มี
เหตุ
จำ
�เป็
น
จะให้
ออกจากสมาชิ
ก ไม่
สามารถใช้
นํ้
าได้
ต่
อไป เป็
นต้
น
ทุ
กๆ ปี
เมื่
อมี
การซ่
อมแซมฝายและขุ
ดลอกลำ
�เหมื
องแล้
วจะมี
“พิ
ธี
กรรมเลี้
ยงผี
ฝาย”
ร่
วมกั
นเป็
นจิ
ตวิ
ญญาณแห่
ง
การเคารพธรรมชาติ
และเป็
นพิ
ธี
กรรมที่
สร้
างความสามั
คคี
ในสมาชิ
กผู้
ใช้
นํ้
าในองค์
กรเหมื
องฝายลู
กเดี
ยวกั
น ทำ
�พิ
ธี
กรรม
เสร็
จก็
กิ
นข้
าวร่
วมกั
น พู
ดคุ
ยปั
ญหาและการแก้
ไขข้
อตกลงและการทำ
�งานร่
วมกั
นให้
สอดคล้
องกั
บสถานการณ์
ปั
จจุ
บั
น
คุ
ณค่
าและบทบาทของมรดกภู
มิ
ปั
ญญาทางวั
ฒนธรรมที่
มี
ต่
อวิ
ถี
ชี
วิ
ต
การเคารพธรรมชาติ
และการอยู
่
ร่
วมกั
บธรรมชาติ
อย่
างยั่
งยื
นเป็
นหลั
กการสำ
�คั
ญของเหมื
องฝาย เป็
นการทดนํ้
าเข้
าสู่
ที่
นา แค่
เพี
ยงพอสำ
�หรั
บการทำ
�นา นํ้
าสามารถไหลล้
นผ่
านฝายไปยั
งฝายลู
กถั
ดๆ ไป และนํ้
าที่
เข้
าสู่
ที่
นาแล้
วหากมี
ส่
วนเกิ
น
ก็
จะมี
การขุ
ดลำ
�เหมื
องให้
นํ้
าไหลกลั
บสู่
ลำ
�นํ้
าเดิ
ม ไม่
ได้
กั
กเก็
บไว้
ใช้
เองทั้
งหมด มี
การดู
แลป่
าต้
นนํ้
า ป่
าใช้
สอยในการซ่
อมแซม
ฝายควบคู่
กั
นไปด้
วย บริ
เวณตั
วฝาย ตลอดลำ
�เหมื
องเป็
นแหล่
งสั
ตว์
นํ้
า พื
ชนํ้
าที่
ชาวบ้
านมาหากิ
นเป็
นอาหาร
เหมื
องฝายทำ
�ให้
ทุ
กคนมี
หลั
กประกั
นว่
าจะมี
นํ้
าใช้
ในการผลิ
ตอย่
างยั่
งยื
น เมื่
อมี
นํ้
าก็
จะเกิ
ดความมั่
นคง ในการดำ
�รง
ชี
วิ
ต มี
ข้
าวกิ
น มี
อาหาร มี
รายได้
ที่
จะดู
แลครอบครั
ว
เหมื
องฝาย เป็
นประชาธิ
ปไตยชุ
มชน เพราะในองค์
กรเหมื
องฝาย มี
การเลื
อกผู้
นำ
�ที่
มี
ความยุ
ติ
ธรรม มี
ความสามารถ
ในการจั
ดการบริ
หารทรั
พยากรนํ้
าได้
อย่
างเป็
นธรรม ทุ
กคนมี
ส่
วนร่
วมในการกำ
�หนดข้
อตกลงเหมื
องฝาย แม้
จะมี
ที่
นาไม่
เท่
า
กั
นแต่
ได้
รั
บการดู
แลอย่
างเท่
าเที
ยมกั
น จึ
งเป็
นพื้
นฐานที่
เข้
มแข็
งของชุ
มชน