Page 88 - dcp2

Basic HTML Version

77
พระบรมราชิ
นี
นาถ
เพื่
อส่
งเสริ
มให้
ราษฎรภาคอี
สานปลู
กหม่
อน เลี้
ยงไหมพั
นธุ์
พื้
นเมื
อง และตั้
งกลุ่
มทอผ้
าไหมขึ้
นเพื่
อผลิ
ผ้
าไหมเป็
นอาชี
พ โดยส่
งเจ้
าหน้
าที่
ไปแนะนำ
�เทคนิ
คต่
างๆ ทำ
�ให้
ผ้
าไหมพื้
นเมื
องของชาวอี
สานมี
การปรั
บปรุ
งลวดลาย
สี
รู
ปแบบและคุ
ณภาพ ตลอดจนปรั
บปรุ
งเครื่
องมื
อทอผ้
า ได้
แก่
ขยายขนาด ของฟื
มที่
ใช้
ทอเพื่
อให้
ได้
ผ้
าหน้
ากว้
างขึ้
เหมาะสมกั
บความต้
องการของตลาดผู้
บริ
โภค และใช้
กี่
กระตุ
กเพื่
อทอผ้
าพื
นได้
เร็
วขึ้
น ขณะเดี
ยวกั
นก็
ทรงส่
งเสริ
มการอนุ
รั
กษ์
ลวดลายดั้
งเดิ
มของชุ
มชนต่
างๆ โดยทรงรั
บซื้
อไว้
ในราคาสู
งเพื่
อจู
งใจ ให้
ชาวบ้
านได้
สื
บทอดมรดกภู
มิ
ปั
ญญาการทอผ้
ของตนไว้
กล่
าวได้
ว่
า ตั้
งแต่
ปี
พ.ศ. ๒๕๑๕ เป็
นต้
นมา ภู
มิ
ปั
ญญาการทอผ้
าไหมพื้
นเมื
องของไทยได้
ถู
กรื้
อฟื้
นขึ้
นมาอี
กครั้
งหนึ่
เมื่
โครงการศิ
ลปาชี
พพิ
เศษทอผ้
าไหม อำ
�เภอนาหว้
า จั
งหวั
ดนครพนม
ได้
เริ่
มต้
นขึ้
นเป็
นแห่
งแรก
ภู
มิ
ปั
ญญาการปลู
กหม่
อน
ต้
นหม่
อนเป็
นพื
ชที่
ปลู
กเก็
บใบมาเป็
นอาหารของตั
วไหม สามารถขึ้
นได้
ในดิ
นที่
ไม่
มี
นํ้
าขั
ง ระบายนํ้
าดี
ดิ
นมี
ความร่
วนซุ
ต้
นหม่
อนจะเจริ
ญเติ
บโตได้
ดี
ในที่
โล่
งแจ้
งมี
แสงแดดตลอดทั้
งวั
น จากการที
เกษตรกรเรี
ยนรู้
การปลู
กหม่
อน พบว่
า การเลื
อก
ที่
ดิ
นเพื่
อปลู
กหม่
อน ไม่
ควรอยู่
ห่
างจากโรงเลี้
ยงไหมเพื่
อความสะดวก และไม่
ควร อยู่
ใกล้
แปลงปลู
กยาสู
บ สวนผั
กสวนผลไม้
ที
ใช้
ยาฆ่
าแมลง หรื
อใกล้
โรงงานอุ
ตสาหกรรม เพราะละอองสารเคมี
อาจปลิ
วไปติ
ดอยู
บนใบหม่
อนซึ
งเป็
นอั
นตรายต่
อหนอนไหม
สมปั
กยก
คื
อ ผ้
ายกที่
สร้
างลวดลายด้
วยการเสริ
มเส้
นพุ่
งพิ
เศษเข้
าไป พระราชทานเป็
นเครื่
องแบบ ส�
ำหรั
บขุ
นนางในราชส�
ำนั
กสยาม
สมปั
กลาย
คื
อ ผ้
าพิ
มพ์
ลายหรื
อเขี
ยนลายที่
ได้
รั
บพระราชทานเป็
นเครื่
องแบบของขุ
นนางในราชส�
ำนั
กสยาม
สมปั
กล่
องจว
คื
อ ผ้
าสมปั
กปู
มลายริ้
ผ้
าปู
ไทย เป็
นวิ
ธี
การทอผ้
าไหมแบบ ๒ ตะกอ จึ
งได้
เนื้
อผ้
าที่
นํ้
าหนั
กสี
เท่
ากั
นทั้
งสองด้
าน
ผ้
กุ
ศราช
คื
อ ผ้
าฝ้
ายทอยกดอกเด่
น เนื้
อหยาบ ทนทาน เกิ
ดจากการน�
ำฝ้
ายมาตี
เกลี
ยวเป็
นเส้
นด้
าย
ต้
นหม่
อน
ภู
มิ
ปั
ญญาการคั
ดเลื
อกสายพั
นธุ์
ไหม
สายพั
นธุ
ไหมไทยพื้
นบ้
านดั้
งเดิ
มมี
๒ สายพั
นธุ์
คื
อ ชนิ
ดที่
รั
งไหมเป็
นสี
นวล(ขาว) และ รั
งไหมเป็
นสี
เหลื
อง มี
ความยาวเพี
ยง
๔๐ - ๔๕ ม.ม. หนั
ก ๒ กรั
ม (รายงานของนายโทยามะถึ
เสนาบดี
กระทรวงเกษตราธิ
การ ๒๔๔๕ อ้
างถึ
งใน หนั
งสื
มั
ดหมี่
มั
ดใจ
,
๒๕๔๗: ๖) เป็
นไหมที่
มี
ความความแข็
งแรง
เลี้
ยงง่
าย ปรั
บตั
วเข้
ากั
บสภาพภู
มิ
อากาศได้
ดี
เส้
นไหม
มี
ความยื
ดหยุ่
นดี
มี
ความเงางาม มี
ปุ่
มปม ย้
อมติ
ดสี
ได้
ดี
การสาวเส้
นใยทำ
�ได้
ง่
าย ไหมสายพั
นธุ์
ไทยพื้
นบ้
าน ได้
แก่
พั
นธุ์
นางเหลื
อง พั
นธุ์
แพงพวย พั
นธุ์
นางตุ่
ย พั
นธุ์
นางสิ่
พั
นธุ์
สำ
�โรง พั
นธุ์
นางน้
อย พั
นธุ์
กากี
และพั
นธุ์
นางลาย