55
ส่
วนการคำ
�นวณตำ
�แหน่
งดาวเคราะห์
อื
่
นๆ ได้
แก่
พุ
ธ ศุ
กร์
อั
งคาร พฤหั
สบดี
เสาร์
และราหู
นั้
น อาณาจั
กรต่
างๆ
ในเอเชี
ยตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
ต่
างก็
ใช้
วิ
ธี
การคำ
�นวณจากคั
มภี
ร์
สู
รยสิ
ทธานต์
ในพุ
ทธศตวรรษที่
๑๑ เช่
นเดี
ยวกั
นทั้
งสิ้
น ยกเว้
น
ระบบโหราศาสตร์
ไทยที่
ได้
ปรั
บใช้
วิ
ธี
การคำ
�นวณจากคั
มภี
ร์
ลฆุ
มนั
ส (ต่
อมาชื่
อคั
มภี
ร์
กร่
อนเป็
น
คั
มภี
ร์
มานั
ตต์
)
ที่
พั
ฒนาขึ้
น
ในราวพุ
ทธศตวรรษที่
๑๕ เพราะมี
ความถู
กต้
องในการคำ
�นวณตำ
�แหน่
งดาวบนฟ้
าในขณะนั
้
นได้
ถู
กต้
องมากกว่
าคั
มภี
ร์
เดิ
ม
ดั
งมี
หลั
กฐานปรากฏในช่
วงอยุ
ธยาตอนปลายนอกจากนี้
ในช่
วงปลายรั
ชสมั
ยพระบาทสมเด็
จพระจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว รั
ชกาลที่
๔
ได้
คิ
ดสู
ตรการคำ
�นวณดาวยู
เรนั
สหรื
อในระบบโหราศาสตร์
ไทย เรี
ยกว่
า ดาวมฤตยู
มาใช้
เพิ่
มเติ
ม ซึ่
งเป็
นดาวเคราะห์
ที่
ค้
นพบใหม่
ในยุ
คนั้
น รวมถึ
งมี
การคำ
�นวณตำ
�แหน่
งดาวเกตุ
ขึ้
นใช้
ซึ่
งเป็
นลั
กษณะเฉพาะของโหราศาสตร์
ไทย ที่
ใช้
ตำ
�แหน่
งดาว ๑๐ ดวงหรื
อทศเคราะห์
แม้
ว่
าในสมั
ยต่
อมาวิ
ทยาการของโลกจะมี
การปรั
บปรุ
งการคำ
�นวณทางดาราศาสตร์
ให้
ถู
กต้
องมากขึ้
นสามารถอธิ
บายปรากฏการณ์
และกำ
�หนดตำ
�แหน่
งดวงดาวได้
ด้
วยกระบวนการทางวิ
ทยาศาสตร์
แต่
ตำ
�แหน่
ง
ดวงดาวซึ่
งคำ
�นวณจากคั
มภี
ร์
สุ
ริ
ยยาตร์
และมานั
ตต์
ยั
งคงใช้
อยู่
ในระบบโหราศาสตร์
ไทยสื
บมาจนถึ
งปั
จจุ
บั
น โดยเน้
นหนั
กไป
ในด้
านการพยากรณ์
และเรื่
องพิ
ธี
กรรมต่
างๆ ที่
เกี่
ยวข้
องกั
บวิ
ถี
ชี
วิ
ต
การบั
นทึ
กตำ
�แหน่
งดวงดาว ณ เวลาที่
กำ
�หนด มั
กอยู่
ในรู
ปแบบของดวงชะตาซึ่
งปรากฏเป็
นหลั
กฐานอยู่
ในศิ
ลาจารึ
ก
และเอกสารต่
างๆ ตั้
งแต่
สมั
ยสุ
โขทั
ยเป็
นต้
นมา เพื่
อใช้
สอบทานกั
บระบบเวลาที่
ปรากฏอยู่
คู่
กั
นนั้
นได้
อย่
างแน่
นอนและ
แม่
นยำ
�มากขึ้
น ส่
วนดวงชะตาของบุ
คคลนั้
นนิ
ยมบั
นทึ
กไว้
ในวั
สดุ
ต่
างๆ กั
น เช่
น ใบลาน ผื
นผ้
า แผ่
นกระดาษ หรื
อแผ่
นโลหะ
เป็
นต้
น เพื่
อให้
รู้
ว่
าบุ
คคลนั้
นถื
อกำ
�เนิ
ดในช่
วงเวลาใด มี
ประโยชน์
สำ
�หรั
บการใช้
สอบทานอายุ
ของบุ
คคล และการหาฤกษ์
ยาม
ในโอกาสสำ
�คั
ญของชี
วิ
ต เช่
น การอุ
ปสมบท การปลู
กบ้
านและการแต่
งงาน เป็
นต้
น ในส่
วนของพระราชพิ
ธี
สำ
�คั
ญ คื
อ
พระราชพิ
ธี
บรมราชาภิ
เษก มี
พิ
ธี
จารึ
กพระสุ
พรรณบั
ฏพระปรมาภิ
ไธยดวงพระบรมราชสมภพ เพื่
อประโยชน์
ในการสอบ
เที
ยบพระชนมพรรษา รวมถึ
งวั
นรั
ชกาลคื
อ จำ
�นวนวั
นที่
นั
บทวี
ขึ้
นตั
้
งแต่
ทรงครองราชย์
หรื
อมี
การจารึ
กดวงฤกษ์
อั
นเป็
น
ช่
วงเวลาสำ
�คั
ญในการเริ
่
มต้
นหรื
อสิ้
นสุ
ดการก่
อสร้
างถาวรวั
ตถุ
ต่
างๆ เพื่
อเป็
นการบั
นทึ
กประวั
ติ
ศาสตร์
อั
นเกี่
ยวเนื่
องกั
บ
สิ่
งต่
างๆ เหล่
านั้
น
๒) โหราศาสตร์
ภาคพยากรณ์
ได้
แก่
การพยากรณ์
ดวงชะตาบุ
คคลสำ
�คั
ญต่
างๆ เช่
น ดวงพระราชสมภพ เป็
นต้
น
การพยากรณ์
ในวั
นครบรอบการตั้
งเสาหลั
กพระนคร การพยากรณ์
เนื่
องในเทศกาลสงกรานต์
-เถลิ
งศก ตลอดจนเรื่
องของ
ฤกษย์
ามประจำ
�ปี
หรื
อกาลโยค ซึ่
งเป็
นเรื่
องที่
รั
บรู้
กั
นได้
โดยทั่
วไปและส่
งผลต่
อวิ
ถี
ชี
วิ
ตของประชาชนในปี
นั้
นๆ เช่
น
การหาฤกษ์
ยามในโอกาสสำ
�คั
ญ รวมถึ
งการพยากรณ์
และการเสี่
ยงทายผ้
านุ่
งและตั้
งเลี้
ยงพระโคในพระราชพิ
ธี
พื
ชมงคลจรด
พระนั
งคั
ลแรกนาขวั
ญ
การพยากรณ์
ดวงชะตาบุ
คคลทั่
วไปนั้
น โหราศาสตร์
ไทยเน้
นการพยากรณ์
ในระดั
บที่
มี
การเฉพาะเจาะจงไปใน
แต่
ละบุ
คคล คื
อ ต้
องทราบเวลากำ
�เนิ
ดของบุ
คคลนั้
น เพื่
อการคำ
�นวณตำ
�แหน่
งดวงดาวและลั
คนาในดวงชะตา แม้
ว่
าจะมี
รายละเอี
ยดไม่
เพี
ยงพอ เช่
น ทราบเพี
ยงวั
น เดื
อน หรื
อปี
ก็
มี
การปรั
บใช้
ระบบเลขแทนวั
น เดื
อน ปี
มาใช้
ในการทำ
�นายหรื
อ
พยากรณ์
จาก
ตำ
�ราพรหมชาติ
เป็
นการทดแทน
๓) โหราศาสตร์
ภาคพิ
ธี
กรรม
คติ
ความเชื่
อเรื่
องเทพยดานพเคราะห์
โชคลาง และโหราศาสตร์
ถู
กหลอมรวมเป็
น
วั
ฒนธรรมที่
มองดวงดาวว่
าเป็
นสิ่
งที่
สามารถบั
นดาลโชคดี
โชคร้
าย การโคจรหมุ
นเวี
ยนไปในแต่
ละราศี
ย่
อมส่
งผลให้
บุ
คคล