ศิ
ลปะการแสดง สื่
อแห่
งจิ
ตวิ
ญญาณ
|
67
บทเพลงที่
มั
กน�
ำมาใช้
บรรเลงกั
บพิ
ณเปี
๊
ยะมั
กเน้
นเพลงท่
วงท�
ำนองอ่
อนหวาน เนิ
บช้
า เพื่
อสื่
ออารมณ์
ที่
ศิ
ลปิ
น
ต้
องการแสดงออกได้
มากกว่
า เป็
นบทเพลงของทางล้
านนาที่
ยั
งคงสื
บทอดมาจนถึ
งปั
จจุ
บั
น เช่
น เพลงปราสาทไหว
เพลงจกไหล เพลงซอพม่
า เพลงมวย เพลงลู
กกุ
ยเวย เพลงฤๅษี
หลงถ�้
ำ เพลงแหย่
งหลวง เพลงละม้
าย เพลงล่
องน่
าน
และเพลงพื้
นบ้
านอื่
นๆ ส่
วนเพลงไทยในแบบแผนของภาคกลางนั้
นก็
สามารถน�
ำมาดี
ดได้
เช่
นกั
น เป็
นต้
นว่
า เพลงเต้
ยโขง
เพลงเขมรไทรโยค เพลงสร้
อยล�
ำปาง
การฝึ
กฝนพิ
ณเปี
๊
ยะให้
สามารถบรรเลงเพลงได้
อย่
างไพเราะและถ่
ายทอดอารมณ์
ความรู
้
สึ
กของผู
้
บรรเลงออก
มาได้
อย่
างชั
ดเจนนั้
นต้
องอาศั
ยความอดทนในการฝึ
กปรื
อเป็
นเวลานาน หากแต่
ความงดงามของบทเพลงก็
ถื
อเป็
น
รางวั
ลอั
นคุ
้
มค่
าต่
อความมุ
่
งมั่
นที่
ได้
ฝึ
กฝน เอกลั
กษณ์
และความไพเราะของเสี
ยงพิ
ณเปี
๊
ยะนั้
นเปี
่
ยมไปด้
วยคุ
ณค่
า
ทางวั
ฒนธรรมและภู
มิ
ปั
ญญาของชาวล้
านนาที่
สะท้
อนผ่
านบทเพลงจากเปี
๊
ยะที่
น�
ำไปใช้
ในโอกาสต่
างๆ เช่
น ใช้
ประกอบ
พิ
ธี
กรรมทางศาสนา เพื่
อความบั
นเทิ
ง เพื่
อใช้
แสดงถึ
งฐานะและสถานภาพในสั
งคม และใช้
เป็
นเครื่
องมื
อในการหา
คู่
ครอง