Page 186 - Thai Culture

184 | วั ฒนธรรม วิถีชีวิ ตและภูมิปัญญา
แม้การฝึกมวยจะมีจุดประสงค์หลักเพื่อใช้เป็นอาวุธในการป้องกันตัว แต่การที่มวยเป็นศาสตร์
ซึ่งสามารถเอาชีวิ ตคู่ต่ อสู้ได้ ไม่ว่ าจะในอดีตที่ใช้รักษาชีวิตของตนและประเทศชาติ หรือในปัจจุบันที่
เป็นการแข่งขันในเชิงกีฬา พื้นฐานของการฝึกมวยไทยจึงต้องแฝงไว้ด้วยหลั กคุณธรรมและจริยธรรม
ความมีระเบี ยบวินัย ความอดทน ความสามัคคีต่อพวกพ้ อง และความมีน�้ำใจเป็นนั กกีฬา นอกจากนี้
ยังมี พิธี ขึ้นครู ครอบครู และไหว้ครูเพื่อเตื อนสติให้ผู้เรียนมีความประพฤติและจิตใจที่ตั้งอยู่ในศีล
และธรรม และไม่น�ำวิชามวยไปใช้ในทางที่ ผิด
ท่าทางร่ ายร�ำในการไหว้ครูไทย
• การกราบ: นั่งคุกเข่าพนมมือแล้วกราบลงพื้น 3 ครั้ง
• กอบพระแม่ธรณี: กางมื อทั้งสองออกกวาดพระแม่ ธรณี
(กอบพื้ น) ให้สุดมื อ เมื่อมือชิ ดกันให้หงายฝ่ามื อแล้วดึงมือ
ทั้ งสองยกขึ้นสู่อก
• ถวายบังคม: เหยียดมื อทั้งสองออกไปด้านหน้ าให้ตึง
แล้วยกมือขึ้นสูงระดั บหน้าผากพร้อมเงยหน้าขึ้นมองมือ
ทั้ งสอง ลดมือลงสู่หน้าผากให้หลังฝ่ามือแตะที่หน้า
แล้วยกมือทั้งสองขึ้นให้แขนเหยียดตึง แล้ วลดมือลง
• ท่าพรหมสี่หน้านั่ง: ร่ายร�ำท่าสอดสร้อยมาลา (ควงหมั ด
3 รอบ) แล้วพลิกตัวหันหลังกลับไปทิศเบื้องหลัง เบื้องซ้าย
และเบื้ องขวา ด้วยการร� ำท่าสอดสร้อยมาลาเช่นกัน
• ท่าย่างสามขุม: ยืนตรงพนมมือท่าเทพนิมิ ต ยกเข่าซ้ายขึ้น
ให้สูงตั้งฉากกับพื้ นมือซ้ายวางลงบนหน้าขาซ้าย มือขวา
ยกขึ้ นงอแขน ก�ำหมัดยกขึ้นอยู่ระดับแก้มปิดปลายคางแล้ว
วางเท้ าซ้ายลง ก้าวเท้าขวาเฉียงไปทางขวา มือซ้ายงอยก
ขึ้ นระดับแก้มปิดปลายคาง มือขวาวางลงบนหน้าขาซ้าย
สลับมายกเท้าซ้ายก้าวย่างเฉียงไปทางซ้าย ยกมื อสลับ
ซ้ายเป็นขวา ระยะก้าวเท่าๆ กัน
• ท่าพรหมสี่หน้ายืน: ย่างสามขุมไปและร่ายร�ำท่าต่างๆ เช่น
สอดสร้อยมาลา พระรามแผลงศร หงส์ เหิร
“การไหว้ครูมวยไทย
การไหว้ครูเป็ นประเพณีอั นดีงามของ
คนไทย เป็นการระลึกถึงพระคุ ณของ
ครู บาอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิ ชาให้ พระคุณ
ของบิดามารดา พระพุทธคุ ณ พระคุณ
ของเทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
ท่าทางที่ร่ายร�ำต้องฝึกให้ถูกต้องสวยงาม
ก่อนเริ่มการแข่งขันจะต้องไหว้ครู ทุกครั้ง
โดยมีดนตรีบรรเลงประกอบ เครื่องดนตรี
ประกอบด้วยปี่ชวา กลองแขก และฉิ่ ง
ในระหว่างการชกดนตรี ก็ยังบรรเลงอยู่
เพื่อเร้าใจผู้ชกให้ฮึกเหิม การร่ายร�ำและ
การต่อสู้โดยมีดนตรีประกอบ นอกจาก
จะถือว่ามีศิ ลปะแล้ว ยังเป็นประเพณีอัน
ดี งามของคนไทยแต่โบราณ ไม่ควรให้
สูญหายไป”