Page 174 - Thai Culture

Basic HTML Version

172 
|
วั
ฒนธรรม วิ
ถี
ชี
วิ
ตและภู
มิ
ปั
ญญา
กติ
กาการเล่
นตะกร้
อลอดห่
วง หนึ่
งที
มมี
ผู้
เล่
นได้
๖ - ๗ คน ยื
นในสนามที่
เขี
ยนพื้
นเป็
นวงกลม
รั
ศมี
๒ เมตร กึ่
งกลางวงแขวนห่
วงโลหะสามเส้
าสู
งจากพื้
นสนาม ๕.๗๐ เมตร ผู
เล่
นในที
มจะเตะตะกร้
ส่
งกั
นไปมา มุ
งให้
ตะกร้
อลอดเข้
าห่
วงด้
วยลี
ลาการเตะอั
นเปี
ยมด้
วยทั
กษะและท่
วงท่
าวิ
จิ
ตรพิ
สดาร ระยะ
เวลาการเล่
นรวม ๔๐ นาที
หรื
อลู
กตกพื้
นครบก�
ำหนด จากนั้
นจึ
งน�
ำคะแนนของทุ
กคน ทุ
กท่
าในที
มมา
รวมกั
น ที
มที่
ท�
ำคะแนนมากที่
สุ
ดเป็
นผู้
ชนะ
การเล่
นตะกร้
อลอดห่
วงเป็
นกี
ฬาที่
ใช้
อวั
ยวะจากศี
รษะจรดปลายเท้
าอย่
างครบเครื่
อง สามารถออก
อาวุ
ธได้
ทั้
งเท้
า แข้
ง เข่
า ไหล่
ศอก ศี
รษะ ทั
งท่
าเตะด้
านหน้
า ด้
านข้
าง ด้
านหลั
ง มี
ทั้
งยื
นเตะ กระโดดเตะ
ไขว้
ขาเตะ และเตะให้
ลอดบ่
วงมื
อไปลอดห่
วงชั
ย โดยใช้
ท่
าต่
างๆ มี
ชื่
อเรี
ยกตามลี
ลาการเตะ เช่
น พระราม
บ่
วงมื
อ (โค้
งหลั
งใส่
บ่
วง) ขึ้
นม้
า (กระโดดไขว้
) พั
บเพี
ยบ มะนาวตั
ด รวมทั้
งสิ้
น ๓๒ ท่
า หรื
อที่
ในวงการ
ตะกร้
อเรี
ยกว่
“ลู
ก”
ลั
กษณะพิ
เศษของตะกร้
อลอดห่
วงที่
แตกต่
างจากกี
ฬาประเภทอื่
นคื
อ นอกจากการประลองฝี
มื
กั
บฝ่
ายตรงข้
ามแล้
ว ยั
งเป็
นกี
ฬาที่
ผู้
เล่
นต้
องแข่
งขั
นกั
บตนเอง โดยอาศั
ยทั
กษะและการฝึ
กฝน ประกอบ
กั
บความแม่
นย�
ำในการเคลื่
อนไหวส่
งลู
กเข้
าห่
วงด้
วยจั
งหวะการเล่
นท่
ายาก นั
บเป็
นกี
ฬาที่
ส่
งเสริ
มให้
ผู
เล่
ได้
พั
ฒนาร่
างกายให้
มี
ความแข็
งแรง ความอ่
อนตั
ว ความแม่
นย�
ำ และความมี
จั
งหวะในการเคลื่
อนไหว
ร่
างกาย รวมถึ
งพั
ฒนาสติ
ปั
ญญาในการฝึ
กคิ
ดเชิ
งวิ
ทยาศาสตร์
เช่
น การค�
ำนวณมุ
มเตะ ค�
ำนวณแรง
เตะ การตั
ดสิ
นใจ ตลอดจนการแก้
ปั
ญหาเฉพาะหน้
าได้
อย่
างดี
เยี่
ยม นอกจากนี้
ตะกร้
อลอดห่
วงยั
เปี
ยมด้
วยคุ
ณค่
าทางภู
มิ
ปั
ญญา ไม่
ว่
าจะเป็
นการน�
ำหวาย พื
ชพื้
นเมื
องของไทยมาสานเป็
นลู
กตะกร้
รวมถึ
งการประดิ
ษฐ์
ห่
วงสามเส้
า และวิ
ธี
การเตะตะกร้
อด้
วยลี
ลาที่
สวยงามโดดเด่
นเป็
นเอกลั
กษณ์
ของ
ไทยไม่
เหมื
อนชาติ
ใดในโลก 
การเล่
นตะกร้
อของไทยมี
วิ
ธี
เล่
น 5 ชนิ
ด ได้
แก่
ตะกร้
อวง 
หรื
อตะกร้
อเตะทน ผู
เล่
นแต่
ละที
มจะล้
อมวงเตะลู
กตะกร้
อโต้
กั
นไปมาเป็
นคู
ๆ ไม่
ให้
ลู
กตะกร้
อตกลงพื้
น นั
บจ�
ำนวนครั้
งที่
แต่
ละคู่
ในที
มเตะได้
ก่
อนลู
กตก เมื่
อเตะครบทุ
กคู่
ในที
มแล้
วน�
จ�
ำนวนครั้
งที่
ท�
ำได้
ของทุ
กคู่
มารวมกั
นเป็
นคะแนนของที
ตะกร้
อพลิ
กแพลง 
เป็
นการเล่
นส่
วนบุ
คคล ผู
เล่
นเตะหรื
อเดาะเลี้
ยงลู
กตะกร้
อด้
วยท่
าพลิ
กแพลง
ต่
างๆ ต่
อเนื่
องกั
นโดยไม่
ให้
ลู
กตะกร้
อตก ซึ่
งผู้
เล่
นต้
องพยายามเดาะลู
กตะกร้
อด้
วยท่
าที่
พลิ
กแพลง
กว่
า ยากกว่
า สวยงามกว่
าและนานกว่
าคู่
แข่
งขั
ตะกร้
อลอดห่
วง 
หรื
อตะกร้
อลอดบ่
วง เล่
นเป็
นที
มโดยการน�
ำห่
วงแขวนห้
อยสู
งจากพื้
นไว้
กลางวง
ให้
ผู
เล่
นเตะลู
กตะกร้
อโต้
กั
นไปมา เมื่
อเตะให้
ลอดห่
วงได้
ก็
จะได้
คะแนนตามความยากง่
ายของท่
ตะกร้
อข้
ามตาข่
าย 
เป็
นการเล่
นโดยแบ่
งผู
เล่
นเป็
น ๒ ที
ม อยู
คนละฝั
งของสนามสี่
เหลี่
ยมคล้
าย
สนามกี
ฬาแบดมิ
นตั
น แข่
งกั
นเตะข้
ามตาข่
ายโต้
กั
นไปมา พยายามไม่
ให้
ฝ่
ายตรงข้
ามรั
บลู
กได้
โดยมี
กฎกติ
กาการเล่
นคล้
ายกี
ฬาแบดมิ
นตั
ตะกร้
อชิ
งธง 
การเล่
นคล้
ายการแข่
งขั
นวิ
งวั
วหรื
อวิ่
งเร็
ว แต่
เป็
นการวิ่
งไปพร้
อมๆ กั
บเดาะเลี้
ยงลู
ตะกร้
อด้
วยส่
วนต่
างๆ ของร่
างกายยกเว้
นมื
อ จากเส้
นเริ่
มไปยั
งเส้
นชั
ย มี
ระยะทางประมาณ ๕๐ เมตร
โดยไม่
ให้
ลู
กตะกร้
อตกลงพื้
ตะกร้
อไทยจั
ดเป็
นในเกมบอล
ที่
เล่
นด้
วยเท้
าแขนงหนึ่
ง ใกล้
เคี
ยง
และคล้
ายคลึ
งกั
บเกมที่
เล่
นกั
ในภู
มิ
ภาคเอเชี
ย เช่
‘เซปั
กรากา’
ในมาเลเซี
ย สิ
งคโปร์
และอิ
นโดนี
เซี
‘ชิ
นลง’
ในเมี
ยนมา
‘สิ
ปา’
ในฟิ
ลิ
ปปิ
นส์
และ
‘กะต้
อ’
ในลาว ลู
กหวายที่
ใช้
เล่
นส่
วนใหญ่
ท�
ำจากหวายตะค้
าและหวาย
กาหลง มี
ลั
กษณะการสานด้
วย
วิ
ธี
เดี
ยวกั
น แตกต่
างกั
นที่
ขนาด
แต่
ส่
วนใหญ่
แล้
วจะมี
เส้
นรอบวงราว
๑๕ - ๑๗ นิ้
ว หนั
ก ๑๕๐ -
๑๘๐ กรั
มและมี
๑๒ รู