62
“คำ
�ร้
อง”ในเพลงร้
องปรบไก่
ใช้
คำ
�พื้
นๆ ไม่
เคร่
งครั
ดสั
มผั
ส สื่
อความเรี
ยบง่
าย ตรงไปตรงมา เนื้
อหาที
่
พรรณนาจึ
ง
ใช้
ถ้
อยคำ
�ที่
ปรากฏอยู่
ในชี
วิ
ตประจำ
�วั
น เช่
น คั
นไถ เคี
ยว หมาก พลู
โอ่
ง ตุ่
ม ชื่
อพั
นธุ์
ไม้
ในท้
องถิ่
น สื่
อความเชื่
อที่
มี
ต่
อ
ความเร้
นลั
บของธรรมชาติ
และจั
กรวาล ผี
สางนางไม้
ผี
ป่
า ผี
บ้
านผี
เรื
อน ศาสนาโดยเฉพาะ พระพุ
ทธศาสนา ความเชื่
อ
เกี่
ยวกั
บศาสนาพราหมณ์
เทพเจ้
า ประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
นที่
เกี่
ยวกั
บชื่
อบ้
านนามเมื
อง ตำ
�นาน ภู
มิ
ศาสตร์
ภู
มิ
ประเทศ
ที่
เป็
นบริ
บทของชุ
มชน ใช้
สั
ญลั
กษณ์
แทนคำ
�ที่
ต้
องการเปรี
ยบเที
ยบ เปรี
ยบเปรย ให้
คิ
ดตาม มี
คำ
�คล้
องจอง สั
มผั
สคำ
�
ลำ
�ดั
บตามจั
งหวะคำ
�บางบทของเนื้
อร้
องมุ่
งขบขั
น เชิ
งเกี้
ยวพาราสี
เนื้
อคำ
�สื่
อ ความหมายสองแง่
สองง่
าม กึ่
งหยาบคาย
และหยาบคาย ใช้
วิ
ธี
ซํ้
าคำ
� ซํ้
าวลี
มี
การใช้
กลอนหั
วเดี
ยว บั
งคั
บบาทละ ๒ วรรค จำ
�นวนคำ
�ในวรรคมี
ตั้
งแต่
๔- ๑๐
คำ
� จำ
�นวนคำ
�ในวรรคมากอาจเพิ่
มสั
มผั
สกลางวรรคอี
กแห่
งหนึ่
งเพื่
อให้
สอดรั
บกั
บจั
งหวะเวลาร้
อง บทหนึ่
งมี
กี่
บาท
ก็
ได้
ไม่
จำ
�กั
ด โดยบั
งคั
บสั
มผั
ส ๒ แห่
ง คื
อ สั
มผั
สระหว่
างวรรคกั
บสั
มผั
สท้
ายบาท สั
มผั
สท้
ายบาทเป็
นเสี
ยงเดี
ยวกั
น
ทุ
กบาทตลอดบท ลั
กษณะอย่
างกลอนอี
กลอนลา กลอนไอ ซึ่
งเป็
นเสี
ยงสุ
ดท้
ายของแต่
คำ
�ร้
อง ระหว่
างการร้
องรั
บ มี
การตบมื
อ ผู้
แสดงแสดงออกด้
วยท่
าทางการร่
ายรำ
�อย่
างง่
ายๆ การทำ
�มื
อทำ
�ไม้
ยกขึ้
น ชี้
กรายวง หรื
อทำ
�ท่
าประกอบ
ตามความหมายของคำ
�ที่
ร้
องออกมา บางแห่
งจั
ดเป็
นวงแล้
วรำ
�เวี
ยน ตั
วอย่
างจากบทร้
องเพลงปรบไก่
บ้
านดอนข่
อย
อำ
�เภอบ้
านลาด จั
งหวั
ดเพชรบุ
รี
ว่
า
“โอ้
แจ่
มจั
นทร์
ขวั
ญเรื
อน
น้
องพี่
ผู้
เพื่
อนไร้
ผิ
วพรรณผุ
ดผ่
อง
งามเหมื
อนหนึ่
งทองอุ
ไร
ทรวดทรงดั
งวงวาด
งามวิ
ลาศวิ
ไล
มี
เสี
ยอยู่
นิ
ด
แต่
ต้
องติ
ดกลองใหญ่
น่
าเสี
ยใจจริ
งเอย.....”
ในด้
านหลั
กฐานที่
มี
การบั
นทึ
ก พบว่
ามี
การเล่
นเพลงปรบไก่
ตั้
งแต่
สมั
ยกรุ
งศรี
อยุ
ธยา มี
กล่
าวถึ
งอยู่
ในหนั
งสื
อ
ประชุ
มหมายรั
บสั่
ง ภาคที่
๑ สมั
ยกรุ
งธนบุ
รี
เป็
นหมายรั
บสั่
งเรื่
องโปรดเกล้
าฯให้
สมเด็
จ พระเจ้
าลู
กยาเธอ เจ้
าฟ้
า
กรมขุ
นอิ
นทรพิ
ทั
กษ์
เมื่
อครั้
งเสด็
จขึ้
นไปรั
บพระแก้
วมรกต ที่
ท่
าเจ้
าสนุ
ก จั
งหวั
ดสระบุ
รี
เมื่
อ พ.ศ. ๒๓๒๒ (จ.ศ. ๑๑๔๑)
ข้
อความกล่
าวถึ
งมหรสพในงานฉลองนั้
นว่
า
“กลางวั
น ละครหลวงวิ
ชิ
ตณรงค์
โรงหนึ่
ง วั
นละ ๓ ตำ
�ลึ
ง ๓ วั
น เงิ
น ๙ ตำ
�ลึ
ง ช่
องระทาวั
นละ ๓ โรงๆ ละ ๑
บาท วั
นละ ๓ บาท ๓ วั
น เงิ
น ๒ ตำ
�ลึ
ง ๑ บาท เพลงเทพทอง นายอ้
น ทองดี
วั
นละ๑ ตำ
�ลึ
ง ๓ วั
น เงิ
น ๓ ตำ
�ลึ
ง
ปรบไก่
นายแก้
ว อำ
�แดงนุ่
ม
วั
นละ ๑ ตำ
�ลึ
ง ๓ วั
น เงิ
น ๓ ตำ
�ลึ
ง ญวนหก วั
นละ ๑ ตำ
�ลึ
ง ๒ บาท….
ปรบไก่
นายแก้
ว
อำ
�แดงสน
๑๗ ตำ
�ลึ
ง ๒ บาท….”
ในสมั
ยกรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร์
ชื่
อเพลงปรบไก่
ก็
ได้
รั
บการกล่
าวถึ
งตามวรรณคดี
ต่
างๆ เช่
น เรื่
องอิ
เหนา ขุ
นช้
าง
ขุ
นแผน อุ
ณรุ
ท สำ
�หรั
บเรื่
องอุ
ณรุ
ทนี้
เป็
นบทละคร พระราชนิ
พนธ์
ในพระบาทสมเด็
จพระพุ
ทธยอดฟ้
าจุ
ฬาโลก
ตอนสมโภชช้
าง หลั
งจากพระอุ
ณรุ
ทเสด็
จกลั
บเมื
อง มี
การกล่
าวถึ
งเพลงปรบไก่
ไว้
ว่
า