Page 49 - dcp7

Basic HTML Version

38
แตรวง
เรี
ยบเรี
ยงโดย อานั
นท์
นาคคง
แตรวง พั
ฒนามาจากวงดนตรี
เครื่
องเป่
า (Wind and Brass Ensemble) เป็
นวงดนตรี
ที่
ใช้
ในยุ
โรปและ
สหรั
ฐอเมริ
กามาแต่
โบราณ ในกิ
จการของกองทั
พ การฝึ
กแถวการเดิ
นสวนสนามในพิ
ธี
เกี
ยรติ
ยศ และการประโคม
ในพิ
ธี
เฉลิ
มฉลองของรั
ฐหรื
อราชสำ
�นั
ก ใช้
เครื่
องดนตรี
ตระกู
ลเครื่
องเป่
าทองเหลื
องและลมไม้
(Brass & Woodwind
musical instruments) ในสมั
ยโบราณเรี
ยกรวมๆ ว่
า บราสแบนด์
(Brass Band) เนื่
องจากบทบาทในการดำ
�เนิ
ทำ
�นองเป็
นของกลุ่
มเครื่
องดนตรี
ทองเหลื
องมากกว่
าและนิ
ยมเล่
นกลางแจ้
ง ให้
เสี
ยงที่
ดั
งเจิ
ดจ้
าชั
ดเจนสามารถเดิ
นเล่
และนั่
งเล่
นเป็
นกลุ่
มได้
วงเครื่
องเป่
า ได้
พั
ฒนาขึ้
นมาเป็
นมิ
ลิ
ทารี
แบนด์
(Military Band) มี
จุ
ดประสงค์
ในการใช้
งาน คื
การเล่
นเพลงเดิ
นเท้
าเข้
าสู่
สนามรบของทหาร หรื
อใช้
ประกอบการสวนสนามของทหารเพื่
อปลุ
กใจในยามสงครามหรื
ประกอบพิ
ธี
ต่
างๆ ของทหารโดยเฉพาะ
สมั
ยกรุ
งศรี
อยุ
ธยาช่
วงแผ่
นดิ
นพระนารายณ์
มหาราช มี
ฝรั่
งนำ
�แตรมาทู
ลเกล้
าฯ ถวายเป็
นเครื
องราชบรรณาการ
ส่
วนในสมั
ยกรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร์
พบในบั
นทึ
กว่
ามี
แตรวิ
ลั
นดาที่
ใช้
ในพระราชพิ
ธี
ของราชสำ
�นั
ก ซึ่
งเชื่
อว่
าเป็
นแตรฝรั่
งที่
ชาวฮอลั
นดานำ
�เข้
ามาเป็
นชาติ
แรกในกรุ
งสยาม ต่
อมาในสมั
ยรั
ชกาลพระจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว ได้
ริ
เริ
มมี
การฝึ
กทหาร
แบบอั
งกฤษที่
วั
งหน้
าของพระบาทสมเด็
จพระปิ่
นเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
วและที่
วั
งหลวง ครู
ผู้
ฝึ
กแถวคื
อร้
อยเอกน็
อกซ์
(Knox)
และร้
อยเอกอิ
มเปย์
(Impey) ชาวอั
งกฤษ ตามลำ
�ดั
บ ทั้
งสองท่
านได้
นำ
�วงดุ
ริ
ยางค์
เครื่
องเป่
าขนาดเล็
ก ที่
เรี
ยกว่
า Brass
Band ของยุ
โรปมาบรรเลงคำ
�นั
บถวายเวลาพระเจ้
าแผ่
นดิ
นเสด็
จออกมหาสมาคม พอถึ
งรั
ชกาลพระบาทสมเด็
จพระ
จุ
ลจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว มี
บั
นทึ
กชั
ดเจนว่
าแตรวงของทหารเรื
อ เรี
ยกว่
า แตรวงทหารมะรี
น สมั
ยนี้
มี
ครู
ฝรั่
งมาสอนและ
ควบคุ
มแตรวงอยู่
๓ ท่
าน คื
อ ครู
เวสเตอร์
เฟล ชาวเยอรมั
น ครู
เฮวู้
ด เซน ชาวฮอลั
นดา และครู
จาคอบ ไฟท์
(Jakob
Feit) ชาวเยอรมั
น จนแตรวงทหารมหาดเล็
กถื
อกำ
�เนิ
ดในสมั
ยรั
ชกาลพระบาทสมเด็
จพระจุ
ลจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
วนี้
เอง
ได้
พระกรุ
ณาโปรดเกล้
าฯ ให้
พระเจ้
าน้
องยาเธอกรมหมื่
นอดิ
ศรอุ
ดมเดชเป็
นผู้
บั
งคั
บการและก่
อตั้
งแตรวงทหารหน้
าขึ้
เป็
นครั้
งแรก ซึ่
งต่
อมาแตรวงทหารนี้
ได้
เจริ
ญรุ่
งเรื
องมาเป็
นกองดุ
ริ
ยางค์
ทหารบกในปั
จจุ
บั
“แตรวง” เชื่
อกั
นว่
ามี
ใช้
กั
นมาก่
อนสมั
ยรั
ชกาลที่
๕ และเป็
นคำ
�ที่
พบในหนั
งสื
อสาสน์
สมเด็
จ ซึ่
งสมเด็
จพระเจ้
บรมวงศ์
เธอ เจ้
าฟ้
ากรมพระยานริ
ศรานุ
วั
ดติ
วงศ์
และสมเด็
จพระบรมวงศ์
เธอ กรมพระยาดำ
�รงราชานุ
ภาพทรงเขี
ยน
จดหมายโต้
ตอบกั
นด้
วย ครั้
นถึ
งสมั
ยพระบาทสมเด็
จพระมงกุ
ฎเกล้
าเจ้
าอยู
หั
ว ได้
ทรงบั
ญญั
ติ
คำ
�ว่
า “ดุ
ริ
ยางค์
” ขึ้
ดั
งนั้
น วงดนตรี
ทั
งหลายจึ
งหั
นมาใช้
คำ
�ว่
า “ดุ
ริ
ยางค์
” แทนคำ
�ว่
า ดนตรี
อาทิ
วงจุ
ลดุ
ริ
ยางค์
วงดุ
ริ
ยางค์
สากล วงดุ
ริ
ยางค์
ไทย
เป็
นต้
น วงดุ
ริ
ยางค์
ใช้
ในความหมายของการนั่
งบรรเลง เช่
น วงดุ
ริ
ยางค์
กรมศิ
ลปากร วงดุ
ริ
ยางค์
ซิ
มโฟนี
กรุ
งเทพ
เป็
นต้
น สำ
�หรั
บวงโยธวาทิ
ตนั้
น (Military Band) เป็
นศั
พท์
บั
ญญั
ติ
ที่
ราชบั
ณฑิ
ตยสถานสร้
างขึ้
นในยุ
คหลั
ง หมายถึ