Page 167 - dcp7

Basic HTML Version

156
หนั
งประโมทั
เรี
ยบเรี
ยงโดย รองศาสตราจารย์
ปิ
ยพั
นธ์
แสนทวี
สุ
ข และชุ
มเดช เดชภิ
มล
หนั
งประโมทั
ย คื
อหนั
งตะลุ
งของภาคอี
สาน โดยการนำ
�หมอลำ
�กั
บหนั
งตะลุ
งมารวมกั
น คำ
�ว่
า “หนั
งประโมทั
ย”
ท้
องที่
บางแห่
งในภาคอี
สานเรี
ยก หนั
งปราโมทั
ย หรื
อ หนั
งปะโมทั
ย ซึ่
งมาจากคำ
�ๆ เดี
ยวกั
นคื
อ “ปราโมทย์
” ซึ่
งหมายถึ
ความบั
นเทิ
งใจ ความปลื้
มใจ ดั
งนั้
นหนั
งประโมทั
ย จึ
งหมายถึ
งหนั
งที่
ให้
ความสนุ
กสนาน
ประโมทั
ยหรื
อปราโมทั
ย เป็
นชื่
อของคณะละครร้
องซึ่
งมี
ประวั
ติ
ความเป็
นมาดั
งนี้
ปลายรั
ชกาลที่
๕ นั้
การละครของไทยได้
พั
ฒนาโรงละครเกิ
ดขึ้
นหลายโรง ทั้
งเจ้
านายเชื
อพระวงศ์
ก็
ให้
การสนั
บสนุ
นโดยมี
ละครของตนเองขึ้
หลายคณะ ฉะนั้
นจึ
งได้
ช่
วยกั
นสนั
บสนุ
นดั
ดแปลงปรั
บปรุ
งขึ้
นตั้
งแต่
สมั
ยรั
ชกาลที่
๕ และนิ
ยมแพร่
หลายสื
บทอดมา
จนถึ
งสมั
ยรั
ชกาลที่
๗ ละครร้
องในช่
วงนี้
แบ่
งออกเป็
น ๒ แบบ ตามลั
กษณะความเป็
นมาคื
อละครร้
องแบบไทยเดิ
มและ
ละครร้
องสลั
บพู
ด ผู้
ให้
กำ
�เนิ
ดละครร้
องสลั
บพู
ด คื
อ สมเด็
จพระเจ้
าบรมวงศ์
เธอ กรมพระนราธิ
ปประพั
นธ์
พงศ์
โดย
ทรงดั
ดแปลงจากละครชาวตะวั
นตก ให้
ผู้
หญิ
งแสดงล้
วนๆ ใช้
ตลกผู้
ชายเป็
นตั
วประกอบดำ
�เนิ
นเรื่
องด้
วยการร้
อง ผู้
เรื่
อง
แบบชี
วิ
ตสามั
ญชน บางครั้
งเรี
ยกละครแบบนี้
ว่
าละครปรี
ดาลั
ย (กรมพระนราธิ
ปประพั
นธ์
พงศ์
) สร้
างโรงละครปรี
ดา
ลั
ยแทนโรงละครนฤมิ
ตรซึ่
งถู
กไฟไหม้
ที่
แพร่
งนรา ถนนบ้
านตะนาว แสดงในวั
นเสาร์
และวั
นอาทิ
ตย์
) กรมพระนราธิ
ประพั
นธ์
พงศ์
ทรงเป็
นผู้
ประพั
นธ์
บทและกำ
�กั
บการแสดงเอง ทรงเรี
ยกละครร้
องของพระองค์
ว่
า คณะละคร “นฤมิ
ตร”
ละครร้
องเรื่
องแรกที่
คณะนฤมิ
ตรนำ
�ออกแสดงคื
อ เรื่
องอาหรั
บราตรี
เป็
นที่
นิ
ยมของประชาชนมากและ
รั
ชกาลที่
๕ แห่
งกรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร์
ได้
พระราชทานเกี
ยรติ
ให้
เป็
นละครหลวง โดยเติ
มคำ
�ว่
าหลวงหน้
าชื
อคณะเป็
“ละครหลวงนฤมิ
ตร” เมื่
อ พ.ศ. ๒๔๕๖ ละครที่
แสดงสื
บต่
อมาจากละครปรี
ดาลั
ยมี
หลายคณะ ได้
แก่
ปราโมทั
ปราโมทย์
เมื
อง ประเทื
องไทย วิ
ไลกรุ
ง ไฉวเวี
ยง เสรี
สำ
�เริ
ง บั
นเทิ
งไทย เป็
นต้
จะเห็
นได้
ว่
าในขณะที่
ละครร้
องกำ
�ลั
งได้
รั
บความนิ
ยมอย่
างแพร่
หลายอยู่
นั้
นเป็
นช่
วงเวลาเดี
ยวกั
บที่
มี
หนั
งประโมทั
ยเกิ
ดขึ้
น ช่
วงที่
คณะละครนฤมิ
ตรได้
เป็
นละครหลวง พ.ศ. ๒๔๕๖ ห่
างจากช่
วงที่
ตั้
งหนั
งตะลุ
งคณะฟ้
บ้
านทุ่
งซึ่
งเป็
นคณะแรกในอุ
บลราชธานี
ใน พ.ศ. ๒๔๖๙ เพี
ยง ๑๓ ปี
ละครร้
องคณะที่
ตั้
งขึ้
นต่
อจากคณะหลวงนฤมิ
ตร
ก็
คื
อคณะปราโมทั
ยและปราโมทย์
เมื
อง จึ
งเห็
นได้
ว่
าร่
วมสมั
ยกั
น จึ
งน่
าจะเป็
นไปได้
ที่
ทางกรุ
งเทพได้
ตั้
งคณะละครร้
อง
ซึ่
งเป็
นของใหม่
กำ
�ลั
งเป็
นที่
นิ
ยมในขณะนั้
นขึ้
นหลายคณะ ต่
างก็
คิ
ดหาชื่
อมาตั้
งคณะละครของตั
วต่
างๆ กั
น ได้
มี
ผู้
ยื
มเอา
ชื่
อละครคณะหนึ่
งในสมั
ยนั้
นมาตั้
งชื่
อเรี
ยกหนั
งตะลุ
งอี
สาน ซึ่
งก็
เป็
นของใหม่
สำ
�หรั
บภาคอี
สานเช่
นกั
น หนั
งประโมทั
แถบจั
งหวั
ดอุ
บลราชธานี
กลุ่
มพระบรมวงศานุ
วงศ์
และข้
าราชการซึ่
งมากำ
�กั
บราชการในยุ
คนั้
น จึ
งนำ
�ชื่
อคณะละครร้
อง
คื
อคณะประโมทั
ยมาตั้
งชื่
อหนั
งตะลุ
งอี
สาน และเมื่
อพิ
จารณาเชิ
งภาษาแล้
วเห็
นได้
ว่
าประโมทั
ยไม่
ใช่
คำ
�ภาษาถิ่
นแต่