Page 139 - dcp7

Basic HTML Version

128
ระบำ
�สี่
บท
เรี
ยบเรี
ยงโดย วั
นทนี
ย์
ม่
วงบุ
ระบำ
�สี
บทเป็
นระบำ
�ที
เก่
าแก่
ชุ
ดหนึ่
ง มี
บทร้
องด้
วยกั
น ๔ บท แต่
ละบทมี
ความแตกต่
างกั
นทั้
งเนื้
อร้
อง ท่
วงทำ
�นอง
และจั
งหวะเพลง ได้
แก่
เพลงพระทอง เพลงเบ้
าหลุ
ด เพลงสระบุ
หร่
ง และเพลงบหลิ่
ม เนื้
อร้
องมี
ลั
กษณะเชิ
เกี้
ยวพาราสี
สั
นนิ
ษฐานว่
าระบำ
�สี่
บทนี้
มี
มาตั้
งแต่
สมั
ยอยุ
ธยา แต่
ไม่
มี
หลั
กฐานใดปรากฏแน่
ชั
ด จะเห็
นได้
จากบทละคร
จั
บระบำ
�พระราชนิ
พนธ์
รั
ชกาลที่
๑ นั้
น จะมี
บทร้
องเพี
ยง ๒ บทเท่
านั้
น ซึ่
งขึ้
นต้
นด้
วยเพลงสระบุ
หร่
งและตามด้
วย
เพลงพระทอง ครั้
นต่
อมาในสมั
ยรั
ชกาลที่
๒ พระองค์
ได้
ทรงพระราชนิ
พนธ์
บทร้
องเพิ่
มขึ้
นอี
ก ๒ บท คื
อ บทร้
องใน
เพลงเบ้
าหลุ
ด และบทร้
องในเพลงบหลิ่
ม อี
กทั้
งทรงกำ
�หนดให้
ร้
องเพลงพระทองเป็
นอั
นดั
บหนึ่
ง แล้
วตามด้
วย
เพลงเบ้
าหลุ
ด เพลงสระบุ
หร่
ง และเพลงบหลิ
มตามลำ
�ดั
บ โดยถื
อเป็
นแบบฉบั
บมาจนถึ
งปั
จจุ
บั
น ระบำ
�สี
บทนี
เป็
นระบำ
�ชุ
ดหนึ
ที่
ถื
อเป็
นแบบอย่
าง และเรี
ยกกั
นว่
า “ระบำ
�ใหญ่
” ซึ่
งผู้
แสดงจะต้
องรำ
�งาม รำ
�ถู
กต้
องตามแบบแผน และใช้
เวลามาก
ในการฝึ
กฝน ดั
งนั้
น คุ
ณครู
ลมุ
ล ยมะคุ
ปต์
ผู้
เชี่
ยวชาญการสอนนาฏศิ
ลป์
ไทย จึ
งได้
นำ
�มาบรรจุ
ไว้
ในหลั
กสู
ตร
การเรี
ยนการสอนของนั
กเรี
ยนวิ
ทยาลั
ยนาฏศิ
ลปในระดั
บชั้
นกลางและชั้
นสู
ง เพราะเป็
นระบำ
�ที่
สำ
�คั
ญเช่
นเดี
ยวกั
บแม่
บท
โดยนั
กเรี
ยนจะต้
องเรี
ยนรู้
และฝึ
กฝนให้
เกิ
ดความเชี่
ยวชำ
�นาญทั้
งท่
ารำ
� กระบวนแถว เนื้
อร้
อง ท่
วงทำ
�นองและจั
งหวะ
เพลง เพื่
อต่
อยอดไปสู่
การแสดงโขน ละคร
ลั
กษณะการแสดง คื
อ แสดงได้
ตั้
งแต่
๒ คนขึ้
นไป ผู้
แสดงมี
ทั้
งฝ่
ายตั
วพระ และฝ่
ายตั
วนาง ใช้
ท่
ารำ
�พื้
นฐานหรื
ท่
าฝึ
กหั
ดเบื้
องต้
น และท่
านาฏยศั
พท์
เป็
นท่
าหลั
ก ผสมผสานกั
บลี
ลาการเคลื่
อนไหวด้
วยการใช้
ท่
าเชื่
อมจากท่
าหนึ่
งไป
อี
กท่
าหนึ่
ง ใช้
วงปี่
พาทย์
ประกอบการแสดง ออกด้
วยเพลงโคมเวี
ยน แล้
วนั
กร้
อง ร้
องเนื้
อเพลงตามท่
วงทำ
�นองจั
งหวะ
ที่
กำ
�หนด จบด้
วยเพลงช้
า-เร็
วระบำ
� แต่
งกายด้
วยเครื่
องแต่
งกายที่
เรี
ยกว่
า ยื
นเครื่
อง ดั
งนี้
“พระ” แต่
งกายยื
นเครื่
องพระ
จะเป็
นเสื้
อแขนสั้
น หรื
อแขนยาว ใส่
เครื่
องประดั
บ สวมชฎา “นาง” แต่
งกายยื
นเครื่
องนาง ใส่
เครื่
องประดั
บ สวมมงกุ
หรื
อรั
ดเกล้
าโดยสมมติ
ให้
ผู้
แสดงเป็
นเทวดา นางฟ้
ามาจั
บมาระบำ
� ชื่
นชมยิ
นดี
ที่
ผู้
ทรงอิ
ทธิ
ฤทธิ์
ได้
ปราบปรามอสู
รพ่
ายแพ้
ดั
งปรากฏระบำ
�สี่
บทนี้
ในการแสดงโขน เรื่
องรามเกี
ยรติ์
ชุ
ด “นารายณ์
ปราบนนทุ
ก” หรื
อชุ
ด “เมขลา–รามสู
ร”
หรื
อตอนที่
พระรามสั
งหารทศกั
ณฐ์
ได้
แล้
ว มี
เนื้
อร้
อง ดั
งนี้