Page 52 - dcp6

Basic HTML Version

41
เกิ
ดปรากฏการณ์
“คราส”
พบในกลุ่
มคนไทพ่
าเก ไทใต้
คง ไทใหญ่
ไทเขิ
น ไทลื้
อ และไทยยวนล้
านนา กลุ่
มเรื่
องที่
อธิ
บายว่
าพี่
น้
องไปเยี่
ยมเยื
อนกั
น พบในกลุ่
มคนไทยอี
สาน และลาว และสุ
ดท้
าย กลุ่
มเรื่
องราหู
อมจั
นทร์
พบมากใน
กลุ่
มคนไทยภาคกลางและไทยภาคใต้
ของประเทศไทย กลุ่
มเรื่
องตำ
�นานสุ
ริ
ยคราสและจั
นทรคราสทั
ง ๔ แบบนี้
สะท้
อน
คติ
ความเชื่
อทางศาสนาของชนชาติ
ไท กล่
าวคื
อ กลุ่
มเรื่
องกบกิ
นเดื
อนกิ
นตะวั
น เป็
นความเชื่
อดั้
งเดิ
มที่
มี
มาแต่
เดิ
มของ
คนไทก่
อนการรั
บนั
บถื
อพุ
ทธศาสนา ส่
วนกลุ่
มเรื่
องพี่
น้
องทะเลาะกั
นและกลุ่
มเรื่
องพี่
น้
องไปเยี่
ยมเยื
อนกั
น เป็
นเรื่
องที่
ได้
รั
บอิ
ทธิ
พลทางพุ
ทธศาสนา กลุ่
มเรื่
องสุ
ดท้
ายคื
อราหู
อมจั
นทร์
เป็
นกลุ่
มเรื่
องที่
ได้
รั
บอิ
ทธิ
พลทางความคิ
ดความเชื่
มาจากศาสนาพราหมณ์
-ฮิ
นดู
อนึ่
ง กลุ่
มเรื่
องแบบต่
างๆ ข้
างต้
นของตำ
�นานสุ
ริ
ยคราสและจั
นทรคราสยั
งสามารถบ่
งบอกความสั
มพั
นธ์
ทาง
วั
ฒนธรรมของกลุ่
มชนชาติ
ไททั้
งที่
อยู่
ในประเทศไทยและนอกประเทศไทยได้
กล่
าวคื
อ คนไทดั้
งเดิ
มที่
กระจายกั
นอยู่
ทาง
ตอนเหนื
อของภู
มิ
ภาคเอเชี
ยตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
รวมทั้
งคนไทยอี
สานและคนไทยล้
านนา ล้
วนมี
ความเชื่
อดั้
งเดิ
มเกี่
ยวกั
การเกิ
ดสุ
ริ
ยคราสและจั
นทรคราสว่
าเกิ
ดจาก
“กบกิ
นเดื
อน/กบกิ
นตะวั
น”
แสดงให้
เห็
นว่
ากลุ่
มคนไทยอี
สานและ
กลุ่
มคนไทยล้
านนา มี
ความสั
มพั
นธ์
ใกล้
ชิ
ดกั
บคนไทที่
อาศั
ยอยู่
นอกประเทศไทยมากกว่
าคนไทยภาคกลางและภาคใต้
ในแง่
ความเชื่
อและพิ
ธี
กรรมเกี่
ยวกั
บสุ
ริ
ยคราสและจั
นทรคราสนั้
น พบว่
าในบริ
บทของสั
งคมวั
ฒนธรรม
ของคนไทย-ไทหลายกลุ่
ม ยั
งหลงเหลื
อพฤติ
กรรมที่
แฝงนั
ยสำ
�คั
ญบางอย่
างเกี่
ยวกั
บการเกิ
ดสุ
ริ
ยคราส และจั
นทรคราส
ไม่
ว่
าจะเป็
นการกระทำ
� พิ
ธี
กรรม ศิ
ลปกรรม ตั
วอย่
างเช่
น การตี
กลอง การตี
เกราะเคาะไม้
พิ
ธี
ส่
งราหู
หรื
องานศิ
ลปะตาม
ศาสนสถานต่
างๆ ซึ่
งยั
งคงมี
สั
ญลั
กษณ์
รู
ปกบและรู
ปราหู
ปะปนอยู่
ด้
วย อั
นสะท้
อนให้
เห็
น การผสมผสานความคิ
ความเชื่
อระหว่
างความเชื่
อดั้
งเดิ
มกั
บพุ
ทธศาสนา ได้
อย่
างน่
าสนใจ
คติ
การเรี
ยกสุ
ริ
ยคราสและจั
นทรคราสว่
“กบกิ
นเดื
อน/กบกิ
นตะวั
น”
ซึ่
งในตำ
�นานกล่
าวว่
า กบเป็
นผู้
มากลื
นกิ
พระอาทิ
ตย์
และพระจั
นทร์
ไปจนทำ
�ให้
เกิ
ดอุ
ปราคานั้
น นั
บว่
าเป็
นระบบความเชื่
อดั้
งเดิ
มของคนไทที่
มี
ระบบคิ
ดเกี่
ยวกั
อำ
�นาจเหนื
อธรรมชาติ
ผ่
านสั
ญลั
กษณ์
รู
ปกบศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
เป็
นหลั
กสำ
�คั
ญ ดั
งจะเห็
นได้
จากการนั
บถื
อบู
ชารู
ปกบว่
าเป็
สิ่
งศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
บ้
าง เป็
นบรรพบุ
รุ
ษของมนุ
ษย์
บ้
าง เป็
นตั
วแทนของความอุ
ดมสมบู
รณ์
บ้
าง รวมทั้
งยั
งเป็
นสั
ตว์
ที่
ใช้
ในเชิ
พิ
ธี
กรรมด้
วย ดั
งจะเห็
นได้
จากในประเพณี
บุ
ญบั้
งไฟของชาวไทยอี
สาน ก็
จะมี
การเทศน์
พญาคั
นคากซึ่
งมี
สั
ตว์
สั
ญลั
กษณ์
ที่
มี
ความคล้
ายคลึ
งกั
บตั
วกบที
โยงใยกั
บเรื่
องความอุ
ดมสมบู
รณ์
แห่
งนํ้
าฟ้
านํ้
าฝน หรื
อภาพเขี
ยนสี
โบราณตามผนั
งถํ้
หลายแห่
งในไทย ก็
จะมี
รู
ปกลุ่
มคนยื
นเต้
นในพิ
ธี
กรรม ทำ
�ท่
าทางกางแขนกางขาคล้
ายกบ รวมทั้
งหน้
ากลองมโหระทึ
ที่
มี
รู
ปกบนั้
นในบางถิ่
นบางที่
ก็
จะเรี
ยกว่
“กลองกบ”
ด้
วยเช่
นกั
ตำ
�นานกบกิ
นเดื
อน ได้
รั
บการขึ้
นทะเบี
ยนเป็
นมรดกภู
มิ
ปั
ญญาทางวั
ฒนธรรมของชาติ
ประจำ
�ปี
พุ
ทธศั
กราช
๒๕๕๖