Page 116 - dcp4

Basic HTML Version

105
พิ
ธี
บายศรี
สู่
ขวั
เรี
ยบเรี
ยงโดย ผู้
ช่
วยศาสตราจารย์
ชื่
น ศรี
สวั
สดิ์
พิ
ธี
บายศรี
สู่
ขวั
ญตามวั
ฒนธรรมอี
สาน หรื
อภาษาท้
องถิ่
นดั้
งเดิ
มอี
สานเรี
ยกว่
าบาศรี
สู
ตรขวั
ญเป็
นประเพณี
ดั้
งเดิ
ที่
เชื่
อว่
าจะเป็
นสิ
ริ
มงคลเกิ
ดความสวั
สดี
กั
บผู้
รั
บขวั
ญหรื
อเจ้
าของขวั
ญ เดิ
มที
เข้
าใจว่
าจะทำ
�กั
นในหมู
ชนชั้
นเจ้
านาย
ผู้
ใหญ่
เพื่
อให้
เกิ
ดสิ
ริ
มงคลเป็
นประเพณี
ของพราหมณ์
เนื่
องจากบรรพบุ
รุ
ษของชาวอี
สานได้
ผ่
านการนั
บถื
อทั้
งธรรมชาติ
ศาสนาพราหมณ์
และศาสนาพุ
ทธมาจึ
งมี
การเลื
อกสรรเอาส่
วนที่
ดี
มาปรั
บใช้
และได้
ยึ
ดถื
อปฏิ
บั
ติ
เป็
นประเพณี
สำ
�คั
อย่
างหนึ่
งของชาวอี
สานสื
บมาตราบเท่
าปั
จจุ
บั
การบายศรี
สู่
ขวั
ญนอกจากภาคอี
สานแล้
วยั
งมี
การปฏิ
บั
ติ
ในภาคอื่
นๆ ของไทยด้
วย นิ
ยมทำ
�กั
นในแทบทุ
กโอกาส
ทั้
งในคราวประสบโชคและประสบเคราะห์
คราวที
ต้
องพลั
ดพรากจากไกล คราวกลั
บมาสู่
ถิ่
นฐานบ้
านเกิ
ด คราวที่
เจ้
านาย
หรื
อพระสงฆ์
ผู้
ใหญ่
มาเยื
อน คราวที่
มี
การเปลี่
ยนแปลงสำ
�คั
ญในชี
วิ
ตเช่
น การบวช การแต่
งงาน การเข้
ารั
บราชการ
ทหาร การได้
งานใหม่
การได้
เลื่
อนขั้
นเลื่
อนตำ
�แหน่
งที่
สู
งขึ้
นตลอดทั้
งคราวเจ็
บไข้
ได้
ป่
วย เป็
นต้
“ขวั
ญ” เป็
นสิ่
งที่
ไม่
มี
ตั
วตนแต่
เชื่
อว่
ามี
อยู่
ประจำ
�ตั
วของคนและสั
ตว์
มาแต่
กำ
�เนิ
ด ถ้
าขวั
ญของผู้
ใดอยู่
กั
บเนื้
กั
บตั
วผู้
นั้
นจะมี
แต่
ความสุ
ขกายสบายใจ แต่
ถ้
าขวั
ญของผู้
ใดหลบลี้
หนี
หายผู
นั้
นจะมี
ลั
กษณะอาการตรงกั
นข้
าม
ขวั
ญจึ
งมี
หน้
าที่
รั
กษาประคั
บประคองชี
วิ
ตและติ
ดตามเจ้
าตั
วไปทุ
กหนทุ
กแห่
งการทำ
�พิ
ธี
สู่
ขวั
ญจึ
งเป็
นการเชิ
ญขวั
ญให้
อยู่
กั
บเนื้
อกั
บตั
วซึ่
งนอกจากจะทำ
�ให้
อยู่
ดี
มี
สุ
ขแล้
วยั
งจะส่
งเสริ
มให้
มี
กำ
�ลั
งใจที่
เข้
มแข็
ง มี
สติ
ไม่
ประมาท ชาวอี
สานนิ
ยม
เรี
ยกสิ่
งที่
เป็
นที่
รั
กและเสริ
มสิ
ริ
มงคลแก่
ตนว่
าขวั
ญ เช่
น ลู
กแก้
ว เมี
ยขวั
ญ ช้
างขวั
ญ ม้
าขวั
ญ เพื่
อนขวั
ญ ของขวั
ญ เป็
นต้
และเรี
ยกผู้
ที่
รู้
วิ
ธี
ทำ
�ขวั
ญว่
าหมอขวั
ญหรื
อหมอพราหมณ์
เรี
ยกวิ
ธี
เรี
ยกขวั
ญให้
มาอยู่
กั
บตั
วว่
าสู่
ขวั
ญ เรี
ยกการสวดหรื
อสู
ตร
ในพิ
ธี
กรรมสู่
ขวั
ญของพราหมณ์
ว่
าสู
ตรขวั
ญ เรี
ยกเครื
องใช้
ในพิ
ธี
สู่
ขวั
ญว่
าบายศรี
ซึ่
งทำ
�ด้
วยใบตองกล้
วยเย็
บเป็
กรวยเรี
ยงกั
นประดั
บด้
วยดอกไม้
สด เช่
น ดอกดาวเรื
องดอกมะลิ
ดอกบานไม่
รู้
โรย ดอกจาปาขาว (ดอกลั่
นทม) จั
ดเป็
ระเบี
ยบอยู่
บนพานหรื
อโตก ปกติ
นิ
ยมจั
ดด้
วยพานทองเหลื
องหมอพราหมณ์
บางท่
านให้
แยกพาขวั
ญสำ
�หรั
บใส่
เครื่
องใช้
ประจำ
�ตั
วของผู้
เข้
าพิ
ธี
สู่
ขวั
ญอั
นได้
แก่
กระจกส่
องหน้
า หวี
เส้
นผมตั
ดจากศี
รษะเล็
กน้
อย เล็
บ ผ้
าขาวและ
เครื่
องประดั
บอื่
นๆต่
างหาก ส่
วนพานบายศรี
จะใส่
ธู
ปเที
ยน ขนมไทย ผลไม้
นิ
ยมเป็
นกล้
วยนํ้
าว้
าและเส้
นด้
ายไว้
สำ
�หรั
ผู
กข้
อมื
อ (ผู
กแขน) โดยมี
การวางไว้
อย่
างเป็
นระเบี
ยบตามช่
องดอกไม้
แต่
โดยทั่
วไปจะใช้
เพี
ยงพานเดี
ยวรวมเรี
ยกว่
พาขวั
ญ หรื
อพานบายศรี
เมื่
อเตรี
ยมทุ
กอย่
างเรี
ยบร้
อยแล้
การสู
ตรหรื
อสวดเชิ
ญขวั
ญจะเริ่
มขึ้
นทุ
กคนจะนั่
งพั
บเพี
ยบล้
อมวงหั
นหน้
าเข้
าสู่
พาขวั
ญ ผู้
ที่
เป็
นเจ้
าของขวั
ญจะ
เอามื
อขวาจั
บพาขวั
ญพ่
อแม่
ญาติ
ผู้
ใหญ่
ที่
เคารพนั
บถื
อจะนั่
งอยู่
ทางด้
านเหนื
อ ผู้
รั
บขวั
ญมิ
ตรสหายหรื
อแขกในงานจะ
นั่
งด้
านใต้
และร่
วมกั
นยกพาขวั
ญขึ้
นตอนเริ่
มพิ
ธี
หมอทำ
�ขวั
ญจะตั้
งจิ
ตอธิ
ษฐานให้
เจ้
าของขวั
ญมี
ความสุ
ขความเจริ
แล้
วสวดเป็
นภาษาบาลี
ซึ่
งมี
ความหมายว่
า ขออั
นเชิ
ญเทวดาผู้
เป็
นใหญ่
มี
ท้
าวสั
กกะ พระอิ
นทร์
พระพรหม และ