Page 104 - dcp4

Basic HTML Version

93
ประเพณี
นั
ดเปิ
ดสนามในงานประเพณี
ทานสลากภั
ตของวั
ดพระธาตุ
ช้
างคํ้
าวรวิ
หาร ตรงกั
บวั
นขึ้
น ๑๕ คํ่
า เดื
อน
๑๒ ประมาณเดื
อนกั
นยายน และให้
มี
การแข่
งเรื
อประเพณี
นั
ดปิ
ดสนามในงานทอดกฐิ
นพระราชทาน ซึ่
งกำ
�หนดใน
วั
นเสาร์
–อาทิ
ตย์
หลั
งออกพรรษาประมาณ ๑–๒ สั
ปดาห์
อยู่
ในช่
วงเดื
อนตุ
ลาคม – พฤศจิ
กายน จึ
งถื
อเป็
นข้
อปฏิ
บั
ติ
จนถึ
งปั
จจุ
บั
การแข่
งเรื
อพญานาคเมื
องน่
านยิ่
งเพิ่
มความสำ
�คั
ญมากขึ้
น เมื่
อนายชั
ยวั
ฒน์
หุ
ตะเจริ
ญ ผู้
ว่
าราชการจั
งหวั
ดน่
าน
ได้
กราบบั
งคมทู
ลขอพระราชทานถ้
วยรางวั
ลประเภทเรื
อใหญ่
จากพระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
วภู
มิ
พลอดุ
ลยเดช เพื่
เป็
นรางวั
ลให้
กั
บเรื
อแข่
งที
ชนะเลิ
ศ ในปี
พ.ศ.๒๕๒๖ เรื
อขุ
นน่
าน บ้
านศรี
บุ
ญเรื
อง อำ
�เภอภู
เพี
ยงได้
รั
บพระราชทานถ้
วยรางวั
เป็
นปี
แรก ต่
อจากนั้
นมาจึ
งมี
การทู
ลขอพระราชทานถ้
วยรางวั
ลจากสมเด็
จพระบรมโอรสาธิ
ราชฯสยามมกุ
ฎราชกุ
มาร
และสมเด็
จพระเทพรั
ตนราชสุ
ดาฯ สยามบรมราชกุ
มารี
และปี
ที่
สร้
างความปิ
ติ
ยิ
นดี
แก่
ชาวน่
านคื
อ ปี
พ.ศ.๒๕๒๗
เมื่
อสมเด็
จพระบรมโอรสาธิ
ราชฯ สยามมกุ
ฎราชกุ
มาร ได้
เสด็
จพระราชดำ
�เนิ
น เป็
นองค์
ประธานในพิ
ธี
ปิ
ดการแข่
งขั
เรื
อประเพณี
จั
งหวั
ดน่
าน และได้
พระราชทานถ้
วยรางวั
ลให้
แก่
เรื
อแข่
งที่
ชนะเลิ
ศในการแข่
งขั
นนั
บแต่
นั้
นมาการแข่
งเรื
เมื
องน่
านก็
ได้
รั
บความสนพระทั
ยจากพระบรมวงศานุ
วงษ์
มาโดยตลอด โดยเฉพาะจากสมเด็
จพระเทพรั
ตนราชสุ
ดาฯ
สยามบรมราชกุ
มารี
ที่
ทรงให้
มี
การจั
ดการพายเรื
อพญานาคนี้
ให้
แก่
พระราชอาคั
นตุ
กะจากต่
างประเทศได้
ร่
วมชื่
นชม
แห่
นางแมว
ประเพณี
แห่
นางแมวเป็
นพิ
ธี
อ้
อนวอนขอฝนของพวกชาวบ้
านที่
มี
มาช้
านาน ซึ่
งเป็
นพิ
ธี
กรรมของชาวไทยชนบท
ทั่
วไป ทั้
งภาคเหนื
อ ภาคกลาง ภาคตะวั
นออก และภาคตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อ จะจั
ดทำ
�ขึ้
นในปี
ที่
ท้
องถิ่
นแห้
งแล้
งผิ
ปกติ
ฝนไม่
ตกต้
องตามฤดู
กาล อั
นจะทำ
�ให้
ชาวบ้
านเดื
อดร้
อน กล่
าวคื
อ ในสั
งคมของไทยเรานั้
นส่
วนใหญ่
แล้
วประชาชน
จะประกอบอาชี
พเกษตรกรรมเป็
นหลั
ก การประกอบอาชี
พทางเกษตรในสมั
ยก่
อน ต้
องพึ่
งพาสภาพดิ
นฟ้
าอากาศ
ซึ่
งเป็
นไปตามธรรมชาติ
ดั
งนั้
น ปั
จจั
ยของความสมบู
รณ์
จึ
งมี
ความเกี่
ยวข้
องกั
บฝนเป็
นหลั
ก ตามความเชื่
อดั้
งเดิ
ม “ฝน”
เป็
นสิ่
งที่
เบื้
องบนประทานลงมา ถ้
าปี
ไหนฝนดี
ข้
าวกล้
าในนาก็
เจริ
ญงอกงาม หากปี
ใดฝนแล้
งหรื
อฝนไม่
ตกต้
องตาม
ฤดู
กาล ข้
าวกล้
าในนาก็
จะเสี
ยหาย ไม่
มี
นํ้
าจะทำ
�นา อาจถึ
งกั
บให้
เกิ
ดภาวะข้
าวยากหมากแพงได้
และชาวนาส่
วนใหญ่
มี
ความเชื่
อว่
าการพึ่
งพิ
งอำ
�นาจที่
เหนื
อธรรมชาติ
ว่
าปี
ใดฝนเกิ
ดแห้
งแล้
ง ฝนไม่
ตกต้
องตามฤดู
กาล ชาวนาทั้
งหลายก็
จะ
ไม่
สามารถทำ
�นาได้
เนื่
องจากไม่
มี
นํ้
า ชาวนาไม่
มี
วิ
ธี
การอื
นใดที่
จะช่
วยได้
จึ
งพึ่
งพาสิ่
งเหนื
อธรรมชาติ
ต่
างๆจึ
งทำ
�ให้
เกิ
พิ
ธี
กรรมที่
เรี
ยกว่
า “การแห่
นางแมว” ซึ่
งเป็
นความเชื่
อว่
าหากกระทำ
�เช่
นนั้
นแล้
วจะช่
วยให้
ฝนตกได้
ภายใน ๓ วั
นหรื
๗ วั
น การแห่
นางแมวจึ
งเป็
นประเพณี
ที่
สื
บทอดกั
นมาตราบจนทุ
กวั
นนี้
อี
กทั้
งพิ
ธี
แห่
นางแมวไม่
ได้
บ่
งบอกถึ
งเพี
ยงความ
เชื่
อของคนประกอบอาชี
พเกษตรกรรมเท่
านั้
นแต่
ยั
งเป็
นการสร้
างความสั
มพั
นธ์
ในหมู่
บ้
านให้
แนบแน่
นยิ่
งขึ้
นได้
โดยกลุ่
มคนที่
มี
อาชี
พเกษตรกรรมได้
กลั
บมารวมตั
วกั
นอี
กครั้
งหนึ่
งทำ
�ให้
เกิ
ดความสร้
างสรรค์
สามั
คคี
สามารถทำ
�ให้
ชุ
มชน
ชาวนามี
ความเป็
นปึ
กแผ่
นมากขึ้
นด้
วย