Page 102 - dcp4

Basic HTML Version

91
แห่
พระเจ้
าฝนแสนห่
พระเจ้
าฝนแสนห่
า หรื
อพระเจ้
าฝนพระเจ้
าแสนแซ่
พระเจ้
าฝนแสนทอง (วั
ดป่
าตึ
ง) เป็
นคำ
�เรี
ยกพระพุ
ทธรู
ของล้
านนา ที่
มาจากปรั
มปราคติ
นิ
ทาน เชื่
อว่
าพระเจ้
าฝนแสนห่
า มาจากพระฤๅษี
ได้
เนรมิ
ตให้
ฝนตกลงมาโปรดมนุ
ษย์
และได้
บั
นทึ
กลงในธรรม และมี
เรื่
องเล่
าถึ
งพระพุ
ทธรู
ปที่
หายไป บางตำ
�นานสะท้
อนว่
าเป็
นของคู่
บ้
านคู่
เมื
องเป็
นของ
เก่
าแก่
ได้
แก่
พญาเม็
งราย เริ่
มสร้
างเมื
องก็
สร้
างพระพุ
ทธรู
ปเก้
าองค์
การหล่
อพระฝนแสนห่
ามี
เกจิ
อาจารย์
หรื
มหาเถระ ผู้
อาวุ
โสเมื
องเหนื
อเรี
ยกว่
า “ครู
บา” จำ
�นวน ๑๐๘ รู
ป เขี
ยนคาถาต่
างๆ ลงในแผ่
นทองหรื
อแท่
งทองทุ
กๆ แผ่
หรื
อแท่
งก่
อนจะหลอมเทลงเบ้
าแม่
พิ
มพ์
เวลาเททองลง พระเกจิ
ทุ
กรู
ปก็
จะสวดพระคาถาของฝนและสวดไปจนกว่
พิ
ธี
เททองนั้
นจะเสร็
จสิ้
การแห่
พระเจ้
าฝนแสนห่
า ทางภาคเหนื
อของประเทศไทย เชื่
อว่
าปฏิ
บั
ติ
มานานกว่
า ๕๐๐ ปี
แล้
ว ปั
จจุ
บั
ในจั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
จะทำ
�พิ
ธี
บู
ชาพระเจ้
าฝนแสนห่
า ๒ ประเพณี
คื
อ แห่
ในวั
นสงกรานต์
และอี
กวาระหนึ่
งเมื่
อถึ
วั
นเดื
อนปี
ที่
จะมี
พิ
ธี
แห่
พระพุ
ทธรู
ปสำ
�คั
ญ หรื
อพิ
ธี
บู
ชาเสาอิ
นทขิ
ล ทางเทศบาลนครเชี
ยงใหม่
จะทำ
�หนั
งสื
อขออนุ
ญาต
อั
ญเชิ
ญพระเจ้
าฝนแสนห่
ามาร่
วมพิ
ธี
ดั
งกล่
าวทุ
กครั้
แห่
มอม
“มอม” เป็
นสั
ตว์
ในป่
าหิ
มพานต์
มี
ลั
กษณะเป็
นสั
ตว์
ผสมระหว่
างสิ
งโตกั
บลิ
ง มอมเป็
นพาหานะของท้
าวปั
ชชุ
นน
เทวบุ
ตรซึ่
งเป็
นเทพแห่
งเมฆและฝน บางความเชื่
อเล่
าว่
ามอมมี
กำ
�ลั
งมหาศาลจึ
งลื
มตั
ว ชอบแสดงอำ
�นาจจึ
งกลั
บสู่
สวรรค์
ไม่
ได้
เทพปั
ชชุ
นนะจึ
งสั่
งให้
เฝ้
าพุ
ทธสถาน เพื่
อจะได้
ฟั
งธรรม จนกว่
าจะละความทะนงตนจึ
งจะได้
กลั
บคื
นไปเป็
นเทพ
พาหนะ ในปั
จจุ
บั
นไม่
มี
ประเพณี
การแห่
มอมเพื่
อขอฝนแล้
ว แต่
เดิ
มเชื่
อว่
าบู
ชาเพื่
อความเป็
นสิ
ริ
มงคลนำ
�ความร่
มเย็
เป็
นสุ
ข ฝนฟ้
าตกต้
องตามฤดู
กาล บ้
านเมื
องมี
ความอุ
ดมสมบู
รณ์
เมื่
อก่
อนชาวล้
านนาจะสร้
างมอมไม้
ทั้
งตั
วเล็
กและตั
ใหญ่
เอาไว้
แห่
เพื่
อขอฝน นอกจากนี้
บางแห่
งชาวบ้
านได้
มาบนบานมอม เพื่
อขอพึ่
งพิ
งเรื่
องต่
างๆเพิ่
มขึ้
นนอกจากเรื่
อง
ความอุ
ดมสมบู
รณ์
ให้
ฝนตกต้
องฤดู
กาล โดยบนบานเรื่
องการทำ
�มาหากิ
นที่
เปลี่
ยนไป และขอเรื่
องตำ
�แหน่
งการงาน
ในปั
จจุ
บั
น มอมไม้
ที่
เอาไว้
แห่
ไม่
ค่
อยมี
ให้
เห็
นแล้
ว ที่
ยั
งเหลื
ออยู่
จะเป็
นมอมปู
นปั้
น หมอบอยู่
แถวบั
นไดโบสถ์
วิ
หาร
ตามวั
ด และผู้
คนก็
ไม่
ค่
อยรู้
จั
การแข่
งเรื
อพญานาคเมื
องน่
าน
เมื
องน่
านเป็
นเมื
องโบราณที่
ปรากฏชื่
อตั้
งแต่
ราว พ.ศ.๑๘๒๐ ในศิ
ลาจารึ
กของพ่
อขุ
นรามคำ
�แหงยุ
คสุ
โขทั
นอกจากนั้
นยั
งมี
อี
กชื่
อว่
า “นาเคนทรนคร” ซึ่
งหมายถึ
ง เมื
องแห่
งพญานาค ที่
แสดงถึ
งความสั
มพั
นธ์
กั
บผู้
ตั้
งเมื
องคื
“ขุ
นนุ่
น” และ “ขุ
นฟอง” ราชบุ
ตรบุ
ญธรรมของพระญาภู
คา ที่
ถื
อกำ
�เนิ
ดมาจากไข่
พญานาค นอกจากนั้
นชื่
อเมื
องตาม
ระบบภู
มิ
ทั
กษา ยั
งตรงกั
บ “นาคนาม”ด้
วยเหตุ
นี้
จึ
งพบรู
ปพญานาคอยู่
ทั่
วไปในศาสนสถาน รวมถึ
งสิ่
งที่
แสดงถึ
งความ
อุ
ดมสมบู
รณ์
และผู
กพั
นกั
บวิ
ถี
ชี
วิ
ตของผู้
คน นั่
นคื
อ “เรื
อ” ในอดี
ตคนเมื
องน่
านใช้
เรื
อเป็
นพาหนะสำ
�คั
ญในการเดิ
นทาง
ถึ
งกั
บมี
การตรากฎหมายที่
ว่
าด้
วยเรื
อเอาไว้
อย่
างละเอี
ยดดั
งปรากฏใน “อาณาจั
กรหลั
กคำ
�” กฎหมายโบราณของเมื
อง