Page 56 - dcp3

Basic HTML Version

45
โอ่
งมั
งกรราชบุ
รี
เรี
ยบเรี
ยงโดย ผู้
ช่
วยศาสตราจารย์
พงศ์
พั
นธ์
อนั
นต์
วรณิ
ชย์
และผ่
องศรี
ชั
ยชนะ
โอ่
งมั
งกร เป็
นผลิ
ตภั
ณฑ์
หั
ตถอุ
ตสาหกรรมเครื่
องปั้
นดิ
นเผาที่
โดดเด่
นของจั
งหวั
ดราชบุ
รี
ที่
มี
ชื่
อเสี
ยง ดิ
นที่
ใช้
ผลิ
เป็
นดิ
นสี
แดงจากแหล่
งดิ
นในจั
งหวั
ดราชบุ
รี
เผาแล้
วให้
ผลิ
ตภั
ณฑ์
ดิ
นเผาคุ
ณภาพดี
คล้
ายดิ
นที่
ใช้
ผลิ
ตเครื่
องปั้
นดิ
นเผา
ในประเทศจี
น โอ่
งมั
งกรจากจั
งหวั
ดราชบุ
รี
จึ
งแข็
งแรงและมี
ความคงทนระยะยาว นอกจากความนิ
ยมในการใช้
งาน
แล้
ว โอ่
งมั
งกรมี
การตกแต่
งที่
แฝงความหมายอั
นเป็
นมงคล ผ่
านลวดลายการตกแต่
งที่
มี
ความหมายดี
ตามความเชื่
คติ
นิ
ยมในวั
ฒนธรรมจี
น ซึ่
งมั
งกรนั้
นเป็
นสั
ตว์
สำ
�คั
ญในเทพนิ
ยายของจี
น เป็
นเทพแห่
งพลั
ง ความดี
และแห่
งชี
วิ
มู
ลเหตุ
ที่
โอ่
งที่
ตกแต่
งด้
วยลายมั
งกรได้
รั
บความนิ
ยมแพร่
หลายทั่
วไปในประเทศไทยนั้
นเป็
นเพราะสอดคล้
องกั
บคติ
ความเชื่
อของคนไทยในเรื่
อง พญานาค ซึ่
งมี
รู
ปร่
างหน้
าตาคล้
ายกั
บมั
งกร นอกจากนี้
ยั
งมี
หนั
งสื
อตำ
�ราพิ
ชั
ยสงคราม
กล่
าวถึ
งมั
งกรในการจั
ดขบวนทั
พข้
ามนํ้
าด้
วย เรี
ยกว่
า มั
งกรพยุ
หะ การเขี
ยนรู
ปมั
งกรคล้
ายพญานาคบนตั
วโอ่
ที่
ออกจำ
�หน่
ายจึ
งได้
รั
บความนิ
ยมจนกลายเป็
น “โอ่
งมั
งกร”ซึ่
งในที่
สุ
ดได้
กลายเป็
นสั
ญลั
กษณ์
สำ
�คั
ญของจั
งหวั
ดราชบุ
รี
ประวั
ติ
ความเป็
นมา
ผู้
บุ
กเบิ
กงานช่
างปั้
นโอ่
งมั
งกร คื
อ นายจื
อเหม็
ง แซ่
อึ้
ง ชาวจี
นโพ้
นทะเลที่
อพยพเข้
ามาในประเทศไทย ในปี
พ.ศ.
๒๔๗๔ ในขณะที่
มี
อายุ
ได้
๒๓ ปี
นายจื
อเหม็
งมี
ประสบการณ์
การทำ
�เครื่
องปั้
นดิ
นเผาตั้
งแต่
เยาว์
วั
ย ถิ่
นฐานที่
อยู่
อาศั
ในวั
ยเด็
กในประเทศจี
นก็
เป็
นหมู่
บ้
านเครื่
องปั้
นดิ
นเผา เริ่
มแรกที่
อพยพเข้
ามาเมื
องไทยนายจื
อเหม็
ง ได้
เข้
ามารั
บจ้
าง
เป็
นช่
างวาดลวดลายเครื่
องปั้
นดิ
นเผาในโรงผลิ
ตเครื่
องปั้
นดิ
นเผาแถบเชิ
งสะพานซั
งฮี้
ฝั่
งธนบุ
รี
ต่
อมาสั
นนิ
ษฐานว่
าได้
โยกย้
ายติ
ดตามกลุ่
มผู้
ประกอบการหั
ตถอุ
ตสาหกรรมชาวจี
นที่
แยกตั
วออกมาทำ
อาชี
พผลิ
ตเครื่
องปั
นดิ
นเผาอยู่
ในบริ
เวณคลองโอ่
งอ่
าง เขตราชเทวี
กรุ
งเทพฯ ซึ่
งต่
อมาเมื่
อมี
การขยายถนนหนทางส่
งผล
ให้
ผู้
ผลิ
ตหั
ตถอุ
ตสาหกรรมเครื่
องปั้
นดิ
นเผาชาวจี
นบริ
เวณนั้
น ต้
องเคลื่
อนย้
ายถิ่
นฐานการผลิ
ตกั
นไป ตามจั
งหวั
ดต่
างๆ
ที่
มี
แหล่
งดิ
นที่
มี
คุ
ณภาพเหมาะต่
อการทำ
�เครื่
องปั้
นดิ
นเผา นายจื
อเหม็
งซึ่
งได้
รั
บการชั
กชวนจากเพื่
อนชาวจี
นที่
ตั้
งรกราก
อยู่
ในจั
งหวั
ดราชบุ
รี
จึ
งย้
ายถิ่
นฐานมาที่
จั
งหวั
ดราชบุ
รี
และได้
ริ
เริ่
มประกอบการหั
ตถอุ
ตสาหกรรมเครื่
องปั้
นดิ
นเผา โดย
ในขั
นแรกผลิ
ตอ่
าง ไห กระปุ
ก และโอ่
งบ้
างเล็
กน้
อย และส่
งต่
อให้
ชาวมอญราชบุ
รี
ใส่
เรื
อไปเร่
ขายตามเส้
นทางแม่
นํ
าต่
างๆ
การทำ
�โอ่
งได้
ริ
เริ่
มอย่
างจริ
งจั
งก่
อนสมั
ยสงครามโลกครั้
งที่
๒ โดยในระยะเริ่
มแรกได้
ทำ
�เป็
นอ่
างเคลื
อบ และ
ไหนํ้
าปลา ต่
อมาได้
มี
การทำ
�โอ่
งเลี
ยนแบบโอ่
งจากเมื
องจี
น เป็
นโอ่
งเคลื
อบนํ้
าขี้
เถ้
าที่
ยั
งไม่
ได้
ตกแต่
งลวดลายใดๆ เรี
ยก
ว่
า โอ่
งเลี่
ยน (เคลื
อบด้
วยนํ้
าเคลื
อบ) ต่
อมามี
พั
ฒนาการการตกแต่
งเป็
นลายดอกไม้
หรื
อลายเครื
อเถาที่
รอบบ่
าของโอ่
ลวดลายบนโอ่
งได้
พั
ฒนาจนมี
หลากหลายลวดลาย แต่
ที
นิ
ยมกั
นมาก คื
อ ลายมั
งกรซึ่
งมี
ความหมายในทางที่
เป็
นมงคล
ตามคติ
ความเชื
อของคนจี
นได้
รั
บความนิ
ยมมากจากตลาด มี
การจำ
�หน่
ายไปทั่
วประเทศ ตั้
งแต่
ช่
วงปี
พ.ศ. ๒๕๓๗
เป็
นต้
นมาจนถึ
งปั
จจุ
บั
น นอกจากนี้
แล้
วโอ่
งมั
งกรที่
ผลิ
ตในจั
งหวั
ดราชบุ
รี
ยั
งเป็
นโอ่
งที่
มี
คุ
ณสมบั
ติ
ในการกั
กเก็
บนํ้
า ได้
ดี
ไม่
รั
วซึ
ม ไม่
มี
สารตกค้
าง สามารถใช้
งานได้
เลยทั
นที
ไม่
ต้
องแช่
นํ้
าไว้
ระยะหนึ่
งก่
อนเหมื
อนโอ่
งปู
นซิ
เมนต์
และมี
อายุ