Page 161 - dcp3

Basic HTML Version

150
ขั
นธ์
ครู
คื
อ เครื่
องมงคลทั้
ง ๕ ที่
ผู้
เป็
นครู
ประสิ
ทธิ
ประสาทพร ในรู
ปแบบของวั
ตถุ
ให้
กั
บศิ
ษย์
เพื่
อเป็
นเครื่
อง
เตื
อนสติ
และเป็
นที่
รำ
�ลึ
กแก่
ศิ
ษย์
ให้
มี
ความขยั
นหมั่
นเพี
ยรศึ
กษาวิ
ชาความรู้
ที่
ครู
มอบให้
ไปศึ
กษาเล่
าเรี
ยน ขั
นธ์
ดั
งกล่
าวประกอบด้
วย ดอกไม้
ขาว ธู
ป เที
ยน ผ้
าขาว และใช้
ใบตองทำ
�กรวยทรงแหลม ๕ กรวย บรรจุ
ดอกไม้
ธู
ป เที
ยน
๕ คู่
ใส่
ลงในกรวยทั้
ง ๕ แล้
วจึ
งนำ
�วางลงบนผ้
าขาวที่
วางรองรั
บอยู
บนพานหรื
อภาชนะ แล้
วจึ
งนำ
�เข้
าไปกราบ
ครู
บาอาจารย์
เพื่
อขอเป็
นศิ
ษย์
เครื่
องบู
ชาของไทยตามภาคต่
างๆ
ขั
นตั้
ง : เครื่
องบู
ชาครู
ล้
านนา
ขั
นตั้
ง คื
อ ของที่
จั
ดไว้
สำ
�หรั
บบู
ชาหรื
อยกครู
ในเวลาจะประกอบพิ
ธี
สิ่
งของที่
จะจั
ดใส่
ในพาน ในขั
นโตก หรื
อใน
ภาชนะอื่
นๆ นั้
นเป็
นของที่
ครู
บาอาจารย์
ท่
านกำ
�หนดให้
บู
ชาครู
นั้
นมี
หลายอย่
าง ส่
วนมากเป็
นของที่
มี
ดาษดื่
นในสมั
ก่
อน ซึ่
งใช้
บริ
โภคใช้
สอยในชี
วิ
ตประจำ
�วั
น เช่
น หมาก พลู
ดอกไม้
เที
ยน ผ้
าขาว ผ้
าแดง ข้
าวเปลื
อก ข้
าวสาร เป็
นต้
ขั
นตั้
งนั้
นไม่
จำ
�กั
ดเฉพาะจะต้
องแต่
งใส่
ไว้
ในขั
นหรื
อพาน ส่
วนใหญ่
จะใส่
ในภาชนะที่
มี
ก้
นลึ
กพอสมควร และ
ไม่
ใหญ่
เกิ
นไป นิ
ยมกั
นมากคื
อถ้
วยสั
งกะสี
หรื
อที่
เรี
ยกกะละมั
ง ขนาดเส้
นผ่
าศู
นย์
กลาง ๑๒ นิ้
วขึ้
นไป แต่
ถ้
าขั
นตั้
งหลวง
หรื
อขั
นตั้
ง ๑๐๘ ก็
ใช้
ขั
นโตกใบใหญ่
เป็
นที่
รองรั
บ การกำ
�หนดสิ่
งของเป็
นขั
นตั้
งแต่
ละอย่
างแต่
ละงานไม่
เหมื
อนกั
ใช้
สิ่
งของไม่
เท่
ากั
น ขั
นตั้
งจะมี
เท่
าใดดู
ที่
สวยดอกไม้
และสวยหมากพลู
เป็
นสำ
�คั
ญ มี
ตั้
งแต่
๔, ๘, ๑๒, ๓๒, ๓๖, ๑๐๘
ซึ่
งเป็
นตั
วเลขที่
มี
ความหมายเกี่
ยวกั
บธาตุ
ทั้
ง ๔ คื
อ ดิ
น นํ้
า ลม ไฟและเกี่
ยวกั
บคุ
ณที่
ศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
มี
คุ
ณมารดา บิ
ดา
คุ
ณพระรั
ตนตรั
ขั
นตั้
งนี้
เป็
นค่
าบู
ชาครู
บางพิ
ธี
ที่
ต้
องทำ
�แก่
ส่
วนรวมหรื
อแก่
ผู้
มี
ยศ บางครั้
งทำ
�พิ
ธี
อั
นสำ
�คั
ญ เจ้
าพิ
ธี
อาจจะเรี
ยก
ค่
าบู
ชาสู
งกว่
าปกติ
เรี
ยกตามภาษาโบราณว่
า “โป่
ขั
นขึ้
น ก้
อบขั
น หรื
อต่
างขั
นขึ้
น” จาก ๔ อาจเป็
น ๘, ๑๒, ๓๒, ๓๖
หรื
ออาจถึ
ง ๑๐๘ และวั
สดุ
อื่
นก็
ต้
องเพิ่
มขึ้
น หรื
ออาจมี
ของบู
ชาพิ
เศษ เช่
น มี
ฉั
ตร มี
ช่
อ (ธงสามเหลี
ยมเล็
ก) มี
เที
ยนเงิ
เที
ยนทอง (เรี
ยก เตี
ยนเงิ
น เตี
ยนคำ
�) แทนเที
ยนเล่
มบาท อาจมี
กล้
วย มี
มะพร้
าว มี
เสื่
อใหม่
หม้
อใหม่
ขึ้
นไป
ตามแต่
จะกำ
�หนดไว้
ในตำ
�รา
คาย : เครื่
องบู
ชาภาคอี
สาน
คาย คำ
�ที่
มี
มากั
บชุ
มชนชาวภาคอี
สานมาช้
านาน คำ
�ว่
า คาย มี
อยู่
ในทุ
กช่
วงของการดำ
�เนิ
นชี
วิ
ตของชาวอี
สาน
จากอดี
ตจนถึ
งปั
จจุ
บั
น แม้
ว่
ากาลเวลาผ่
านไปหลายยุ
คสมั
ย แต่
คายยั
งคงมี
สื
บต่
อกั
นมา เพี
ยงแต่
อาจมี
การเปลี่
ยนแปลง
รายละเอี
ยดบ้
างก็
เพราะกาลเวลาและวั
ฒนธรรมสั
งคมมี
การปรั
บเปลี่
ยน ผสมผสานอารยธรรมต่
างๆ จนคายบางอย่
าง
อาจแปรสภาพไปเลยก็
มี
คำ
�ว่
า “คาย” สั
นนิ
ษฐานว่
ามาจากคำ
�ว่
า “คารวะ” เพราะจากใบลานเรื่
องท้
าวบุ
ษบาปลาแดกปลาสมอ
(จารเมื่
อ พ.ศ. ๒๔๕๕) มี
ข้
อความตอนที่
พระยาสุ
ริ
ยะวงศารบแพ้
พระยาบุ
ษบาแล้
วจึ
งนำ
�เอา ช้
าง ม้
า วั
ว ควาย
แก้
วคำ
� (ทองคำ
�) อย่
างละหนึ่
งร้
อยมาเป็
นของบรรณาการในฐานะที่
เป็
นผู้
แพ้
สงคราม ได้
จารว่
าเป็
นของ “คายรวะสมมา”
ซึ่
งต่
อมาเรี
ยกว่
า ค่
าคาย
คาย หมายถึ
ง เครื่
องบั
ตรพลี
บู
ชาของชาวอี
สานใช้
บู
ชาแถน(เทวดา) ผี
ครู
บาอาจารย์
และผู้
ที่
เคารพบู
ชาเพื่