Page 118 - dcp3

Basic HTML Version

107
โคมล้
านนา
เรี
ยบเรี
ยงโดย เบญจพล สิ
ทธิ
ประณี
โคมล้
านนามี
ประวั
ติ
ความเป็
นมาจากหลั
กฐานภาพโคมบนผื
นผ้
าพระบฏ ตั้
งแต่
สมั
ยพระเจ้
าติ
โลกราช
จากนครเชี
ยงใหม่
๕๐๐ ปี
มาแล้
ว กรมศิ
ลปากรพบผ้
าพระบฏที่
วั
ดดอกเงิ
น จ.เชี
ยงใหม่
เมื่
อปี
พ.ศ.๒๕๐๑ ประมาณอายุ
เก่
าเกิ
นกว่
า ๕๐๐ ปี
จึ
งถื
อว่
าเป็
นงานช่
างฝี
มื
อดั้
งเดิ
มของไทย จากหลั
กฐานอั
นยาวนานซึ่
งมี
รู
ปแบบที่
เป็
นเอกลั
กษณ์
เฉพาะของตนเอง โดยเป็
นโคมโครงไม่
ไผ่
หั
ก ที่
ต้
องใช้
ไม้
ไผ่
ปล้
องยาวที
ขึ้
นเฉพาะในภาคเหนื
อหรื
อในแผ่
นดิ
นล้
านนา
เท่
านั้
น หุ้
มด้
วยกระดาษสาหรื
อฝ้
ายทอมื
อจากล้
านนา ประดั
บลวดลายตั
ดฉลุ
กระดาษด้
วยกรรไกร ซึ่
งแต่
ละลวดลาย
ที่
ประดั
บล้
านมี
ความหมายเป็
นมงคล เพื่
อเป็
นพุ
ทธบู
ชา และบู
ชาบุ
คคลที่
ควรบู
ชา
โคมล้
านนามี
หลายแบบ เช่
น โคมแขวนใช้
จุ
ดเน้
นพุ
ทธบู
ชา หรื
อประดั
บศาสนสถาน โคมลอย จุ
ดแล้
วปล่
อยให้
ลอยขึ้
นไป การนำ
�โคมแต่
ละกลุ่
มช่
าง แต่
ละท้
องถิ่
นจะต่
างกั
นไปตามความรู้
ที่
ได้
รั
บสื
บทอดกั
นมา และมี
รู
ปแบบตาม
ความนิ
ยมของชุ
มชน การทำ
�โคมมี
ขั้
นตอนหลั
ก ดั
งนี้
๑) นำ
�ไม้
ไผ่
ปล้
องยาว (ไม้
เฮี๊
ย) มาผ่
าเป็
นเส้
นเล็
กๆ ๒) นำ
�มา
หั
กเป็
นวง และนำ
�มาสอดไขว้
กั
น ทากาวและผู
กด้
วยตอกหรื
อเชื
อก ๓) ส่
วนประกอบของโครงโคมมี
๓ ส่
วนคื
อ ส่
วน
ตั
วโคม, ฐานโคม, หู
โคม ๔) นำ
�ส่
วนประกอบทั้
ง ๓ ส่
วนมาประกอบกั
น แล้
วนำ
�กระดาษสาหรื
อผ้
ามาหุ้
มโครงโคม
๕) นำ
�กระดาษตะกั่
วมาตั
ดเป็
นเส้
นเล็
กๆ ยาวๆ ทากาวปิ
ดรอยต่
อของผ้
าหรื
อกระดาษ ๖) ตั
ดลวดลายฉลุ
กระดาษด้
วย
กรรไกร ทากาวติ
ดประดั
บบนตั
วโคม ๗) ผู
กเชื
อกด้
านบนนำ
�ประที
ปหรื
อเที
ยนตั้
งไว้
ด้
านใน จุ
ดไฟแขวนบู
ชา
สภาพปั
จจุ
บั
น มี
การส่
งเสริ
มให้
มี
การถ่
ายทอดในหลายหน่
วยงาน โดยจั
ดทำ
�เป็
นหลั
กสู
ตร เช่
น โฮงเฮี
ยนสื
บสาน
ภู
มิ
ปั
ญญาล้
านนา การศึ
กษานอกโรงเรี
ยน สถาบั
นพั
ฒนาฝี
มื
อแรงงาน มหาจุ
ฬาลงการณราชวิ
ทยาลั
ย โรงเรี
ยนต่
างๆ
ในวิ
ชาภู
มิ
ปั
ญญาพื้
นบ้
านเป็
นต้
น นอกจากนี้
ยั
งมี
กลุ่
มผู้
สื
บทอดที่
ยั
งทำ
�กั
นอยู่
ซึ่
งนั
บว่
าเป็
นที่
ตั้
งของแหล่
งผลิ
ตใหญ่
คื
อ หมู่
บ้
านเมื
องสาตร หมู่
บ้
านสั
นทรายดอนจั่
น ด้
านทิ
ศตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
ของเมื
องเชี
ยงใหม่
กลุ่
มผู้
ปฏิ
บั
ติ
ได้
แก่
พ่
อครู
สิ
งห์
แก้
ว มโนเพ็
ชร แม่
ครู
บั
วไหล คณะปั
ญญา พ่
อครู
เสถี
ยร ณ.วงศ์
รั
กษ์
ครู
เบญจพล สิ
ทธิ
ประณี
ครู
จั
กรพั
นธ์
ไชยแปง ครู
พลเทพ บุ
ญหมื
น ครู
นภดล เมื
องมู
ล ครู
อิ
ชย์
แสงคำ
� ครู
บายศรี
แสงคำ
� และครู
เฉลิ
มพล อาทิ
ตย์
สาม
โคมล้
านนา ได้
รั
บการขึ้
นทะเบี
ยนเป็
นมรดกภู
มิ
ปั
ญญาทางวั
ฒนธรรมของชาติ
ประจำ
�ปี
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๕๕