75
นำ
�เสนอโดย สำ
�นั
กงานพั
ฒนาเศรษฐกิ
จจากฐานชี
วภาพ และกรมหม่
อนไหม
เรี
ยบเรี
ยงโดย ศาสตราจารย์
สุ
กั
ญญา สุ
จฉายา
ผ้
าไหม (Thai Silk) เป็
นมรดกทางภู
มิ
ปั
ญญาของชาวสยามที่
สื
บทอดกั
นมาแต่
โบราณ กว่
าจะเป็
นผื
นผ้
าไหมที่
สวยงาม ต้
องผ่
านกระบวนการสั
่
งสมประสบการณ์
อั
นยาวนานของช่
างทอ เริ่
มตั้
งแต่
การปลู
กหม่
อน การเลี้
ยงตั
วไหม
การสาวไหมเพื่
อนำ
�มาทำ
�เป็
นเส้
นไหม การฟอกไหม การย้
อมสี
และการทอเป็
นผื
นผ้
า
ตั
วไหมที่
เลี้
ยงกั
นในประเทศไทยเพื่
อนำ
�มาทำ
�เส้
นใยเป็
นตั
วไหมชนิ
ด
Bombyx mori
จั
ดเป็
นผี
เสื้
ออยู่
ในวงศ์
Bomycideae กิ
นใบหม่
อนเป็
นอาหาร ลอกคราบ ๔ ครั้
งในระยะที่
เป็
นตั
วหนอนดั
กแด้
ฟั
กออกเป็
นตั
วได้
ปี
ละหลายครั้
ง
รั
งไหมมี
ขนาดเล็
กแต่
จะให้
เส้
นไหมที่
มี
ความอ่
อนนุ่
มและเป็
นมั
นเงากว่
าไหมพั
นธุ์
จี
นและพั
นธุ์
ญี่
ปุ่
น
แม้
จะไม่
มี
หลั
กฐานชั
ดเจนว่
าบริ
เวณประเทศไทยมี
การเลี้
ยงไหมและทอผ้
าไหมอย่
างแพร่
หลายมาช้
านาน นอกจาก
เอกสารของจี
น
บั
นทึ
กของจู
ตากวน
(Zhou Da-Guan) ที่
เดิ
นทางเข้
ามาในอาณาจั
กรขอม ในคริ
สตศตวรรษที่
๑๓ ที่
ได้
ตั้
ง
ข้
อสั
งเกตว่
า ชาวกั
มพู
ชาไม่
รู้
จั
กเลี้
ยงไหม รู้
จั
กแต่
วิ
ธี
ทำ
�ผ้
าฝ้
ายโดยใช้
กี่
แบบพื้
นบ้
านง่
ายๆ แต่
เป็
นชาวสยามที่
นำ
�ภู
มิ
ปั
ญญา
นี้
เข้
ามา เขาบั
นทึ
กว่
า
“ชาวพื้
นเมื
อง(ขอม)ไม่
ชอบเลี้
ยงตั
วไหมหรื
อปลู
กต้
นหม่
อน ...เมื่
อเร็
วๆ นี้
ชาวสยามที่
เข้
ามาตั้
งหลั
ก
แหล่
งในประเทศนี้
ได้
ทำ
�การเลี้
ยงตั
วไหมและปลู
กต้
นหม่
อน เมล็
ดต้
นหม่
อนและตั
วไหม ต่
างก็
มาจากประเทศสยามทั้
งสิ้
น
ผ้
าที่
ทำ
�ด้
วยพรรณไม้
ชาวขอมก็
ไม่
รู้
จั
ก แต่
เขามี
ผ้
าที่
เรี
ยกว่
า โลมะ (loma) ชาวไทยใช้
ไหมทอเป็
นผ้
ายกดอกสี
คลํ้
าซึ่
งเขาใช้
นุ่
งห่
ม หญิ
งไทยสามารถเย็
บและปะชุ
นได้
...”
บรรพบุ
รุ
ษของชาวสยามส่
วนหนึ่
งได้
สถาปนาอาณาจั
กรอยุ
ธยาขึ้
นในพุ
ทธศตวรรษที่
๑๙ โดยมี
กรุ
งเทพทวารวดี
ศรี
อยุ
ธยาเป็
นราชธานี
มี
หลั
กฐานจากเอกสารต่
างชาติ
โดยเฉพาะเอกสารจากปากคำ
�ชาวกรุ
งศรี
อยุ
ธยา ที่
ถู
กพม่
าจั
บไป
เมื
องพม่
า ดั
งเช่
นหนั
งสื
อ
คำ
�ให้
การขุ
นหลวงหาวั
ด
ที่
แปลมาจากภาษามอญครั้
งสมั
ยรั
ชกาลที่
๔ ว่
ากรุ
งศรี
อยุ
ธยาก่
อนเสี
ย
กรุ
งครั้
งที่
๒ พ.ศ. ๒๓๑๐ นั้
นเป็
นศู
นย์
กลางการค้
านานาชาติ
มี
สิ
นค้
าที่
นำ
�มาจากต่
างประเทศมากมายโดยเฉพาะจำ
�พวก
สิ่
งทอ มี
ตลาดหลายแห่
ง แบ่
งเป็
นย่
านๆ ย่
านที่
ขายสิ่
งทอ ได้
แก่
“...ถนนย่
านป่
าไหมกั
บป่
าเหล็
ก ต่
อกั
นอยู่
ข้
างละฟากถนน
ซี
กหนึ่
งมี
ร้
านขายไหมครุ
ย ฟั่
นไหมเบญจพรรณ ไหมลาว ไหมเขมร ไหมโคราช...”
(หน้
า ๑๙๑)
ภู
มิ
ปั
ญญาการทำ
�เส้
นไหมไทย