Page 82 - dcp2

Basic HTML Version

71
ภู
มิ
ปั
ญญาในการเลี้
ยงปลากั
ด ภาชนะสำ
�หรั
บใช้
เลี้
ยงปลากั
ดนิ
ยมใช้
ขวดโหล เนื่
องจากปลากั
ด เป็
นปลาที่
มี
นิ
สั
ยชอบ
ต่
อสู้
จึ
งต้
องแยกเลี้
ยงเดี่
ยว เมื่
อได้
พ่
อพั
นธุ์
แม่
พั
นธุ
แล้
วจะนำ
�ใส่
ขวดเที
ยบกั
นไว้
ในที่
สงบ หลั
งจากนั้
นประมาณหนึ่
งเดื
อน
ตั
วเมี
ยจะตั้
งท้
อง เมื่
อไข่
แก่
ดี
แล้
วนำ
�มาเพาะในอ่
างเพาะที่
มี
นํ้
าไม่
มาก แล้
วใส่
พั
นธุ์
ไม้
นํ้
า เช่
น ผั
กบุ้
งเพื่
อเป็
นที่
เกาะของ
หวอด
ซึ่
งเกิ
ดจากตั
วผู้
พ่
นนํ้
าเป็
นฟองเกาะกั
น เพื่
อใช้
เป็
นที่
ฟั
กไข่
เมื่
อไข่
ตั
วเมี
ยร่
วงหมดแล้
วให้
ช้
อนแม่
พั
นธุ์
ออก ปลาตั
วผู้
จะเฝ้
ไข่
อยู่
จนไข่
ตกเป็
นตั
วอ่
อน หลั
งจากนั้
น ๗-๑๐ วั
น จึ
งช้
อนปลาพ่
อพั
นธุ์
ขึ้
น นิ
ยมใช้
ใบตองแห้
ง ใบมะยมสด ใบต้
นโมกสดใส่
ลงไปในบ่
อเพาะ เพื่
อทำ
�ให้
นํ้
ามี
ความเป็
นกรดอ่
อนๆ ซึ่
งจะทำ
�ให้
เกิ
ดสารแทนนิ
นที่
ช่
วยให้
บ่
อเพาะเหมาะที่
จะเป็
นที่
เจริ
เติ
บโตของแบคที
เรี
ย หลั
งจาก ๗ วั
น ใบไม้
เน่
าจะทำ
�ให้
มี
ฝ้
าอ่
อนๆ เกิ
ดขึ้
นบนผิ
วนํ้
า เป็
นสิ่
งมี
ชี
วิ
ตเล็
กๆ ในกลุ่
มพารามี
เซี
ยม
ซึ่
งจะเป็
นอาหารเสริ
มสำ
�หรั
บลู
กปลา นอกจากนั้
นยั
งนิ
ยมใช้
ใบหู
กวาง เพื่
อบำ
�รุ
งสุ
ขภาพและเพิ่
มสี
สั
น รวมทั้
งป้
องกั
นไม่
ให้
ปลาเป็
นโรค หลั
งจากนั้
น ๓ เดื
อนจึ
งแยกลู
กปลาตั
วเมี
ยออกจากลู
กปลาตั
วผู้
จากนั้
นเลี้
ยงต่
อไปอี
ก ๕-๖ เดื
อนจึ
งคั
ปลาขึ้
นใส่
ขวด
ปลาที่
จะเลี้
ยงเพื่
อการแข่
งขั
นหรื
อการกั
ดปลา ต้
องมี
ลั
กษณะดี
คื
อ ลำ
�ตั
วกลม รู
ปร่
างเหมื
อนปลา ช่
อนปลาชะโด
หรื
อปลาหมอ หน้
างอนเชิ
ด ปากกว้
างหนา สั
นคอหนา กระโดงใหญ่
โคนหางใหญ่
ตาดำ
�เล็
ก ไม่
โปน ตะเกี
ยบหรื
อครี
บท้
องสั้
ใหญ่
ละแข็
ง ครี
บและหางไม่
ยาวเกิ
นไปเพื่
อจะได้
กั
ดเร็
วและว่
องไว เกล็
ดหนาและเรี
ยบแน่
น วิ
ธี
ฝึ
กปลาให้
ดุ
จะนำ
�ปลา
อี
กตั
วหนึ่
งใส่
โหลมาตั้
งเที
ยบไว้
๑ นาที
ให้
ปลาที่
เลี้
ยงกั
บปลาที่
เที
ยบพองตั
วใส่
กั
น ทำ
�ท่
ากั
ดกั
น นอกจากนั้
นยั
งต้
องฝึ
กให้
มี
กำ
�ลั
งแรงดี
ไม่
ตกโดยนำ
�ปลาที่
ไม่
สู้
หรื
อปลาซิ
วขนาดพอๆ กั
นเรี
ยกว่
“ลู
กไล่
ใส่
ลงในขวดประมาณ ๓๐ นาที
ให้
ปลา
ที่
เลี้
ยงไล่
กั
ดลู
กไล่
ก็
ให้
ตั
กปลาตั
วผู้
ขึ้
น การฝึ
กเช่
นนี้
จะทำ
�ให้
ปลากั
ดแรงดี
ไม่
ตก นอกจากนี้
ยั
งต้
องฝึ
กให้
ปลาไม่
ตื
นสนาม
โดยการผลั
ดเปลี่
ยนใส่
โหลที่
แคบบ้
าง กว้
างบ้
าง หรื
อนำ
�ไปซ้
อมกั
บปลาลู
กไล่
ในที่
ต่
างๆ
ความนิ
ยมในการเล่
นกั
ดปลาของคนไทยทำ
�ให้
เกิ
ดศั
พท์
ขึ้
นหลายคำ
� หลายสำ
�นวน เช่
น ก่
อหวอด ครํ่
าหวอด ดี
แต่
ใน
หวอด ลู
กหม้
อ ซํ้
าสาม ลู
กไล่
ถอดสี
พอง
ปั
จจุ
บั
นแม้
การกั
ดปลาจะลดน้
อยลง นิ
ยมเลี้
ยงเป็
นปลาสวยงามมากขึ้
น แต่
ภู
มิ
ปั
ญญาในการเลี้
ยง และคั
ดพั
นธุ์
ก็
เป็
มรดกที่
น่
าภาคภู
มิ
ใจของคนไทย มี
การรวมตั
วของผู้
เลี้
ยงปลากั
ดกั
นก่
อตั้
งเป็
นสมาคม ในชื่
อว่
า สมาคมอนุ
รั
กษ์
และพั
ฒนา
ปลากั
ดสยาม [Siamese Fighting Fish Conservation and Development Association] เมื่
อวั
นที่
๑๔ สิ
งหาคม
พ.ศ.๒๕๕๐ นอกจากนั้
นยั
งมี
การจั
ดตั้
“พิ
พิ
ธภั
ณฑ์
ปลากั
ดไทย บ้
านสวนบางกะเจ้
า”
อำ
�เภอพระประแดง จั
งหวั
สมุ
ทรปราการ เพื่
อส่
งเสริ
มด้
านการท่
องเที่
ยวเชิ
งนิ
เวศ ในรู
ปแบบศู
นย์
การเรี
ยนรู้
ที่
มี
ชี
วิ
ต (Life Learning Center)
ปลากั
ดไทย ได้
รั
บการขึ้
นทะเบี
ยนเป็
นมรดกภู
มิ
ปั
ญญาทาง
วั
ฒนธรรมของชาติ
ประจำ
�ปี
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๕๖
ภาพ : แสดงลั
กษณะรู
ปร่
างของปลากั
ด (โดยรศ.ประภาส โฉลกพั
นธ์
รั
ตน์
)
ที่
มา : http://home.kku.ac.th/pracha/Betta.htm