Page 55 - dcp1

Basic HTML Version

46
ด้
วยพาหนะที่
ใช้
ลากพระบาทของภาคใต้
จึ
งมี
สั
ญญลั
กษณ์
เป็
นเรื
อที่
เรี
ยกว่
า “เรื
อพระ” ส่
วนที่
จั
งหวั
ดจั
นทบุ
รี
พื้
นที่
ส่
วนใหญ่
ไม่
ติ
ดกั
บทะเล ประชาชนส่
วนใหญ่
ประกอบอาชี
พเกษตรกรรม ในสมั
ยก่
อนเกวี
ยนเป็
นพาหนะที่
สำ
�คั
ญในการเดิ
นทาง
การขนส่
ง บรรทุ
กคน บรรทุ
กพื
ชผลทางการเกษตร และใช้
ประกอบพิ
ธี
กรรม ที่
สำ
�คั
ญต่
างๆ ของจั
งหวั
ดจั
นทบุ
รี
การชั
กลาก
ผ้
าพระบาทของจั
งหวั
ดจั
นทบุ
รี
จึ
งใช้
เกวี
ยนเป็
นพาหนะ (หยาดพิ
รุ
ณ พวงสุ
วรรณ์
, ๒๕๔๙) ซึ่
งแตกต่
างจากภาคใต้
)
ลั
กษณะเฉพาะที่
แสดงอั
ตลั
กษณ์
๑. ลั
กษณะการเล่
นที่
แข่
งกั
นชั
กเย่
อตั
วเกวี
ยน ซึ่
งเป็
นยานพาหนะสำ
�คั
ญที่
ใช้
ในสมั
ยโบราณไม่
พบเห็
น ในประเทศอื่
จั
ดเป็
นเอกลั
กษณ์
เฉพาะของประเทศไทย ที่
ไม่
เหมื
อนใคร
๒. การบรรทุ
กผ้
าพระบาท ที่
มี
รอยพระบาทจำ
�ลองของพระพุ
ทธเจ้
าไว้
บนเกวี
ยนขณะทำ
�การเล่
น เป็
นกี
ฬาที่
พั
ฒนา
มาจากพิ
ธี
กรรมทางศาสนาพุ
ทธ แฝงด้
วย ความเชื่
อและค่
านิ
ยม ที่
ส่
งเสริ
มการทำ
�ความดี
ตามหลั
ก พุ
ทธศาสนา มี
ความหมาย
และความสำ
�คั
ญยิ่
งต่
อวิ
ถี
ชี
วิ
ตของชาวบ้
านในท้
องถื่
๓. การเล่
นที่
มี
การตี
กลองเร่
งเร้
าให้
จั
งหวะประกอบการเล่
น สร้
างความสนุ
กสนาน คึ
กคั
ก เพิ่
มความมี
ชี
วิ
ตชี
วา
ให้
ผู้
เล่
น ผู้
เชี
ยร์
และผู้
ชม เป็
นลั
กษณะการเล่
นที่
โดดเด่
นเฉพาะท้
องถิ่
วิ
ธี
การเล่
อุ
ปกรณ์
การเล่
น ประกอบด้
วย เกวี
ยน ๑ คั
น ผ้
าพระบาทที่
นำ
�มาจากวั
ดตะปอนน้
อย ๑ ผื
น เชื
อก ๑-๒ เส้
กลอง ไม้
ตี
กลอง ๑-๒ อั
น ที่
นั่
งคนตี
กลอง ๑-๒ ที่
การเตรี
ยมอุ
ปกรณ์
ในการเล่
นชั
กเย่
อเกวี
ยนพระบาท ที
มงานจะนำ
�เชื
อก
ผู
กติ
ดกั
บเกวี
ยนสมั
ยโบราณทั้
งสองด้
าน คื
อ ด้
านหน้
าของเกวี
ยนและด้
านหลั
งของเกวี
ยน บนเกวี
ยนจะผู
กผ้
าพระบาทที่
ห่
เป็
นม้
วน (บางท้
องถิ่
นจะพั
บซ้
อนทั
บกั
นเป็
นตั้
งมี
เชื
อกมั
ดไว้
) จั
ดที่
วางไว้
อย่
างโดดเด่
น ประดั
บดอกไม้
อย่
างงดงาม ต้
องจั
เตรี
ยมกลอง ไม้
ตี
กลอง จั
ดที่
นั่
งคนตี
กลองไว้
บนเกวี
ยน และจั
ดคนตี
กลองไว้
ด้
วย
สถานที่
เล่
น สถานที่
เล่
นต้
องเป็
นพี้
นที่
โล่
งกว้
าง มั
กเล่
นกั
นที่
ลานวั
ด ถนนระหว่
างหมู่
บ้
าน ลานกว้
างระหว่
าง
หมู่
บ้
าน หรื
อในทุ่
งระหว่
างหมู่
บ้
าน ทำ
�เส้
นหรื
อปั
กธงเป็
นเครื่
องหมายไว้
ที่
พื้
นข้
างแนวทางที่
จะทำ
�การชั
กเย่
อไว้
๓ จุ
ด คื
ที่
กึ่
งกลางเกวี
ยน และห่
างจากกี่
งกลางเกวี
ยนไปทางด้
านหน้
า และด้
านหลั
งของเกวี
ยน เป็
นระยะ ๕-๖ เมตรเท่
าๆ กั
น หรื
ตามที่
ตกลงกั
น สมมุ
ติ
เป็
นเขตแดนของแต่
ละฝ่
าย
ผู้
เล่
น ผู้
เล่
นส่
วนใหญ่
เป็
นชาวบ้
านในท้
องถิ่
น แบ่
งออกเป็
นสองฝ่
าย ฝ่
ายหนึ่
งถื
อเชื
อกยื
นเป็
นแถวตอนอยู่
ด้
านหน้
าเกวี
ยน อี
กฝ่
ายหนึ่
งถื
อเชื
อกยื
นเป็
นแถวตอนอยู่
ด้
านหลั
งเกวี
ยน โดยแต่
ละฝ่
ายต้
องยื
นอยู่
หลั
งเขตแดน ของฝ่
ายตน
มั
กจั
ดผู้
เล่
นให้
เหมาะสมกั
น ตามวั
ย ตามเพศ เช่
น รุ่
นเด็
ก รุ
นหนุ่
ม สาว รุ่
นผู้
ใหญ่
รุ่
นสู
งอายุ
บางโอกาสก็
มี
การจั
ดแข่
งคละ
เพศกั
นคื
อฝ่
ายชายแข่
งกั
บฝ่
ายหญิ
งโดยฝ่
ายชายมั
กต่
อจำ
�นวนผู้
เล่
นให้
ฝ่
ายหญิ
งมี
จำ
�นวนมากกว่
วิ
ธี
เล่
น เมื่
อกรรมการให้
สั
ญญาณเริ่
มเล่
น ด้
วยการนั
บ ๑, ๒, ๓ เมื่
อได้
ยิ
นคำ
�ว่
า ๓ ทั้
งสองฝ่
ายจึ
งจะเริ่
มเล่
นได้
หรื
อให้
สั
ญญาณด้
วยการตี
กลอง แต่
ละฝ่
ายก็
ออกแรงดึ
งกั
นเต็
มที่
คนตี
กลองที่
นั่
งบนเกวี
ยนจะตี
กลองเพื่
อสร้
างความ
สนุ
กสนานในการแข่
งขั
น บ้
างก็
ร้
องเพลงประกอบให้
จั
งหวะการดึ
งไปด้
วย ฝ่
ายใดลากเกวี
ยนเข้
ามา ในเส้
นเขตแดนของ
ตนเองได้
ก็
จะถื
อว่
าเป็
นฝ่
ายชนะ การแข่
งขั
นจะต้
องชนะ ๒ ใน ๓ ครั้