344
บู
รพศิ
ลปิ
น พ.ศ. ๒๕๕๘
นายสอน วงฆ้
อง
เกิ
ด
๑๗ กุ
มภาพั
นธ์
พ.ศ. ๒๔๔๕
ที่
จั
งหวั
ดพระนครศรี
อยุ
ธยา
ถึ
งแก่
กรรม
๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๘
ยุ
คสมั
ย
รั
ตนโกสิ
นทร์
(รั
ชกาลที่
๕ - รั
ชกาลที่
๙)
ประวั
ติ
และการทำ
�งาน
นายสอน วงฆ้
อง เป็
นบุ
ตรนายขั
นและนางนิ่
ม พระบาทสมเด็
จ
พระมงกุ
ฎเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว พระราชทานนามสกุ
ลให้
ว่
า
“วงฆ้
อง”
เพราะตี
ฆ้
อง
ดี
นั
ก เรี
ยนดนตรี
กั
บครู
ทอง ฤทธิ
รณ ครู
ปี่
พาทย์
ในละแวกบ้
าน ต่
อมาฝากตั
วเป็
น
ศิ
ษย์
พระยาเสนาะดุ
ริ
ยางค์
(แช่
ม สุ
นทรวาทิ
น) เจ้
ากรมปี่
พาทย์
หลวงในรั
ชกาล
พระบาทสมเด็
จพระจุ
ลจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว ได้
รั
บการถ่
ายทอดความรู้
ต่
างๆ จนมี
ความสามารถเป็
นเลิ
ศ โดยเฉพาะด้
านเครื่
องปี่
พาทย์
ได้
รั
บการยกย่
องในวงการ
ดนตรี
ไทยว่
ามี
ความสามารถเป็
นเลิ
ศในการเดี่
ยวฆ้
องวงใหญ่
การทำ
�งานของนายสอน วงฆ้
อง เริ่
มตั้
งแต่
เจ้
าพระยาธรรมาธิ
กรณาธิ
บดี
เสนาบดี
กระทรวงวั
ง ในรั
ชกาลที่
๖ ขอตั
วมาเป็
นคนฆ้
อง ประจำ
�วงปี่
พาทย์
ที่
บ้
านของท่
าน ครั้
นอายุ
ครบเกณฑ์
จึ
งเข้
ารั
บราชการเป็
นทหารรั
กษาวั
ง เมื่
อ
พ้
นจากราชการทหาร ก็
เข้
ารั
บราชการในกรมปี่
พาทย์
และโขนหลวง เมื่
อวั
นที่
๑ ตุ
ลาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ ต่
อมาในสมั
ย
รั
ชกาลที่
๗ มี
การปรั
บเปลี่
ยนระบบราชการ จึ
งย้
ายมาสั
งกั
ดกรมศิ
ลปากร สอนดนตรี
ในวิ
ทยาลั
ยนาฏศิ
ลป กรุ
งเทพฯ
จนเกษี
ยณอายุ
ราชการและได้
รั
บการจ้
างต่
อให้
เป็
นครู
พิ
เศษในวิ
ทยาลั
ยนาฎศิ
ลป จนถึ
งแก่
กรรม เมื่
อวั
นที่
๑๐ มกราคม
๒๕๑๘ ด้
วยโรคหั
วใจวาย สิ
ริ
อายุ
๗๓ ปี
ผลงานสำ
�คั
ญ
นั
กดนตรี
ไทยมี
ความเชี่
ยวชาญในการบรรเลงปี่
พาทย์
ได้
เกื
อบทุ
กชนิ
ด ยกเว้
นปี่
แต่
ที่
ดี
เป็
นพิ
เศษคื
อ
ฆ้
องวงใหญ่
อี
กทั้
งสามารถบรรเลงเพลงได้
มากรวมทั้
งเพลงเก่
าๆ ด้
วย เป็
นผู้
ตี
ฆ้
องวงประจำ
�วงเจ้
าพระยา
ธรรมาธิ
กรณาธิ
บดี
(หม่
อมราชวงศ์
ปุ้
ม มาลากุ
ล) และเป็
นผู้
ตี
ฆ้
องวงใหญ่
ประชั
นกั
บครู
ช่
อ สุ
นทรวาทิ
น
ที่
วั
งบางขุ
นพรหม เมื่
อ พ.ศ. ๒๔๖๖ แม้
ครู
ช่
อจะได้
รั
บรางวั
ลที
่
๑ แต่
พระยาประสานดุ
ริ
ยศั
พท์
(แปลก ประสานศั
พท์
) เจ้
ากรมปี่
พาทย์
ในรั
ชกาลที่
๖ บรมครู
ดนตรี
กล่
าวว่
า นายสอนไม่
แพ้
ฝี
มื
อ แต่
แพ้
เพราะฆ้
องที่
ตี
สู้
ของครู
ช่
อ ซึ่
งเป็
นฆ้
องที่
เนื้
อดี
เลิ
ศและเสี
ยงเป็
นยอด
แต่
งเพลงเดี่
ยวไว้
จำ
�นวนมาก เดี่
ยวฆ้
องวงใหญ่
เช่
น เพลงนกขมิ้
น เพลงต่
อยรู
ป เพลงดอกไม้
ไทร เพลง
อาเฮี
ย เพลงสุ
ดสงวน เพลงนารายณ์
แปลงรู
ป เพลงฉิ่
งมุ
ล่
ง และเพลงทยอยเดี่
ยว (แต่
งร่
วมกั
บพระยา
เสนาะดุ
ริ
ยางค์
) เดี่
ยวระนาดเอก เช่
น เพลงลาวแพน และเพลงทยอยเดี่
ยว นอกจากนี้
กรมศิ
ลปากรยั
ง
ได้
เชิ
ญให้
ตี
ฆ้
องวงเพลงเดี่
ยวต่
างๆ บั
นทึ
กเสี
ยงไว้
ซึ่
งท่
านได้
ถึ
งแก่
กรรมขณะเดี่
ยวเพลงกราวใน ด้
วยโรค
หั
วใจวายในการบั
นทึ
กเสี
ยง ณ ห้
องบั
นทึ
กเสี
ยงนวลน้
อย เมื่
อวั
นที่
๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๘
ได้
รั
บการยกย่
องเชิ
ดชู
เกี
ยรติ
เป็
น
บู
รพศิ
ลปิ
น
สาขาศิ
ลปะการแสดง พุ
ทธศั
กราช ๒๕๕๘
๕๘
สมั
ยรั
ตนโกสิ
นทร์