Page 347 - บูรพศิลปิน58

Basic HTML Version

332
บู
รพศิ
ลปิ
น พ.ศ. ๒๕๕๘
นายสมชาย อาสนจิ
นดา (ส.อาสนจิ
นดา)
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
สาขาศิ
ลปะการแสดง
(ละครเวที
ละครภาพยนตร์
และละครโทรทั
ศน์
)
พุ
ทธศั
กราช ๒๕๓๓
เกิ
๑๖ พฤศจิ
กายน พ.ศ. ๒๔๖๔ ที่
กรุ
งเทพมหานคร
ถึ
งแก่
กรรม
๑๙ กั
นยายน พ.ศ. ๒๕๓๖
ยุ
คสมั
รั
ตนโกสิ
นทร์
(รั
ชกาลที่
๖ - รั
ชกาลที่
๙)
ประวั
ติ
และการทำ
�งาน
นายสมชาย อาสนจิ
นดา หรื
อที่
รู้
จั
กกั
นในนาม ส. อาสนจิ
นดา เป็
นบุ
ตร
ของหลวงสหการสั
นทั
ด (แฉ่
ง อาสนจิ
นดา) อดี
ตนั
กประพั
นธ์
นั
กแปล นามปากกา
(ฉ. อาสนจิ
นดา) มารดาชื่
อ สมาน อาสนจิ
นดา (สกุ
ลเดิ
ม ริ
เช็
ง)
เรี
ยนหนั
งสื
อชั้
นอนุ
บาลที่
โรงเรี
ยนราชิ
นี
ต่
อมาเรี
ยนที่
โรงเรี
ยนดรุ
ณศิ
ริ
วิ
ทย์
โรงเรี
ยนกล่
อมพิ
ทยากร
วั
ดพระเชตุ
พน จบชั้
นมั
ธยมศึ
กษาปี
ที่
๖ จากโรงเรี
ยนสวนกุ
หลาบวิ
ทยาลั
ย บิ
ดาถึ
งแก่
กรรม จึ
งต้
องไปเรี
ยนต่
อที่
โรงเรี
ยนปริ้
นซ์
รอเยล จั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
อยู
ในความอุ
ปการะของลุ
งจนจบมั
ธยมศึ
กษาปี
ที่
๘ และกลั
บมากรุ
งเทพฯ
สมั
ครเป็
นครู
สอนอยู่
โรงเรี
ยนอำ
�นวยศิ
ลป์
สอนได้
ปี
เดี
ยวก็
ลาออก และไปรั
บราชการที่
กรมสหกรณ์
โดยการชั
กชวนของ
อธิ
บดี
กรมสหกรณ์
ด้
วยหน้
าที่
ได้
ย้
ายไปประจำ
�ตามจั
งหวั
ดต่
างๆ หลายจั
งหวั
ด ทำ
�ให้
มี
ประสบการณ์
มากมายในการนำ
มาประกอบอาชี
พนั
กเขี
ยน ผู้
ประพั
นธ์
บท และผู้
กำ
�กั
บการแสดงภาพยนตร์
ในเวลาต่
อมา
เริ่
มต้
นชี
วิ
ตเป็
นนั
กประพั
นธ์
และนั
กหนั
งสื
อพิ
มพ์
เมื่
อ พ.ศ. ๒๔๘๖ ขณะประจำ
�อยู่
สหกรณ์
จั
งหวั
ดเชี
ยงราย
เริ่
มเขี
ยนนวนิ
ยายเรื่
องสั้
นคื
“ชี
วิ
ตในภาพวาดอั
นเลอะเลื
อนของพระเจ้
า”
ช่
วงนั
นอยู่
ในระยะสงครามมหาเอเชี
ยบู
รพา
หลั
งจากสงครามสงบได้
ลาออกจากราชการ หั
นเหชี
วิ
ตมาเป็
นนั
กเขี
ยน นั
กหนั
งสื
อพิ
มพ์
ไปประจำ
�อยู่
ตามหนั
งสื
อพิ
มพ์
หลายฉบั
บ จนทำ
�ให้
รู้
จั
กผู้
คนที่
มี
ชื่
อเสี
ยงในวงนั
กเขี
ยน นั
กหนั
งสื
อพิ
มพ์
มากมาย เช่
น ครู
อบ ไชยวสุ
ครู
มาลั
ย ชู
พิ
นิ
ประหยั
ด ศ. นาคะนาท เป็
นต้
หลั
งจากเลิ
กทำ
�หนั
งสื
อพิ
มพ์
ส. อาสนจิ
นดาก้
าวเข้
าสู่
ละครเวที
มี
บุ
คคลมาอุ
ปถั
มภ์
ให้
บวช ตกลงใจว่
าจะบวช
และจะเขี
ยนหนั
งสื
อเล่
มหนึ่
งโดยจะให้
ชื่
อเรื่
องว่
สุ
ขอื่
นยิ่
งกว่
าสงบไม่
มี
แต่
มี
เหตุ
ให้
ต้
องใช้
ชี
วิ
ตเป็
นนั
กแสดงละครโดย
บั
งเอิ
ญ กล่
าวคื
อ ไปพบ
“อิ
งอร”
ชวนให้
แสดงละครเรื่
อง
“ดรรชนี
นาง”
ละครเรื่
องนี้
ทำ
�ให้
ส.อาสนจิ
นดามี
ชื่
อเสี
ยง
โด่
งดั
งอย่
างยิ่
ง จนต้
องรั
บภาระเป็
นพระเอกตลอดมา จึ
งไม่
ได้
บวช และยึ
ดอาชี
พเล่
นละครเดื
อนละ ๒ เรื่
อง เล่
นอยู่
นาน
๗ - ๘ ปี
รวมละครที่
แสดงประมาณ ๒๐๐ เรื่
อง นั
บว่
าเป็
นพระเอกละครเวที
ที่
โด่
งดั
งมากที่
สุ
ดคนหนึ่
งในยุ
คนั้
พ.ศ. ๒๔๙๗ ละครเวที
เริ่
มเสื่
อมความนิ
ยม ภาพยนตร์
เริ่
มเข้
ามาแทน ส. อาสนจิ
นดา จึ
งเข้
าสู่
วงการด้
วยการ
เขี
ยนบทและแสดงเป็
นตั
วประกอบในเรื่
อง
“สุ
ภาพบุ
รุ
ษอเวจี
ของ เนรมิ
ตภาพยนตร์
เป็
นเรื่
องแรก จากนั้
นก็
แสดง
ภาพยนตร์
อี
กหลายเรื่
อง ตลอดจนสร้
างผลงานการแสดงและกำ
�กั
บการแสดง เป็
นจำ
�นวนมากมายตั้
งแต่
พ.ศ. ๒๔๙๘ -
พ.ศ. ๒๕๐๑ เช่
น กั
งวานไพร เสื
อน้
อย สาวเวี
ยงฟ้
า โบตั๋
น นํ้
าใจสาวจี
น ขวั
ญใจคนจน ล่
องสมุ
ทร สิ
บเก้
ามงกุ
ฎ สเว็
ตเตอร์
สี
แดง รั
กคุ
ณเข้
าแล้
ว สุ
ภาพบุ
รุ
ษสะลึ
มละลื
อ ๑ ต่
อ ๗ ประจั
ญบาน (ทำ
�รายได้
สู
งมาก)
๕๓
สมั
ยรั
ตนโกสิ
นทร์